WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 9, 2011

พีมูฟ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 20 ธาตุแท้รัฐบาล แก้ปัญหาโดยใช้หลักกู

ที่มา มติชน





วันที่ 9 มีนาคม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 20 "ธาตุแท้รัฐบาล แก้ปัญหาโดยใช้หลักกู" มีเนื้อหา ดังนี้

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นขบวนการของเกษตรกรและคนจนเมืองที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้รับผลกระทบอันเลวร้ายจากนโยบายการพัฒนาประเทศ ประกอบด้วยกลุ่มคนจน ๔ เครือข่าย ๓ กรณีคือ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.), เครือข่ายสลัม ๔ ภาค, สมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล (สคจ.) , และเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวลและคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี จำนวน ๕๔๐ กรณีปัญหา ได้รวมตัวกันปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณหน้าลานพระรูปทรงม้า กรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ค้างคามายาวนาน

ผลการแก้ไขปัญหามีบางส่วนที่มีความก้าวหน้า เช่น โครงการนำสนับสนุนคนไร้บ้าน โครงการนำร่องแก้ไขปัญหาเกษตรกรภายใต้สถาบันกองทุนธนาคารทิ่ดนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูนจำนวน ๑๖๗ ล้านบาทเป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาโดยส่วนใหญ่ กลับไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำกลับถูกละเมิดสิทธิมากขึ้น ทั้งนี้พวกเราได้ใช้ความพยายามในการเปิดการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งอนุกรรมการต่างๆที่นายกฯและรมต.สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แต่งตั้ง หลายปัญหาได้รับการแก้ไข และหลายปัญหาเช่น พื้นที่บ้านเก้าบาตร อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำทหารมาแก้ปัญหาที่ดินทำกินโดยมีเป้าหมายขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ และกรณีปัญหาอื่นอีกกว่า ๓๐๐ กรณีปัญหา (จากทั้งหมด ๕๔๐ กรณีปัญหา) ก็ยังไม่มีข้อสรุปโดยเฉพาะกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล

ต่อการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล พวกเราเคยได้รับการยืนยันจากปากนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้ง ฯพณฯ เดินทางไปที่บ้านของพวกเรา (๑๐ ต.ค.๕๒) เราต้อนรับ ฯพณฯ เยี่ยงมิตร และยื่นไมตรีอันบริสุทธิ์ต่อ ฯพณฯ ผ่านมาปีเศษ ฯพณฯ กลับตัดไมตรีด้วยการตกลิ่มปัญหาให้จมหนักไปอีกในการประชุมครม.เมื่อวานนี้

พวกเราผิดหวังต่อมติคณะรัฐมนตรีที่ไม่รับฟังเหตุผลทางวิชาการและเลือกใช้วิธีซื้อเวลา พวกเรายืนยันว่า กรณีเขื่อนปากมูลได้มีข้อยุติที่ชัดเจนที่สุด และเพียงพอที่จะตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้ แต่รัฐบาลกลับซื้อเวลาออกไปอีก พฤติการณ์ของรัฐบาลครั้งนี้ เราเห็นว่า นี่คือการไม่จริงใจในการแก้ปัญหา

คดีก็ไม่มีความคืบหน้า เราต้องการหยุดดำเนินคดีแต่รัฐบาลไม่นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาเท่ากับว่า ต้องการทำลายขบวนพี่น้องด้วยคุกตาราง

ดังนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป เรามิอาจร่วมมือกับรัฐบาลชุดนี้ได้อีกต่อไป เราขอประกาศร่วมกันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมที่จะแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลอีกต่อไป และเราหวังว่าหลังการเลือกตั้งใหม่ เราจะกลับมาอีกครั้ง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

คนจนทั้งผองพี่น้องกัน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
๙ มีนาคม ๒๕๕๔ / ณ หมุดทองเหลือง คณะราษฎร ๒๔๗๕ ลานพระรูปทรงม้า

นอกจาก แถลงการณ์ ลงวันที่ 9 มีนาคม แล้ว พีมูฟ ยังได้ ออก "คำประกาศคนจนเมื่อข้อตกลงถูกละเมิด ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข รัฐบาลทำได้แค่หักหลังชาวปากมูน"

