WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 9, 2011

'กกต.สดศรี'เสนอชะลอยุบสภา

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ




การเมืองเดินเข้าสู่ช่วงไฮไลต์ เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาย้ำเรื่องการยุบสภาถี่ว่าไม่เกินครึ่งปีแรก ล่าสุดก็ส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นไปอีกว่าการยุบสภาในเดือนต.ค. ช้าเกินไป

ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังมีคิวเดินสายพบกกต. ในฐานะผู้จัดการเลือกตั้งในวัน ที่ 11 มี.ค.นี้ หารือถึงความพร้อมและอุปสรรคปัญหาในการเลือกตั้ง

ก่อนถึงเหตุการณ์สำคัญ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการ เมือง ใช้โอกาสช่วงเดินทางไปเป็นประ ธานเปิดการฝึกอบรมตามโครงการ "เสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานของสาขาพรรคการเมืองประจำปีི" ให้กับผู้แทนสาขาพรรคการเมืองและพนักงานกกต.ประจำจังหวัด 150 คน

มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเลือกตั้งไปถึงนายกฯ ดังนี้

กรณีนายกฯ จะเข้าหารือกับกกต.ในวันที่ 11 มี.ค. ถึงวันที่เหมาะสมในการเลือกตั้งนั้น ทราบจากข่าวเท่านั้น เบื้องต้นกกต.ยังไม่ได้รับการติดต่อ นายกฯน่าจะมี หนังสือมา

เมื่อนายกฯ มาหารือกับกกต. จะต้องคุยกันในเรื่องวันเหมาะสมในการเลือกตั้ง สมมติจะยุบสภาในเร็วๆ นี้ แสดงว่าจะต้องมีการเลือกตั้งในเดือนเม.ย.

กกต.คงต้องแจ้งให้ทราบว่าในเดือนเม.ย. จะมีวันหยุดยาวหลายวัน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอาจเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด การกำหนดวันเลือกตั้งในช่วงดังกล่าว จะทำให้มีผู้มาใช้สิทธิ์น้อย กกต.ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น

นอกจากนี้จะแจ้งให้นายกฯ ทราบถึงปัญหาของกกต. กรณีที่มองว่ามาตรา 7 วรรคท้ายของรัฐ ธรรมนูญฉบับแก้ไข กำหนดว่าหากการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ไม่แล้วเสร็จ แล้วให้กกต.ออกประกาศกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการเลือกตั้งนั้น

จะเป็นการกำหนดให้ออกประกาศได้เพียงฉบับเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาใช้กับกรณีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ถ้ารัฐบาลจะยุบสภาในระยะเวลาอันใกล้ ต้องมีความชัดเจนให้กับผู้ปฏิบัติงานว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ ตามมา กกต.จะถามรัฐบาลว่า เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ จะแก้ไขให้กับกกต.ได้หรือไม่ หรือจะชะลอการยุบสภาออกไปก่อน

รวมทั้งจะถามนายกฯ ว่า มีเจตนาจะยุบสภาเมื่อไร เป็นเรื่องที่กกต.ต้องชี้แจงให้นายกฯ ทราบ

แต่ถ้านายกฯ บอกว่าจะต้องยุบสภาเพียงอย่างเดียว จะเป็นภาระหนักกับกกต. โดยอาจต้องพิจารณาว่าควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ว่า จะสามารถออกประกาศข้อกำหนดเกี่ยวกับกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับดังเช่นกฎหมายเลือกตั้งได้หรือไม่

เพราะกกต.ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องที่มีการฟ้องร้องศาล เกี่ยวกับอำนาจและการจัดการเลือกตั้งของกกต.กันภายหลัง

ปัญหากฎหมายลูก 2 ฉบับนั้น รัฐบาลจะมาบอกว่าให้กกต.รับผิดชอบผู้เดียวคงไม่ได้ รัฐบาลกับกกต.ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อยุบสภาแล้วรัฐบาล จะกลายเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ

กกต.จึงอยากให้ในระหว่างที่รัฐบาลมีอำนาจเต็มอยู่ ทำทุกอย่างให้จบเสียก่อน แล้วค่อยมีการยุบสภา ซึ่งการจัดการเลือกตั้งนั้นไม่เป็นปัญหาเลย เวลานี้กกต.ก็เตรียมแผนการต่างๆ ไว้เป็นตุ๊กตาแล้ว

เช่น ถ้ายุบสภาวันที่เท่านี้ ช่วงนี้ ต้องมีการรับสมัคร มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่จะใช้การจัดจ้างแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันการร้องเรียนว่ามีการทำมิชอบ โดยประสานกับหน่วยงานของรัฐแล้วในการจะเป็นผู้จัดพิมพ์ เช่น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กกต.เป็นห่วงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ว่าอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทำให้นักการเมืองแต่ละฝ่ายไม่สามารถไปหาเสียงในทุกพื้นที่ได้

