ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯต้องบอกว่าเดือดร้อนกันถ้วนหน้าจริงๆ
กระจายทั่วถึงทั้งคนต่างจังหวัดและคนกรุงจากปัญหาข้าวยากหมากแพง
การบริหารประเทศประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็วัดกันได้ง่ายๆ จากความเป็นอยู่ของประชาชน
วัดได้จากปัญหาน้ำมันปาล์ม สินค้าแพง ไข่ขาดตลาด ฯลฯ
ยังมีชาวนาทั้งภาคกลางและภาคเหนือต้องประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
จนต้องชุมนุมปิดถนนเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคาข้าว
เพื่อให้มีรายได้พอกินพออยู่และพอชดใช้หนี้สิน
ชาวบ้านปากมูนหอบลูกหอบหลานเข้ามาปักหลักประท้วงถึงในเมืองกรุง
หวังว่ารัฐบาลจะยอมเปิดเขื่อนถาวร
คืนวิถีชีวิตให้ชาวอีสาน
แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมเปิดเขื่อน ยื้อเรื่องกลับไปศึกษาผลกระทบซะงั้น
นี่คือตัวอย่างชาวต่างจังหวัด ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศได้รับความเดือดร้อนจากรัฐบาลนี้
ส่วนคนกรุงก็ใช่ว่าจะอยู่สบาย ปัญหาข้าวของแพงมันกระทบไปหมด
แต่ยังมีชาวบ้านอีกกลุ่มที่เดือดร้อนจากความดันทุรังของนายอภิสิทธิ์
เป็นชาวบ้านและธุรกิจห้างร้านที่อยู่รอบๆ บ้านพักของนายกฯเอง
เดือดร้อนเพราะคำสั่งปิดถนน 4 เส้นทางรอบบ้าน นายกฯที่ย่านสุขุมวิท 31
ความจริงเดือดร้อนกันมานานแล้ว เคยมีการร้องเรียนไม่รู้กี่ครั้ง ด่านทหาร-ตำรวจถือปืนเต็มซอย
พอความเป็นอยู่เริ่มกระเตื้อง ก็มีเจอคำสั่งใหม่ซ้ำอีก
ที่พอจะลืมตาอ้าปากได้ก็ทรุดฮวบลงทันตา
หลายคนเคยเสนอแนะกันมาไม่รู้กี่ครั้งให้นายกฯอภิสิทธิ์ย้ายไปอยู่ที่บ้านพิษณุโลก
แต่นายกฯก็ปฏิเสธมาตลอด เลือกที่จะอยู่สบายๆ ที่บ้านหลังเดิม
ปล่อยให้เพื่อนบ้านของนายกฯก้มหน้ารับกรรมกันไป
พอคิดจะไปยืนถือป้ายประท้วง ยืนตะโกนเรียกร้องให้นายกฯแก้ปัญหา
ก็คงทำไม่ได้แล้ว
เพราะส.ส.ประชาธิปัตย์ที่เป็นกมธ.ตำรวจเรียกตำรวจไปเฉ่ง
บอกให้หาช่องกฎหมายให้ดำเนินคดีกับประชาชนที่ไปยืนโห่ตะโกนไล่นายกฯ
เตรียมงัดข้อหาหมิ่นประมาทขึ้นมาเล่นงาน
แทบไม่เชื่อเลยว่าเป็นวิธีคิดของรัฐบาลในระบบประชาธิปไตย
ปิดกั้นความคิด ห้ามแม้กระทั่งไปยืนตะโกน
ทำให้ต้องหวนคิดอีกครั้งว่าเป็นความจริงหรือที่...คนไทยโชคดีได้คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