นี่คือคำประกาศความจริง ที่สั่งสมมาจากการเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรม พวกข้าพเจ้าผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูลมาเป็นเวลากว่า ๒ ทศวรรษ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราได้ใช้ความพยายามในการนำเสนอความจริง ความจริงอันเป็นวิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำมูนที่พึ่งพาแม่น้ำมูนอย่างสมดุล ตราบจนกระทั่งมีการสร้างเขื่อนปากมูลได้มาทำลายวิถี อันเป็นชีวิตของพวกเราจนล่มสลายลง ชาวบ้านในพื้นที่ ๓ อำเภอ กว่า ๖,๐๐๐ ครอบครัว ต้องประสบชะตากรรมการพลัดพราก ความสูญเสียที่เกิดจากน้ำมือของรัฐ ที่อ้างว่าการพัฒนา การพัฒนาที่จะนำมาซึ่งความเจริญ การกินดีอยู่ดีมาสู่คนลุ่มน้ำมูน แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะมันคือการทำลายล้าง

ณ ลานกว้างที่แผดร้อน ต่อหน้าหมุดทองเหลือง หมุดที่จารึกการประกาศการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของคณะราษฎร รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในอาณาบริเวณแห่งนี้ โปรดจงเป็นสักขีพยาน

พวกเรา ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนา และนโยบายการพัฒนา การพัฒนาที่ไม่เป็นธรรม การพัฒนาที่ไปแย่งยื้อทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นของเราและบรรพบุรุษของพวกเราไป เขื่อนปากมูล คือรูปธรรมของการทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรง


ณ พื้นที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ เป็นประจักษ์พยานด้วยว่า นับตั้งแต่ปี ๒๕๓๔ ที่กำลังมีการก่อสร้างเขื่อนปากมูล ครั้งนั้นพวกเราได้พร่ำบอกแก่พวกท่านผู้มีอำนาจทั้งหลายว่า กรุณาได้พิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านด้วย เพราะชาวบ้านมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการอาศัยทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติ

เราบอกท่านว่าแม่น้ำมูนเป็นแหล่งดำรงชีวิตของพวกเรา ผืนดินริมตลิ่งอันเป็นดินตะกอนแม่น้ำมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการทำการเกษตร พรรณไม้ที่มีมากมายหลายชนิด เราได้ใช้เป็นสมุนไพรในการรักษาโรค เห็ดหลายชนิด เราได้ใช้เป็นอาหารและขายเป็นรายได้ให้ครอบครัว รวมทั้งพื้นดินที่พวกท่านเอาไปเป็นอ่างเก็บน้ำยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและ สัตว์ปีก รวมทั้งยังเป็นพื้นที่เลี้ยง วัว ควาย ของพวกเราอีกด้วย แก่งต่าง ๆ ตามลำน้ำ แก่งเหล่านั้น เป็นที่อาศัย หากิน และแพร่ขยายพันธ์ของปลาน้ำจืดที่มีอยู่มากกว่า ๒๖๕ ชนิด สิ่งเหล่านี้หายไปพร้อมกับการเก็บกักน้ำของเขื่อนปากมูล


พวกท่านรู้ไหมว่า ทุกครั้งที่พวกเรามองดูน้ำในลำน้ำมูน เราได้ยินเสียงร่ำไห้ คร่ำครวญของวิญญาณบรรพบุรุษของเรา พวกเขาร่ำไห้ ตัดพ้อ ต่อว่า ต่อพวกเราที่เป็นลูกหลาน ว่า พวกเราทำไมเย็นชา ไม่ปกป้องวิถีชีวิต ไม่ปกป้องอาชีพ อาชีพที่จะดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์และวัฒนธรรมการหาปลาที่ควรจะสืบทอดต่อ พวกเราเราต้องก้มหน้าเก็บงำความข่มขื่น เราขลาดเขลาเกินกว่าที่จะเงยหน้ามองผืนแผ่นน้ำ พวกเรากลัวคำถามจากแม่น้ำมูน จากวิญญาณบรรพบุรุษ ที่สำคัญพวกเรากลัวคำถามของจิตสำนึก ต่อจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ เราจึงปล่อยให้ความข่มขื่นนี้ ซึมซับลงสู่ก้นบึ้งแห่งจิตวิญญาณ แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความการต่อสู้ เราทำได้แค่ความพยายาม แม้ความพยายามนี้จะยังไม่บรรลุ เราจะพยายามต่อไป


ต่อหมุดประวัติศาสตร์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนี้ ข้าพเจ้าผู้เดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนปากมูล พวกเราขอตั้งจิตปฏิญาณว่า ในสายใยแห่งมวลสรรพชีวิตในโลกนี้ มนุษย์มิใช่เจ้าของสรรพสิ่ง แต่มนุษย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสรรพชีวิตเท่านั้น การกระทำใดของมนุษย์ที่เป็นการทำลายชีวิตอื่น ก็เท่ากับมนุษย์ได้ทำร้ายชีวิตของตนเองลงไปด้วย

