WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, December 27, 2009

NGOsที่รักภาคพิสดาร(4):จตุรเทพเหลืองอื๋อ

ที่มา Thai E-News





จตุรเทพNGOเหลือง-ว่ากันว่าเอ็นจีโอขาใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อวงการในเวลานี้นอกจากหมอประเวศแล้วก็ประกอบด้วย"ลูกรักหมอประเวศ"3หน่อคือ ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม,เอนก นาคะบุตร และหมอพลเดช ปิ่นประทีป


โดย คุณรักเอ็นโตดี ห่วงประชาชน
ที่มา ประชาไท
27 ธันวาคม 2552

หมายเหตุ:อันเนื่องมาจากผู้ใช้นามสุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์ ได้เขียนบทความเรื่อง"ขุนนาง NGO กป.อพช.และวิธีคิดอำมาตยาธิปไตย"ลงในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของขบวนองค์การพัฒนาภาคเอกชน หรือ(NGOs)ว่าอยู่ตรงกันข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย

ต่อมามีผู้ใช้นาม"รักเอ็นโตดี ห่วงประชาชน"ได้เขียนวิพากษ์ขบวนการNGOsอย่างเผ็ดร้อนในความเห็นท้ายบทความนี้ ไทยอีนิวส์เห็นว่าเป็นการวิพากษ์ในลักษณะของ"คนวงใน"วิพากษ์กันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนให้ได้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดNGOsจึงมีบทบาทความเคลื่อนไหวในลักษณะต่อต้านประชาธิปไตย อิงแอบแนบชิดกับอำมาตย์เผด็จการ ทั้งนี้ผู้อ่านพึงใช้วิจารณญาณ และไทยอีนิวส์ยินดีเผยแพร่ให้ หากผู้ที่ถูกพาดพิงจะมีปฏิกริยาโต้ตอบกลับมา


ขาใหญ่ในแวดวงเอ็นโตดีรุ่นรองๆส.ศิวลึงค์,หมอประเวศก็นี่แหละ"อาจารย์ไพบูลย์"

ก็ไม่รู้เป็นงัยไปที่ใหน ๆ ชาวบ้านชาวช่องก็เรียกพี่แกว่า “อาจารย์ไพบูลย์” ทั้ง ๆ ตลอดชีวิตของคนๆนี้หารับประทานเลี้ยงชีพกับเรื่องการเงินการทอง ธนาคง ธนาคาร อะไรเทื่อกนั้นอะนะ...เท่าที่รู้แกไม่เคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่ไหนมาเลย แต่นัยว่าวงการเอ็นโตดี หากขาใหญ่ได้ที่ เขาจะอวยกันให้เป็น"อาจารย์"โดยอัตโนมัติ

บุรุษผู้นี้เค้ามีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงหน้าผากเถิก พูดง่ายๆว่า “หัวล้าน” อะนะ

ชาวบ้านที่พวกสาวกของอาจารย์ไพบูลย์ชอบเรียกกันนักกันหนาด้วยท่าทีใก้เกียรติว่า “พ่อนั่น พ่อนี่” “แม่นั่น แม่นี่” กรูก็สงสัยเหมือน “หม่อมแม่” นั่นแหละวะ.....

เออ แล้วสาวกของจารย์ไพบูลย์หัวล้านเนี่ยะนะ ก็ชอบเหลือเกินที่จะสวมหมวกให้ชาวนา ชาวไร่แก่ ๆ ยกขึ้นหิ้งให้เป็น “ปราชญ์ชาวบ้าน” โธ่ ๆๆๆ ปาดพ่อปาดแม่งมึงนะซิ...พวก “เขียดตะปาด” เอ้ย.......ไอ้ที่มึงไปเห็นชาวบ้านปลูกพริก ปลูกผักกินกันนั้น แล้วรู้สึกอินมัก ๆ ว่า แม่งพอเพียง ๆๆๆ พวกมันจึงเอามาโฆษณาเพื่อต่อทุนหลอกแดก “รัฐบาล” ต่อไปงัยพี่น้อง.....ถุด...ชาวบ้านเค้าทำมาหากินตามประสาแบบนี้มานานแล้วว๊อย !!!!

