ที่มา thaifreenews
โดย poonnook
ยอมรับว่ากระแสเลือกตั้งเชี่ยวกราก..แต่ขอให้พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ UN เข้ามาสังเกตการณ์ได้ไม๊
ระยะเวลาที่ผ่านมานี้มีการปะทะกันทางความคิดมากมายระหว่างพี่น้องมวลชนเสื้อแดงด้วยกัน..โดยเฉพาะการพูดคุยผ่านทางหน้าเวปไซด์แล้วยิ่งดุเดือดเลือดพล่าน ถึงลูกถึงคนมากขึ้นเป็นลำดับ.. กระแสหนึ่งที่เป็นประเด็นคำถามที่ถูกถามตลอดในห้วงเวลาที่ผ่านมานี้ก็คือ.. “เป้าหมายการต่อสู้ที่ชัดเจนของแกนนำ นปช. ที่จะนำพาไปให้ถึงความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตามที่มวลชนเรียกร้องนั้นคืออะไร”..
สำหรับแนวทาง หรือวิธีการนั้นทราบแล้วก็คือ การเข้าสู่การเลือกตั้ง... แต่กระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้นยังไม่ชัดเจน.. อย่างไรก็ดี.. เมื่อแกนนำ 7 คนได้ถูกปล่อยตัวชั่วคราวออกมาและก็มีการประกาศว่าจะขอลงรับสมัครเลือกตั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย.. เพื่อจะได้มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการต่อสู้ในภาคสนามต่อไป.. ยิ่งทำให้กระแสการเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งนั้นยิ่งเด่นชัด และเชี่ยวกรากมากขึ้น
ดูเหมือนว่าการสูญเสียชีวิตของพี่น้องของเรา 91 ชีวิต และบาดเจ็บกว่า 2,000 นั้น สิ่งที่ได้รับกลับคืนมามีเพียง เพื่อให้นักการเมืองได้มีโอกาสเข้าสู่สนามเลือกตั้งเท่านั้น
เอาเถอะจะไม่ขอกล่าวใดๆ อีกว่า มวลชนคนเสื้อแดงควรจะสนับสนุนและเข้าร่วมในเวทีการเลือกตั้งนี้ด้วยหรือไม่??.. เพราะมีท่านผู้รู้มากมายได้แสดงความเห็นและข้อเสนอแนะไปมากแล้ว.. และพี่น้องมวลชนคนรักประชาธิปไตยแต่ละท่านต่างก็มีเอกสิทธิ์ในการตัดสินใจที่จะเลือกได้ด้วยตนเอง..
แต่ทว่าสิ่งที่เป็นเป้าหมายในการสื่อของผมในกระทู้นี้ก็คือ เพื่อสื่อไปถึงคณะทำงานของ พรรคเพื่อไทย.. ที่กำลังจะเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้.. ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ถึงอย่างไร ประชาชนคนเสื้อแดงทั้งหลายต่างก็คาดหวังเอาไว้ว่า พรรคเพื่อไทย จะเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนและเป็นผู้ที่จะนำพาเอาความเป็นธรรมกลับมาให้กับพวกเขา (รวมถึงผมด้วย) ยิ่งการที่ นปช. ชูพรรคเพื่อไทยเป็นแนวร่วมที่ใกล้ชิดในยุทธศาสตร์ 2 ขา ด้วยแล้ว.. ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. จะต้องพิจารณาถึงการเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งนี้ให้มากยิ่งกว่าครั้งใดๆ
เป็นที่เชื่อได้แน่แท้ว่า..การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเวทีสุดท้ายของการต่อสู้ด้วยสันติวิธี ที่มวลชนผู้รักประชาธิปไตยจะหวังพึ่งได้.. รู้ทั้งรู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ภายใต้แรงบีบคั้นมากมาย..
- กติกาการเลือกตั้งเป็นของเผด็จการ
- อำนาจการให้คุณให้โทษก็เป็นของเผด็จการ
- กรรมการตัดสินการเลือกตั้งก็เป็นของเผด็จการ
- เวทีการเลือกตั้งก็เป็นของเผด็จการ
- ตัวช่วยด้านสื่อ และการประชาสัมพันธ์ก็อยู่ในมือเผด็จการ
- สุดท้ายมือที่มองไม่เห็นก็ยังครองอำนาจเผด็จการอยู่
ด้วยเหตุที่มีแรงบีบคั้นมากมายดังกล่าวสำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้.. พรรคเพื่อไทย มีเพียงสิ่งเดียวที่จะต่อสู้กับแรงเหล่านี้ได้ก็คือ “อำนาจที่มาจากมวลชนคนเสื้อแดงทั้งมวลเท่านั้น” ดังนั้นการรณรงค์ให้คนเสื้อแดงทั้งหมดที่มีอยู่ออกมาช่วยกันลงคะแนนเพื่อให้เกิดปรากฏการณ์ในลักษณะ Land slide เหมือนดังที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักไทย ที่ได้รับคะแนนเสียง ส.ส. 377 เสียงในครั้งนั้นจึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง
ปูนนก
Re:
แต่ดังที่มีคำกล่าวว่า “อดีตเป็นบทเรียนสำหรับปัจจุบัน..และปัจจุบันเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงอนาคต” ในอดีตพรรคไทยรักไทยถูกอำนาจมืด ทำรัฐประหารโค่นล้ม ในขณะที่มี สส. ในสภา 377 เสียง.. พรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ถูกอำนาจมืดสร้างเรื่องขึ้นมาจนกลายเป็นประเด็นนำไปสู่การยุบพรรคในที่สุด....
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงตรงหน้า และเป็นความทรงจำอันเจ็บปวดของประชาชนเจ้าของประเทศ และเป็นเจ้าของคะแนนเสียงทุกคะแนน..