ต่อเขื่อนปากมูล และนักสร้างเขื่อนทั้งหลาย พวกเราขอบอกต่อพวกท่านทั้งหลายว่า พวกเราสั่งสอนลูกหลานของพวกเราว่า แม่น้ำมูนคือแหล่งอาหาร แหล่งรายได้ อันหมายถึงชีวิตของพวกเรา เราสอนให้ลูกหลานของเรารัก และบูชาแม่น้ำมูนเสมือนหนึ่งแม่ผู้ให้กำเนิด เสมือนแม่ผู้ให้ชีวิตแก่เขา เราสอนให้ลูกหลานของพวกเรานำอัฐิ และเถ้าถ่านของเราเมื่อสิ้นชีวิต โปรยลงสู่แม่น้ำมูน เผื่อให้เราจะได้ทักทายกันในทุกครั้งที่ลูกหลานของเราลงหาปลา


เราขอบอกให้พวกท่านทั้งหลายได้โปรดสั่งสอนบุตรหลานของท่าน ให้สำนึกและหวงแหนที่ฝังเถ้าถ่านบรรพบุรุษของพวกเขา เช่นเดียวกับที่พวกเราสั่งสอนบุตรหลานของพวกเราด้วย เผื่อบุตรหลานของพวกท่านจะได้ตระหนักและยุติ ละ เลิก การกระทำดังเช่นพวกท่านนักสร้างเขื่อนได้กระทำไว้แก่พวกเรา


พวกเรามิอาจร้องขอให้พวกท่านนักสร้างเขื่อนทั้งหลายได้กรุณาปลดปล่อย หรือคืนวิถีชีวิตให้แก่พวกเราได้ แต่พวกเราขอบอกแก่พวกท่านนักสร้างเขื่อนทั้งหลายได้ทราบว่า เราจำเป็นต้องปกป้องและทวงคืนแม่น้ำมูน แม่น้ำมูนอันเป็นที่กลบเถ้าถ่านบรรพบุรุษของพวกเรา เยี่ยงท่านและบุตรหลานของพวกท่านพึงกระทำในการปกป้องเถ้าถ่านบรรพบุรุษของพวกท่าน


๒๐ ปี ที่ผ่านมา เราเหนื่อย เราลำบาก ในการต่อสู้และการทำความจริงให้ปรากฏ และท้ายสุดพวกเราก็ประสบความสำเร็จ เมื่อคณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นได้มีข้อสรุปชัดเจนมากว่า ให้มีการเปิดประตูเขื่อนอย่างถาวร และการเยียวยาเพื่อฟื้นฟูชีวิตชาวบ้านที่ล่มสลายมาตั้งแต่เขื่อนปากมูลเปิดใช้งาน เราดีใจ เรามีความหวังว่าวิถีชีวิตเราจะกลับคืนมา


๘ มีนาคม ๒๕๕๔ คณะรัฐมนตรีมีมติ ไม่ตัดสินใจ โดยให้ไปศึกษาข้อมูลอีก ๔๕ วัน อันเป็นการซื้อเวลา ซื้อเวลาโดยไม่มีเหตุผล และความชอบธรรมใด อันเป็นการหักหลังคนปากมูน


ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลดังกล่าว เรามิอาจยอมรับความไร้เหตุผลของรัฐบาลชุดนี้ได้ เราขอประกาศยุติการร่วมมือใด ๆ กับรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป และขอเรียกร้องให้ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมได้ร่วมกันยุติความร่วมมือกับรัฐบาลที่อำมหิตนี้ด้วย เราขอวิงวอน

ต่อหมุดทองเหลือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอาณาบริเวณนี้ ได้โปรดเป็นพยานด้วยว่า วันนี้ในการกระทำ และความมุ่งมั่นของพวกเราด้วยว่า เราจะทวงคืนแม่น้ำมูน ทวงคืนวิถีชีวิตของพวกเรา เราขอยืนยันว่า เราจะดำเนินวิธีการตามครรลองแห่งแนวทาง แห่งสันติ


ข้าฯ แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดเป็นพยาน และดลบันดาลอำนวยชัยชนะในการทวงคืนแม่น้ำมูน ให้แก่พวกข้าพเจ้าด้วย เพื่อให้พวกเราได้กล้าสู้หน้าต่อวิญญาณบรรพบุรุษของพวกเรา และวิญญาณบรรพบุรุษของพวกข้าพเจ้าจะได้เลิกคร่ำครวญ ร่ำไห้เสียที พวกข้าพเจ้าทั้งของตั้งจิตปฏิญาณ ปฏิบัติการการกู้คืนแม่น้ำมูนให้จงได้

ประชาชนจงเจริญ
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)
๙ มีนาคม ๒๕๕๔