เอ็นโตดีหัวล้านเนี๊ยะ....เป็นศิษย์ก้นกุฎิของ “ป๋วยปีแปกอ” เลยนะมึง....ป๋วยปี่แปกอที่เป็นบิดาวงการเอ็นจีโอที่เล่าไปตอนแรกนะแหละหาทุนหารอนให้ไพบูลย์ได้ไปเรียนเสด-สาดที่อังกฤษโน่น เพราะปูมหลังของไพบูลย์เป็นลูกชาวนายากจนมั้ก ๆๆ (ก็อีกแล้วเหมือนกับเจ้าคุณสอฯ ราชสีห์เปี๊ยกเด๊ะเลยที่พระบิดาวงการเอ็นจีโอส่งไปอังกฤษ...ก็แหมพระบิดาเป็นถึงนักเรียนเก่าและเป็นถึงเสรีไทยสายอังกฤษมันก็ต้องมีเส้นก๊วยเตี๋ยวก๊วยจั๊บบ้างเป็นทำมะดาอะนะ)

ไพบูลย์ร่ำเรียนไม่กี่ปีก็ได้ ป.โท กลับมาก็ใช้ทุนที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยอะนะ...ต่อมาก็มาเป็นใหญ่ที่ตลาดหุ้นอะนะ....และต่อเมื่อพระบิดาคืออาจารย์ป๋วยปี่แปกอได้ไปเฝ้าเง็กเซียนบนสวรรค์แล้ว....ผู้ที่เป็นตัวตายตัวแทน เสาหลักทางจารีต คุณธรรม ความดีอะไรเทือกนั้น ก็ตกมาอยู่ในบ่าของอีตาหมอประเวศงัย....พ่อประเวศ ก็อย่างที่กรูบอกไปแล้วงัยว่า มันมี “ลูกรัก” อยู่ 3 พระหน่อ พี่ใหญ่ ครือ อีตาไพบูลย์หัวล้านนี่แหละ น้องรอง ครือ เอนกปากเบี้ยว น้องเล็ก ครือ หมอพลเดช.....เดี๋ยว ๆ อย่าใจร้อน จะพาเข้าไปเรียนรู้แต่ละพระหน่อครับท่าน...(แฮ่ม...ใช้ภาษาพวกมันหน่อย)

เมียของไพบูลย์เนี๊ยะเป็นถึง “คุณหญิง” เลยนะเมึง ก็กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์คนปัจจุบันงัยละสาดดดด......สรุปก็พวกศักดินาสวามิภักดิ์ทั้งผัวทั้งเมียอะนะ...กรูไม่แน่ใจว่าผ้าปูที่นอนแม่งสีเหลืองอะป่าว.....ต้องสืบก่อน !!!....

อ้าว แล้วเจ้าของ ธ.ไทยพาณิชย์เนี๊ยะใครน๊า?....ฮา ๆๆๆ หุ ๆๆๆๆ คุก ๆๆๆๆ.....ทั้งอีตาหัวล้านกะเมียตอนแสดงบัญชีทรัพย์สินสมัยไปเป็น “นักการเมือง” เอ้ย! ขออำภัยอีตาหัวล้านไม่ชอบนักการเมืองวะ มันไม่ชอบเลือกตั้ง แกชอบ “ระบอบเทวดา” จึงไปเป็นเสนาบ่อดีรับใช้ คมช. ตอนมีนายกฯบร๊ะราชทานงัยสมัยหลังปฏิวัติ19กันยาฯ....ผลการแสดงบัญชีแม่งรวยโคตร ๆ .....แต่เม่งก็ท่องคาถา “พอเพียง ๆๆๆ” ให้ชาวบ้าน ก็พวก “ประชาสวามิภักดิ์” ของเครือข่ายองค์กรมัน “พอช.” งัยพี่น้อง....พอช. เนี๊ยะนะ...อีตาหัวล้าน อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำตลอดเลยเชื่อปะ.....

พอช. เป็นชื่อย่ออะนะ มันย่อมาจาก “สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน” (องค์การมหาชน) เป็นองค์การรัฐประเภทที่ 3 เป็นผลมาจาก รธน.40 นั่นแหละ....รวมทั้งพวก “ตระกูล ส.” ทั้งหลาย เช่น สสส. / สกว. / สปรส./ สปสช.

แต่บางองค์กรก็เป็น พรบ.อะนะ ....องค์กรพวกนี้มีคนให้คำจำกัดความว่าเป็น “NGOs ภาครัฐ” อะนะ กรูก็งง ๆ อยู่ คงจะหมายถึง ทำงานแบบพวกองค์กรพัมนาเอกชน (อพช.) หรือ NGOs โลก ทั้งหลาย แต่งบประมาณ “รัฐบาล” แม่งให้ทุกปี ๆๆๆ....ก็ครือเป็นแหล่งทุนภายในประเทศชนิดหนึ่งอะนะ....ครือ หลังจากพวกฝรั่งหน้าโง่ มันรู้ว่าถูกพวก NGOs โลก ทั้งตุ๋น ทั้งตุ๋ย...(ว๊ายมีด้วยหรือฮะ....)มันก็ไม่ให้เงินเมืองไทยแล้ว (ก็แม่งทั้งตุ๋น ทั้งตุ๋ยกรูสาดด...กรูเอาไปให้พวกลาว พวกเขมรแม่งเลยดีกว่า....)