เอาหละ..ในเมื่อการต่อสู้ต้องเข้าไปสู่โหมดของการเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.. ดังที่ใครต่อใครพยายามที่จะให้ความเห็นกันไปนั้น.. (จริงๆ มีทางอื่นในการต่อสู้อีกมากที่ไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้) ถ้าเป็นเช่นนั้น..จะมีท่านใดบ้างที่จะกล้าประกาศได้ว่า “การเลือกตั้งที่จะมีมาถึงนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม” รัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงใดๆ อีกเพื่อยึดครองอำนาจรัฐเอาไว้.. (ซึ่งวิธีมีมากมายมหาศาล..และไม่จำกัดรูปแบบ)
พรรคเพื่อไทยและคณะทำงาน หรือแม้แต่แกนนำ นปช. ที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งก็คงจะไม่สามารถรับรองได้เช่นเดียวกันว่าจะไม่มีการโกงเกิดขึ้น.. ในส่วนตัวของผมเองในฐานะประชาชนผู้รักประชาธิปไตยคนหนึ่ง.. ก็ปรารถนาให้ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างยุติธรรม.. ถ้าคะแนนเสียงแพ้ก็แพ้อย่างยุติธรรมอันนี้ยอมรับได้.. แต่ผมไม่ต้องการให้ใครเอาคะแนนเสียงของผมแม้แต่ว่าจะเป็นเพียง 1 คะแนน ไปใช้ให้เกิดกลโกงขึ้น
รู้ทั้งรู้..เห็นทั้งเห็นว่า.. หลุมการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นหลุมไฟ ที่เขาทำดักไว้ แต่พรรคเพื่อไทย และ นปช. ก็ยังนำพามวลชนเดินเข้าไปสู่หลุมดักนั้นโดยที่ยังไม่เห็นว่าจะมีการป้องกันใดๆ อย่างเป็นรูปธรรม..
ดังนั้นในเมื่อพรรคเพื่อไทย และ นปช. จะเป็นหัวขบวนในการนำพามวลชนเข้าไปสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใต้กติกาโจรนี้.. ผมขอเรียกร้องว่า
“ขอให้พรรคเพื่อไทย และ นปช. รณรงค์ และเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้มี คณะทำงานของ UN เข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น”
หลักการคือ ขอให้มีการเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งโดยองค์กรจากนานาชาติ... ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไร ขอให้เป็นหน้าที่ของคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย และ นปช. ในฐานะแกนนำของมวลชนพิจารณา.. เพราะอย่างน้อยแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะอยู่ภายใต้ กติกาโจร และในขบวนการของโจร แต่ทว่า การเรียกร้องให้มี กรรมการ มาจากภายนอกให้เข้ามาช่วยสังเกตการณ์ ก็จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะปิดกั้น หรือป้องกันมิให้การโกงเกิดขึ้นได้ง่ายนัก..
ในส่วนตัวของผมเองไม่มีความรู้ไปถึงขั้นว่ากระบวนการ การทำเป็นเช่นไร แต่ผมพิจารณาว่าท่ามกลางกระแสความขัดแย้งจนถึงขั้นมีการปราบปรามประชาชน และประชาชนล้มตายอย่างมากมาย รวมถึงนักข่าวต่างประเทศด้วยนั้น น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอ ที่จะสามารถยื่นข้อเรียกร้องนี้ต่อ UN ให้เข้ามาสังเกตการณ์ได้..
ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนี้ (ถ้ามี) จะต้องมีการโกงครั้งมโหฬาร.. ลำพังเพียงแค่ใช้คนในประเทศเข้าไปสังเกตการณ์ในแต่ละท้องที่ ไม่เพียงพอหรอกครับ.. เพราะถึงอย่างไรก็คงไม่สามารถต่อกร กับอำนาจมืดที่ครอบครองประเทศนี้อยู่ได้.. ดังนั้นการเสนอของผมที่ว่าขอให้พรรคเพื่อไทย และ นปช. ที่กำลังมุ่งเข็มไปสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้.. ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยัง UN เพื่อส่งคณะสังเกตการณ์เข้ามาดูแลการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย... น่าจะเป็นข้อเสนอที่ “ประนีประนอม” ที่สุดแล้ว สำหรับความเห็นของคนเสื้อแดงที่แตกต่างกันคนละขั้ว สำหรับแนวทางการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยด้วยการเลือกตั้งในครั้งนี้...
กรุณาอย่าเพิ่งบอกว่า “ทำได้หรือไม่ได้” ขอให้พรรคเพื่อไทย และ นปช. ได้พิจารณาและพยายามทำในสิ่งนี้เสียก่อน
เพราะในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีส่วนในการต่อสู้กับอำนาจเผด็จมาตั้งแต่เริ่มแรก.. ผมก็ต้องการเห็นพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยชนะก็หมายถึงประชาชนชนะด้วย.. แม้ว่าคนที่ได้ประโยชน์จะไม่ใช่ประชาชนโดยตรง แต่ประโยชน์จะตกอยู่กับนักการเมือง... แต่ถึงกระนั้นก็ยังรับได้
แต่ทว่า.. ถ้าพรรคเพื่อไทย และ นปช. ไม่พยายามทำอะไรเลยในระดับนานาชาติ เพื่อป้องกันการโกงไว้ก่อน... และลงเลือกตั้งทั้งๆ รู้ว่า จะต้องถูกโกงแน่ๆ สู้ไปก็แพ้แน่ๆ.. ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ พรรคเพื่อไทย และ นปช. ก็ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนหรอกครับ..แต่เป็นได้แค่เพียง “เหลือบที่เกาะหลังมวลชนเพื่อแสวงหาประโยชน์อยู่เท่านั้น”
ปูนนก