กกต.กำลังพิจารณาว่าหากมีการยุบสภา แล้วอาจต้องขอกำลังทหารเข้าไปดูแลความปลอด ภัยของผู้สมัคร โดยจุดนี้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กกต.ต้องของบประ มาณในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ในวงเงินที่สูงกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา



ขณะนี้กกต.มีเจ้าหน้าที่ในแต่ละจังหวัดรวมแล้วแค่ 2 คนอุปกรณ์ในการป้องกันม็อบก็ไม่มี

ถามว่าถ้าสถาน การณ์ความขัดแย้งยังเป็นอยู่อย่างนี้ ฝ่ายหนึ่งไปหาเสียงในพื้นที่ของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ ถามว่าในช่วงที่มีการเลือกตั้งควรมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่อยากให้พิจารณา

ซึ่งในส่วนของกกต. ถ้าถึงจุดนั้นมีความรุนแรงเกิดขึ้น กกต.อาจจำเป็นต้องเสนอขอเรื่องนี้ไปยังรัฐบาล

สำหรับกรณีจะเข้าไปตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์จัดงานระดมทุนเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง อาจเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดหรือไม่นั้น

การจัดงานระดมทุนของพรรคการเมือง เหมือนกับการขอรับบริจาคเงินให้พรรคการเมือง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 54 กำหนดให้พรรคการเมืองที่หาเงินในการระดมทุนจากการบริจาค ไม่ว่าจะเป็นจัดเลี้ยงต่างๆ จะถือเป็นเงินบริจาค

ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์วางเป้าไว้ 600 ล้านบาท และแจ้งให้กกต.ทราบเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว

ทั้งนี้งานระดมทุนดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ต้องแจ้งถึงการรับบริจาคดังกล่าวในกรณีที่มีผู้สนับสนุนการระดมทุนมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป โดยจะต้องรายงานให้กกต.ทราบภายใน 30 วัน

มีผู้ร้องเรียนว่าการจัดงานระดมทุนของพรรคประชาธิปัตย์ไปบีบบังคับบริษัทเอกชนหรือข้าราชการให้ซื้อโต๊ะ

หากมีการร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็ต้องดำเนินการ ถ้าพบว่าเป็นการขู่บังคับ บีบให้ซื้อบัตรจะต้องมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับข้อมูลเงินบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ประจำปี 2554 นั้น พรรคประชาธิปัตย์แจ้งให้กกต.ทราบทุกระยะ ปรากฏว่าในเดือนม.ค. 2554 แจ้งว่าได้รับเงินบริจาค 1,789,555 บาท เดือนก.พ.2554 แจ้งมายังกกต.ว่าได้รับเงินบริจาค 8,001,500 บาท

โดยการรับบริจาคดังกล่าว กกต.จะเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบ



อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

จะไปหารือกับกกต. เรื่องการทำระเบียบให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการชูป้ายหรือตะโกนด่า ไม่ทำให้ผมเสียสมาธิ รู้ว่าหน้าที่คืออะไร

กกต.ระบุต้องแก้ไขกฎหมายมารองรับเรื่องรัฐธรรมนูญ ทำแค่ประกาศอย่างเดียวไม่ได้

รัฐธรรมนูญเขียนรองรับไว้แล้ว วันที่ 11 มี.ค. จะไปพูดคุยว่าถ้าใช้กฎหมายจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ยืนยันว่าการประกาศไม่มีปัญหา ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

วันในใจในการประกาศยุบสภา

ขอคุยกับกกต. ถ้าประกาศอะไรไปก่อนแล้วกกต.โวยวายว่าทำไม่ได้หรือทำไม่ทัน หรือสร้างปัญหาทำให้การเลือกตั้งไม่เรียบร้อย จะไม่เป็นธรรมกับกกต. ถ้ากกต.ตอบได้ชัด ผมก็คงจะตอบได้ชัด

จากนั้นประกาศได้เลยหรือไม่

(ได้แต่ยิ้ม)

หลังเดือนเม.ย.รัฐบาลจะยังอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ

คงพิจารณาให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ไม่หนีความรับผิดชอบตรงนี้แน่นอน

หากรัฐบาลลากยาวออกไป ยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้น

ไม่มีใครลากยาว ยืนยันว่าไม่มีใครทำเช่นนั้น ตอนนี้เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ผมจะดูเรื่องระเบียบของกกต.เท่านั้น

ความพร้อมพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้สถานการณ์รุมเร้ารอบด้าน

พรรคต้องพร้อม อย่างพื้นที่ภาคอีสาน ยืนยันว่าพรรคและผมพร้อมไป ส่วนจะเกิดภาวะเสียคะแนนนิยมหรือไม่ ในช่วงหาเสียงไม่มีใครบอกได้ว่าคะแนนนิยมจะดีขึ้นหรือลดลง แต่ผมถือว่าเมื่ออยู่ในตำแหน่งจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

การเลือกตั้งขอดูจังหวะเวลาและความเหมาะสม ให้สิ่งดีสำหรับประเทศและดีที่สุดสำหรับประชาชนในการแก้ไขปัญหา