แต่พวก NGOs โลก แม่งเก๋าว่ะ แม่งตามไปหลอกแดกไอ้ฝรั่งหน้าโง่ถึงเมืองลาว เมืองเขมรโน่น นัยว่า ไปเป็นผู้เชี่ยวชง ผู้เชี่ยวชาญ เอ๊กสะปงเอ๊กสะเปิดดากกันเพรียบเลย...ไม่เชื่อพวกเมิงถามพวก เสี่ยอเนก เสี่ยโกวิทย์ เสี่ยปัญญา เสี่ยจัมโป้ ดูเด๊ะ...พวกนี้รับเป็นเงินดอลล์...อุไรวรรณ ๆ ๆ เลยนะมึง...ฮา ๆๆๆๆ

อะ อะ อย่าเอ็ดไป อีตาหัวล้านเนี๊ยะยังเคยครองตำแหน่งเจ้ายุทธจักรบู้ลิ้มด้วยนะฮะ...อ้าว ก็ ประธาน กป.อพช.ชาติ งัยคับ...(ผมลองนึก ๆ ดู พวกเอ็นโตดีขาใหญ่ทั้งหลาย แม่งยังขาดเหลือใครมั่งว่ะที่ยังไม่ได้นั่งบัลลังก์ทอง จารย์บัณฑร ก็เป็นแล้ว....ไพบูลย์หัวล้านก็เป็นแล้ว....จารย์ศรีสว่าง ก็น่าจะเคยเป็น.....อีตาเดช พุ่มคะชวย ก็เคยเป็น....จารย์จอน ก็เป็นแต่ชิงลงบัลลังก์ก่อน ก่อนจะเป็นบัลลังก์เลือด ฮา ๆๆๆ....อ้อ เมียคุณเธียรธรรม เหี้ยเหลืองสำนักปากแดงรังสิต ชื่อ เรวดี ประเสริฐเจริญสุข ก็เคยเป็น....

และล่าสุด ก็เอ็นโตดีนักสิทธิฯ ไพโรจน์ พลเพชร ยังงัยละไอ้สาดด...แม่งเป็นนักสิทธิฯยังงายม่ายทราบได้ พอ คมช. แม่งยึดอำนาจ แทนที่จะปกป้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน แม่ง เสือกไปยกยอปอปั้น แถมเป็นนั่งร้านเข้าไปนั่งร่าง รธน.ฉบับหัวคูณให้พวกเผด็จการอีก....ดู๊ดูแม่งทำ....เอ้า สานุศิษย์สำนักนี้พิจารณาหน่อยครับ...ลืมอุดมการณ์สมัยเป็นแอ๊คติวิสต์ในหมาลัยแล้วเหรือพวกเมิงนะ...ตาพิทักษ์ ตานัย ตาโป๊ะ...ชี้แจงหน่อยโว้ย!!!

การครอบครองยุทธจักรบู้ลิ้มอย่างยาวนานนับแต่ทศวรรษ 2510 เป็นต้นมาของพวก NGOs ขุนนางเหล่านี้ ยิ่งมาปรากฏเด่นชัดสมัยก่อร่างสร้าง พอช.นี่แหละ.....ก่อนหน้านี้แม่งก็หลอกแดกฝรั่งอย่างที่ว่าไปแล้วอะนะ...พอซักราว ๆ ต้นทศวรรษ 2530 เนี๊ยฝรั่งมันเริ่มถอนตัวไป...อีตาหมอประเวศ ก็ระดมไพล่พลทหารเลววางแผนแย่งชิงเม็ดเงินภาษีประชาชนแบบเนียน ๆ ไม่ให้คนเค้าจับได้อะนะ.....เรื่องของเรื่องแม่งมันถึงยุ่งและมาเดือดร้อนกรูต้องอดหลับอดนอนมานั่งเล่าให้พวกเมิงฟังอยู่นี่งัยสาดดดด.....

