ที่มา มติชน
ที่จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย(ทรท.) กล่าวภายหลังจากเดินทางมาบรรยายพิเศษเรื่อง ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาโท ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วิทยาเขตเชียงคำ ณ วิทยาลัยการอาชีพเชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) มีการเชิญชวนให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ร่วมกันแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ(รธน.) ฉบับ พ.ศ. 2550 บางมาตรา นั้น ตนคิดว่าเป็นเกมการเมืองมากกว่า ปชป.ไม่ได้มีความจริงใจที่จะแก้ไข รธน.กับพรรคฝ่ายค้านแต่อย่างใด ซึ่งข้อเสนอชวนพรรคเพื่อไทยแก้ รธน. เป็นเพียงการหวังของ ปชป.ที่จะอยู่ครองอำนาจที่มีอยู่ในขณะนี้ให้ยาวนานต่อไปเท่านั้น เพราะขั้นตอนการแก้ไข รธน.จะต้องใช้เวลา ซึ่งหากมีถ่วงเวลาของรัฐบาลด้วยการสร้างเงื่อนไขใด ๆ ขึ้นมาอีกก็ตาม ย่อมทำให้รัฐบาลได้โอกาสที่จะรักษาอำนาจของตนเองให้นานยิ่งขึ้น
อดีต หน.ทรท. กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ครั้งก่อนที่รัฐบาลเคยเสนอให้ พท.ร่วมแก้ไข รธน.มาแล้วครั้งหนึ่ง และในครั้งนั้นตนมองว่า พท.พลาด ด้วยเหตุที่รู้ไม่เท่าทันพรรคฝ่ายรัฐบาล สุดท้ายเมื่อแก้ รธน.ไม่ได้ ความเสียหายรัฐบาลจึงโยนมาให้แก่พรรคฝ่ายค้าน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าฝ่ายค้านทำให้เสียเวลาและเป็นอุปสรรคของการแก้ รธน. มาครั้งนี้ ปชป.เสนอเงื่อนไขมาถึง พท.อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ พท.ต้องได้รับความผิดพลาดซ้ำรอยเดิม จะต้องวิเคราะห์และศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจใด ๆ ลงไป
“อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ทางการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาลอยู่ในขณะนี้ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจากนี้ไป อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งหากรัฐบาลไม่ยอมยุบสภาหรือลาออก ประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งมาโดยตลอดคงไม่สามารถยินยอมให้รัฐบาลอยู่ต่อไปหากครบวาระ” นายจาตุรนต์ กล่าว