ที่มา ข่าวสด
การ "ปั่นหุ้น" คือการซื้อขายหุ้นโดยมีความตั้งใจที่จะทำให้สภาพการขายหุ้น ทั้งราคาหุ้น และปริมาณมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาด
เพื่อลวงคนอื่นว่าหุ้นตัวนั้นมีการซื้อขายอย่างคึกคักและอาจหลวมตัวผสมโรงเข้าซื้อขายด้วย จนทำให้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นตามที่ต้องการ
ส่วนการซื้อขายเพื่อทำให้ราคาตลาดไม่เปลี่ยนแปลง เรียกว่า "พยุง"
ขณะที่การพยายามกดราคาหุ้นให้ต่ำลงเพื่อที่จะเข้าไปช้อนซื้อในภายหลัง เรียกว่า "ทุบ"
หรืออีกวิธีเป็นการทำให้ปริมาณหุ้นเกิดความผิดปกติ เช่น เข้าไปซื้อๆ ขายๆ เพื่อให้ดูเหมือนว่าหุ้นตัวนั้นมีคนต้องการซื้อมาก ทำให้มีคนเข้าไปซื้อตาม
ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ตนเองได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นนั้น โดยมีพฤติกรรมสารพัดรูปแบบ
เช่น ส่งคำสั่งซื้อขายภายในกลุ่มเดียวกันเอง แต่ไม่มีการซื้อขายจริง เป็นแค่การโยนคำสั่งซื้อขายหุ้นระหว่างกันไปมา
หรือจับคู่ซื้อขายกัน ในราคาที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการอำพราง
บางครั้งอาจแพร่ข่าวทำให้ข้อมูลของบริษัทผิดไปจากข้อเท็จจริง ทั้งที่ไม่ได้เป็นไปตามนั้นจริง
ไปจนกระทั่งถึงการตกแต่งให้งบการเงินของบริษัทดูดีเกินจริง เมื่อผู้ลงทุนทั่วไปเห็นว่าหุ้นตัวนี้มีคนซื้อมาก และคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นต่อไปอีกก็มักจะแห่ตามกันไปซื้อ
เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึงจุดหนึ่ง นักปั่นหุ้นก็จะขายทำกำไรออกมา
ในที่สุดแล้วราคาหุ้นก็จะร่วงลงมา
เนื่องจากราคาหุ้นที่ขึ้นไปนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
ส่งผลให้ผู้ลงทุนที่รู้ไม่เท่าทัน ติดหุ้นในราคาสูงเพราะขายออกไปไม่ทัน
วิธีการสังเกตการปั่นหุ้นให้ดูที่การซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งมีความผิดปกติ
ส่วนหนึ่งตลาดหลักทรัพย์จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยระบบที่เรียกว่า Market Watch ติดตามการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากโบรกเกอร์ รวมทั้งการซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนทุกราย
เมื่อพบพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นการปั่นหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้อำนาจที่มีอย่างจำกัดในวงของผู้เกี่ยวข้องในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการรวบรวมหลักฐานเบื้องต้น
และส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ก.ล.ต.ต้องพิสูจน์ความผิดโดยหาหลักฐานที่แน่นหนา ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 หรือไม่
การปั่นหุ้นถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 500,000 บาท จนถึง 2 เท่าของผลประโยชน์ที่ได้รับ
การปั่นหุ้นเคยเกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่คนที่เกี่ยวข้องมักเป็นผู้มีอำนาจ
ทั้งทางการเมืองและทางธุรกิจ
ล่าสุด ข่าวเรื่องที่ว่ารัฐบาลจะเตรียมจะซื้อดาวเทียมไทยคมคืนจากบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ราคาหุ้นไทยคมพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยระบุว่า มีนักการเมืองฝั่งรัฐบาลเข้าไปพัวพันกับการปั่นหุ้นไทยคม
ที่จะมีการซื้อคืนจึงไปยื่นหนังสือถึงประธาน ก.ล.ต. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ปั่นหุ้น
ด้วยการตรวจสอบหาตัวผู้ซื้อขายย้อนกลับไป 2 สัปดาห์ ก่อนราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
เพื่อไทย
Monday, June 21, 2010
ปั่นหุ้น
คอลัมน์ที่ 13