พอช. นี่มันเป็นพันธุ์ผสมอะนะ กล่าวคือ เอ็นโตดีแม่งชอบท่องจำ ดังนี้ เมื่อจอมพลผ้าขะม้าแดงดมดากอเมริกาแล้วให้ไอ้ฝรั่งหัวแดงมาจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 เริ่มใช้ปี 2503 แต่ผ่า....ผู้ใหญ่ลีเสือกตีกลองประชุมปี 2504 จึงได้เลี้ยงหมาน้อยธรรมดา ๆ ๆ...เต็มบ้านเต็มเมืองงัยละสาดดด....เมื่อแผนพัฒนาฉบับที่ 1 ประกาศใช้ รัฐมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทางอะนะ ภาคเกษตรก็ส่งเสริมการปลูกพืชเพื่อการส่งออก ทำให้ชนบทล่มสลาย ชาวบ้านนอกทั้งหลายต่างหนีตายเข้าเมืองไปเป็นกรรมกร รับจ้างหากินหายากรายวัน ไม่มีที่หลับที่นอน แม่ง ก็ไปบุกเบิกที่ดินว่างเปล่า...ไม่รู้ของใครกรูปลูกกระท่อมอยู่กันตายก่อนว่ะ ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา และเกิด “สลัม” วู้ วู้ วู้ !!!!

ไอ้สลัมในกรุงเทพฯเนี๊ยะใหญ่ ๆ ช่วงแรกก็สลัมคลองเตย สลัมดินแดง อะนะ...รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยพยายามจะจัดการไล่พวกคนถ่อยสถุนสกุลสัตว์ (พวกข้าราชการและคนรวยในเมืองแม่งเรียกอย่างนี้จริง ๆ กรูไม่ได้พูดเองนะเมิงสัด..) พวกนี้ออกไป....แต่ก็จัดการไม่ได้ซะที....

อยู่มาวันดีคืนดี “น้าชาติมาดนักซิ่ง” ก็เหยียบตูด “กระเทยเฒ่า” ขึ้นเป็นนายกฯ อีตาน้าชาติเนี๊ยะแกก็เสือกมีลูกบังเกิดเกล้าครือ “อ.โต้ง” เมื่อก่อนเค้าเรียกแกว่า “ซ้ายชีวาส” เวลา “ไอ้เพิก” พาไปเที่ยวแถว ๆ นางรอง หนองกี่ เนี๊ยะ .....เสี่ยสัง-วีระพล โสภา นี่แหละเป็นคนคุกเข่าชงเหล้าให้อ.โต้งแม่งกระเดือก แล้วแม่งก็พล่าม ๆๆๆๆ เมาแล้วก็กลับ..สาด.....มิหน้าเล่า แม่ง ถึงได้เหลืองถึงใจทั้งไอ้โต้ง ไอ้เพิก ไอ้สัง อะนะ....

เดอะโต้ง เนี๊ยะคิดพิสดาร มันตั้งกองบัญชาการที่บ้านทรายทองอะนะ...มันก็ตั้งที่ปรึกษาฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ พอมาถึงฝ่ายแก้ปัญหาคนจนเมือง มันก็ตั้งครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา (มี ณ ด้วยหรือไม่มี ณ อันนี้แม่งต้องไปถาม น้องป๊อบ นางสาวไทยคนงาม...เอาเองสัด) และรศ.ประภาภัส นิยม-เจ้าของโรงแรม เอ้ย โรงเรียนรุ่งอรุณ ที่โคตรแพงสุด ๆ เอ้อ ตระกูลนิยมยังมีธุรกิจทำอะไรกรูจำไม่ได้แล้ว เค้าเรียกกัน แปลน ๆ อะไรเทือกนี้แหละ....

และก็มีเจ้าสำนัก “ฝูงคนต้องสั่ง ฝูงสัตว์ต้องต้อน” สมพงษ์ พัดปุย ๆๆๆๆ นั่นงัยเป็นมือประสานงา เอ้ย ประสานงาน....ที่นี่น้าชาติแกก็ให้เงินมา 250 หรือ 280 ล้านบาทนี่แหละเพื่อแก้ปัญหาสลัม....เอาละคับ เอาละคับ พี่น้องคับ เป็นเรื่องขึ้นมาทันที....พวก NGOs โลก สายสลัมเนี๊ย แม่งก็มีหลายพวกอะนะ.....สายออมทรัพย์ก็พวก “องค์การนานาชาติเพื่อร่วมกันพัฒนา” (ฟอสเตอร์) เอ็นโตดี สายฟอสเตอร์ที่ยังทำงานกินดีมีสุข ก็ สิน สื่อสวน ผช.ผอ.พอช. นี่แหละอ๊อฟฟิศอยู่แถวกิ่งเพชร.....สายต่อสู้ไล่รื้อ ก็มี “มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย” (มพศ.) นี่อยู่แถว ๆ หน้ารามก็มีจำพวก สุวิทย์ วัดหนู(นี่ตายไปแล้ว...หลงไปอยู่กับไอ้แป๊ะลิ้มก็เลยลมปราณแตกซ่าน จอมยุทธทั่วหล้าไม่อาจใช้พลังลงปราณแก้ไขได้ทันอะนะ) จำพวก จำนงค์ จิตรนิรัตน์ นัสเซอร์ หยีมะ เห่อ ๆ ๆ ยังมีที่ใหนที่ไม่ให้พวกเมิงไปชุมนุมประท้วงอีกว่ะ...

ยังมี “กลุ่มเพื่อนร่วมงาน” (POP) อันนี้ปรมาจารย์บัณฑร เป็นกุนซือ เอ็นโตดี ก็จำพวกเสี่ยหรั่ง ผช.ผอ.พอช. นี่งัย มีไอ้เอก กระบี่มือสอง รองจากสุวิทย์ วัดหนู ของ เครือข่ายสลัม 4 เหลือก เอ้ย 4 ภาคนี่แหละเป็นตัวเอ้ ช่วงหลัง POP หมดเงิน ไอ้เอกก็ไปก่อตั้ง “โฟกัส” รับใช้พี่น้องต่อไปในฐานะกระบี่มือหนึ่งของบู้ลิ้มสลัม......เออกรูลืมไป....POP เค้ามีงานชนบทด้วยนะ พื้นที่ต้นแบบก็ตำบลสายนาวัง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีเสี่ยโย-บำรุง คะโยธา เป็นศิษย์เต้ยภาคชนบทของปรมาจารย์เค้าหละ....

ยังมี “สมาคมร่วมกันสร้าง” สำนักนี้เล่นเรื่องกฎหมายก็มีจำพวก ทนายใหญ่ ไอ้แก่-วุฒิชัย โคราช และก็ไอ้พงษ์ สลัม 4 ภาคที่ยังทำงานแข็งขันกันอยู่...ทั้งหลายทั้งปวงพวกนี้ก็จะเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมาย พรบ.สลัม อะนะ....แต่ก็เลือนรางไปแว้ว....

เงิน 200 กว่าล้านก็ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันอะนะ...รัฐบาลต่อมาก็ให้เงินอีก 1,250 ล้านบาท...ที่นี้แหละ....เอ็นโตดีหัวล้าน ถึงได้เข้ามาวางแผนร่วมกับสานุศิษย์จัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนเมือง...ต่อมาก็เป็น “สำนักงานพัฒนาชุมชนเมือง” (พชม.) สังกัดการเคหะแห่งชาติ หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องที่อยู่อาศัยทั่วพิภพ....เจ๊เขียวทึนทึก (กรูไม่ได้ว่าเองนะเมิงสาดดด...หม่อมแม่เค้าตั้งให้นะฮะ...) ก็เป็นข้าราชการสังกัดการเคหะแห่งชาติอะนะ...แต่ศรัทธาสมาทานความดีของเฮียหัวล้านแก..ถือว่าเป็นน้องรักของเฮียแกว่างั้นเถอะ....อย่ากระนั้นเลย เขียวเอ๋ย เองมาช่วยงานกรูก่อน แล้วกรูจะดันตูด เอ้ย ผลักดันให้เป็น อึ้งย้ง ครอบครองยุทธภพต่อจากกรู.....

เจ๊เขียวทึนทึก ตามประสาคนไม่มีผัว แกก็ไปดูงานเมืองนอกเมืองนามาเยอะอะนะ เกิดของขึ้นก็รับปากทันใด....พะเจ้าค่ะเสด็จพี่.....(ไอ้เหี้ยมันหนังจีน หรือ หนังจักร ๆ วงศ์ ๆ ตอนเช้าของ ช่อง 7 สีวะเนี้ยะ...)...แต่อย่ากระนั้นเลย จอมยุทธทั้งในด่านและนอกด่าน ยังไม่รู้จักเองมากนัก ฉะนั้น ให้กรูสวาปามตำแหน่งเจ้าสำนักไปก่อนละกัน....สาดดด....และแล้ว อีตาหัวล้าน ก็ได้เป็น “ผู้จัดการ” พชม.คนแรกงัย.. !!!!

ยุทธจักรบู้ลิ้มเกิดข้าวยากหมากแพง ประชาชนตกทุกข์ได้ยาก เศรษฐกิจโลกทำพิษ ฟองสบู่แตก บิ๊กจิ๋วหวานเจี๊ยบ ถอดใจลาออก ..ชวน หลีกไป มาเป็นนายกฯ เกิดเฮี้ยนขึ้นมาไปกู้เงินแม่งเค้าแหลก ทั้ง IMF WB ฯ ล ฯ มาแก้ขัด.....แต่ทำยังงัยวะจะไม่ให้พวก NGOs โลก มันขย่มตูดกรู อย่ากระนั้นเลยต้องหาทางโยนเศษเนื้อให้พวกแม่ง มันจะได้ไม่มาเห่ามาหอน..ชวน จึงอัญเชิญจำเพรียก อีตาประเวศ มาปรึกษา อีตาหมอประเวศก็เอาบรรดาลูกรักทั้งหลายมาออกแบบกันว่างั้นเถอะ....พวกเมิงต้องช่วยกันออกแบบให้ “เนียน ๆ” นะว๊อย ....งานนี้งานเข้า!!!!

ชวนก็อนุมัติเงินกู้จาก WB (เวิลด์แบงก์) จำนวน 4,800 ล้านบาท มาให้จัดตั้ง “สำนักงานกองทุนเพื่อสังคม” (SIF) งัย.....ที่นี้สนุกกรูละมึง.....เอ้อ กรูลืมไปว่า อีตาหัวล้านช่วงนั้นจำเพาะเหมาะเจาะแม่งเหลือเชื่อ แม่งมาได้ดีเป็น “ผู้อำนวยการ” ธนาคารออมสิน ก็ใหญ่สุดในออมสินนั่นแหละ..แต่เพรียกนี้เค้าไม่เรียกกรรมการผู้จัดการใหญ่เหมือนธนาคารอื่น ๆ (ดูดู้...ผัวก็นายธนาคารใหญ่ เมียก็นางธนาคารใหญ่ กรูนึกไม่ออกว่าแม่งใช้ชีวิตพอเพียงยังงัย...งง)......

อย่ากระนั้นเลย เชื่อหัวล้าน ๆ กรูเถอะ ไอ้ SIF เลือดไหลซิป ๆๆๆ เนี๊ยะเอามาอยู่ในคาถากรูละกัน กรูไม่เป็นประธานหรอกเป็นแค่รองประธานก็พอ ส่วนพระประธานก็ได้จารย์อัมมาร สยามวาล จาก TDRI มาเป็นให้...

แล้วตำเหน่งบริหารละ...ต้องดูแลเงินตั้งมากมายเอาใครดี ปรึกษาพ่อดีกว่า เอ้า พอก็บอกว่า ก็กรูมีลูกรักอยู่อีกตั้ง 2 หน่อ เมิงเลือกเอาซักคนซิ...ด้วยเหตุดังนั้นหวยจึงมาออกที่ เอนกปากเบี้ยวงัย...ได้เป็น ผอ.ซิป สบายเฉิบ.....หมอพลเดช ได้แต่เก็บรอยแค้นไว้ในใจ เอาเหอะลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปียังไม่สาย......อ้าว เมื่อ ลูกพี่หัวล้าน ไปดูแล ธ.ออมสิน แล้ว พชม.ละ ก็แหงแซะ เจ๊เขียวทึนทึก ก็ขึ้นเสวยอำนาจเป็น ผจก. คนต่อไป เสวยสุข เสวยทุกข์อยู่กับกองเงินกู้ญี่ปุ่น “มิยาซาวา” นั่นปะไร....

รวบรัดตัดตอน ไอ้ SIF เพือก เอ็นโตดี โลก หน้าบางบางคน ก็สำรากใส่ว่าเป็นเงิน “เปื้อนเลือด” เมิงอย่ามาให้กรูนะ...หนูไม่เอา ๆ ๆ....แต่อย่างว่า ฝรั่งแม่งไม่ให้เงินแล้ว ไม่มีเงินกินเบียร์ในร้านเงียบ ๆ แล้ว....อย่ากระนั้น หาหัวองค์กรอะไรก็ได้ว่ะ สอดใส้เข้าไป อเนก ก็เพือกเรา เฮียหัวล้านก็ลูกพี่กรู...เอ็นโตดี ทั้งหลายก็สบายแฮ....แต่อย่างว่าแหละไอ้ SIF เนี๊ยะมันมีวาระกรรมเวรของมันราว ๆ สิ้นปี 2545 มันก็จบโครงการฯ เอนกปากเบี้ยว ก็ม้วนเสื่อกลับบ้านไปนอนหนุนตักเสด็จพ่อประเวศของมันเหมือนเดิม....ป๋า ๆ มีอะไรให้หนูเล่นอีกปะ หนูจะเล่นให้จ๊ำบ๊ะกว่า SIF เลย....ไม่มีว๊อย กรูกำลังยกร่างระเบียบ สสส. อยู่อย่าเพิ่งกวนส้น !!!

ท่านผู้ชมคงจำได้...หมอพลเดช เก็บความแค้นไว้ 4-5 ปี ระหว่างนั้นก็ซ่องสุมไพร่ทาสพลเลวในสำนัก LDI ไว้คอยจังหวะเหมาะ ๆ จะทำให้เหี้ยมเหนกกระอักเลือดให้ได้ฮ่า ๆ......ขอตัดฉาก ไปยัง พชม. ภายหลังที่ เจ๊เขียวทึนทึกขึ้นเป็น ผจก. ก็ร่วมกับลูกพี่ออกแบบองค์กรใหม่ ครือ พอช.นั่นแหละในช่วงใกล้ ๆ กับที่ SIF หมดเงินนั่นแหละ...ไพบูลย์หัวล้านนี่แหละ จัดตั้ง พอช. โดยรวมเอาเงิน พชม.ที่เก็บเล็กผสมน้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ไปรวมเข้า กับ “กองทุนพัฒนาชนบท”ของสภาพัฒน์ฯ อีกหลายร้อยล้าน มาก่อตั้งเป็น สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระประเภทที่ 3 ขึ้นตรงต่อ กระทรวงพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์...(โอยกรูเหนื่อยแว้ว ชื่อแม่งยาวฉิบหาย สาด ๆๆๆ....)

ครานี้ก้อีหรอบเดิม....เขียวเอ๋ย เอ็งทำงานมาก็ดีแล้ว แต่ยังไม่ดีพอ กรูนี่มันชั้นเทพ กรูขอสตำแหน่งสูงสุดก่อนว่ะ เมิงจะยอมไม่ยอมสาดดด....ยอมเจ้าค่ะ...และแล้ว เอ็นโตดีหัวล้าน ก็ออกจาก ธนาคารออมสิน มานั่ง บัลลังในนั่งตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” พอช. คนแรกงัย.....

อ้าว แล้วกรูละ อเนกปากเบี้ยวโวยวาย....อีตาไพบูลย์หัวล้านก็หาทางออกให้ เอางี้ แม่งยุ่งฉิบหาย กรูให้มึงก่อตั้ง “วิทยาลัยการจัดการทางสังคม” (วจส.) เอามาเป็นไส้ติ่งของ พอช. กรูจะแอบถ่ายเงินกงสีให้เมิงเอง.....เอนกปากเบี้ยว ได้ฟังดังนั้น มันก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สบายแล้วพวกเรา....เพราะเป็นใหญ่อยู่ SIF เกือบ 5 ปี แม่งชัก โกอินเตอร์จะให้มากระจอกไม่ได้ เพราะแกสร้างข้าทาสบริวารไว้เยอะ...ครั้นจะไปขอตำแหน่ง ผอ.LDI กับอีตาหมอประเวศ ก็มีหมอพลเดช นั่งขวางอยู่นานแล้ว...นี่ครือที่มาของวาทะในหมู่พี่น้อง 3 หนอพุทธางกูล ที่ว่า “พ่อเรารักลูกไม่เท่ากัน” ยังงัยละสาด ๆๆๆ.....

แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้าว่ะ.....อย่างที่กรูเคยบอกอะน่ะ มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม หรือ มอส.เนี๊ยะเค้าผลิตคนมีคุณภาพคับแก้วไว้เยอะ....เสี่ยชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานใหญ่ และขาใหญ่ กป.อพช.ภาคเหนือ มอส.รุ่น 1 พี่แกก็จ้องมองสถานการณ์มานาน ก็เข้ากระซิปกระซาบเป่าพรวด ๆ ข้างหูเจ๊เขียวทึนทึก ว่า หากเหี้ยมเอนกมานั่ง ผอ.วจส.ละก็เป้าหมายมันคือ ผอ.พอช. มันต้องมาเลื่อยขาเก้าอี้เจ๊แน่ ๆ....อย่ากระนั้นเลย ตัดไฟแต่ต้นลมอะนะ และแล้วตำแหน่ง ผอ.วจส. จึงตกเป็นของเสี่ยชัชงัย...พวกเมิงถึงบางอ้อหรือยังละ

เสี่ยชัชก็ กป.อพช. เปี๊ยกแมวเหมียวก็ กป.อพช. เวลา พอช.แม่งเหี้ยมตัดเงินงบประมาณประขำปีของ วจส. จึงเกิดกรณี เปี๊ยกแมวเหมียว ทำหนังสือประท้วงกรรโชกทรัพย์ให้น้อง ๆ จึงเป็นที่มาของ “วงสมานฉันท์” ร้องห่มร้องไห้ขี้แตกขี้แตนใส่กันเมื่อไม่กี่ปีมานี้งัย...

นัยว่า ต้องเดือดร้อนทั้งโคตรเหง้าสักหลาด NGOs โลก เลยอะนะ...ต้องไปลากคนแก่ ๆ อย่าง จารย์ศรีสว่าง จารย์อคิน จารย์บัณฑร แหง่ละมิสเตอร์เคลียร์มันต้องเอ็นโตดีหัวล้านแหงม(ลืมไปว่า ภายหลัง อีตาหัวล้านหมดวาระของ ผอ.พอช. ก็ทำตามสัญญาดันตูด ๆ จริง ๆ เจ๊เขียวทึนทึกขึ้นนั่ง ผอ.พอช.ต่อจากตัวเอง...) ...ใต้หล้าจึงได้แต่สดับรับฟังว่า ศึกสายเลือดครั้งนี้ เป็นการสมานฉันท์ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อจะร่วมกันครอบครองยุทธภพต่อไป มันครือ “น้ำตาแห่งทศวรรษ” ....และแล้วพวก วจส. ก็ได้งาบเม็ดเงินเป็นสินน้ำใจไปก้อนโต...แล้วอย่างนี้จะไม่ให้กรูด่าได้จั๋งใด๋ ฮ่วย ๆๆ....

ส่วนเอนกปากเบี้ยว ก็ผันตัวเองไปเป็นเอ๊กสะเปิด อยู่เมืองลาว แว่ว ๆ มาว่า พี่เค้ากลับมาเมืองไทยแว้ว....เอ ยุทธภพจะถึงครานองเลือดอีกมั๊ยหนอ....ลี้คิมฮวง ได้แต่รำพัน....

ส่วนขาใหญ่ ลูกผู้พี่นะเหรอ สบาย ๆ ก็เขยิบจาก ผอ.พอช. ไปเป็น “ประธานบอร์ด พอช.” แม่งใหญ่กว่า ผอ.อีกว่ะ....และแล้ววันดีคืนดี บังธิ แม่งก็ยกกำลังป่าเถื่อน เข้ายึดอำนาจรัฐ.....แม่งตั้งนายกฯเทวดาแล้วยังไม่พอ ไอ้เหี้ยมเนี๊ยะเสือก ตั้งเสนาบ่อดีเทวดา คนดีไม่มีที่ติ ก็ไพบูลย์หัวล้านนี่แหละ ไปเป็น รมต.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (โอย..กรูเหนื่อยกับชื่อกระทรวงแม่งนี่จริง ๆ) คุม พอช. อีกชั้นหนึ่งงัย....ที่นี่ละอีแม้นเอ๋ย..เงินไหลมาเทมาอะน่ะ...

แค่นั้นยังไม่พอ...แม่งตั้งน้องคนเล็ก หมอพลเดช ไปเป็น “เลขานุการ รมต.” สมใจนึกมัน...และแต่งตั้งพรรคเพือกตัวเองไปนั่งเต็มกระทรวงฯ ขนาดไม่มีเก้าอี้จะนั่งกันอะนะ บางคนนั่งหน้าห้องขี้ กรูนึกว่าคนเก็บเงินค่าห้องขี้แถว ๆ บขส.หมอชิต...บลา บลา บลา...หน้าตาคล้าย ๆ สิน สื่อสวน กับ จริกา พอช. อะไรเทือกนี้แหละ.......

พอหัวล้าน ได้ดีขึ้นเป็น รองนายกฯ อีกตำแหน่ง ก็ยกน้องเล็ก หมอพลเดช ขึ้นเป็น รมช.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ อะนะ...นัยว่ากันไม่ให้มายุ่งวุ่นวายกับตำแหน่ง ผอ.พอช. เพราะเจ๊เขียวทึนทึก ขอต่อสัญญาอีกสมัยว่ะ....

ข้าน้อยขอคารวะ 1 จอก...แม่ง พวกเมิงชั้นเทพเลยว่ะ...เนียนจริง ๆ สาดดด....ขอให้รับใช้อำมาตย์จนตัวตายเลยนะอ้ายยยยยสาดดดดดดด!!!!
*********
อ่านบทความชุดนี้ตอนที่ผ่านมา:ลอกคราบส.ศิวลึงค์และสาวก