WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 11, 2011

จดหมายถึงมาร์คจากกะทิ (2)

ที่มา ประชาไท

หาก ยังจำได้กะทิเขียนถึงมาร์คครั้งสุดท้ายเมื่อเมษาปี 2552 แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามารค์จะตอบกลับ จนกะทิมาตระหนักในตอนเมษาปี 2553 ว่าหมดคำพูดที่จะคุยเสียแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้... มาร์คดูมีเรื่องที่อยากจะพูดมากมาย มากกว่าจะอยากฟังโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง กะทิทำได้เพียงแต่ส่ายหัวทอดถอนใจกับข้อเขียนที่ล้นเกินที่วนเวียนอยู่กับ แต่เรื่องความรู้สึกของตัวเอง... วันนี้ ... ทำไมมารค์หยุดเขียนเฟซบุ้คไปเสีย เฉยๆ เล่า ... เรื่องเล่าของผู้แพ้อาจจะมีแง่มุมที่เป็นมนุษย์มากกว่าคำพูดภายใต้หัวโขน นายกรัฐมนตรีนะ...ว่าแต่ว่ามาร์คถอดมันออกแล้วหรือยัง

กะทิ ยังจำวันแรกในความประทับใจถึงมาร์คอาจารย์หนุ่มแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ลุกขึ้นมาไฮด์ปารค์ขับไล่นายกฯ สุจินดาในปี 2535 ได้ดี เพื่อนนักศึกษาสาวๆ กรี๊ดกันกระหึ่มให้กะทิขำๆ ไม่ได้คิดถือสาอะไรว่าเขาอาจจะหลงใหลหน้าตามากกว่าคำพูดคมคายหนักแน่นของมา ร์ค แต่วันนี้มวลชนหน้ามืดที่กะทิไม่คิดถือสากลับมีจริงจังกว่าที่คิด มาร์คได้อ่านข่าววันนี้ไหม ที่คุณยายอายุ 80 คนหนึ่งกินยาฆ่าหญ้าฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่มาร์คแพ้การเลือกตั้ง

เปล่า เลย ... กะทิไม่ได้ต้องการบอกว่ามาร์คได้รับความนิยมที่แท้จริงจนมีความสำคัญต่อ มนุษย์คนอื่นถึงขั้นยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก หรือจะบอกว่าคุณยายนั้นโง่ ... แต่กะทิคิดว่าความนิยมที่มาร์ค build อารมณ์มนุษย์หลายต่อหลายคนขึ้นมาให้นิยมในตนนั้น มันช่างเป็นอันตรายและจอมปลอมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคุณยายที่มีประสบการณ์ชีวิตมา 80 ปี กลับยอมลดทอนตัวเองลงไปมีค่าไม่มากไปกว่าต้นหญ้าที่ทำลายกันได้ง่ายๆ

แน่ นอน ... กะทิรู้ดีว่ามาร์คไม่อาจทำมันสำเร็จได้ด้วยตัวเองคนเดียว กลไกสร้างมาร์คให้เป็นนายกฯ ในฝันนั้นเหนือชั้นกว่าที่แกรมมี่สร้างพี่เบิร์ดอยู่หลายขุม .... มาร์คเป็นฮีโร่ที่ถูกใช้เป็นอาวุธไว้ฟาดฟันเหล่าอธรรมที่อยู่ตรงข้ามผู้ถือ อาวุธ ชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่าขั้นเทพจนออกจะเหนือจริงและเหลือเชื่อว่าจะกล้าทำ จนผิดวิสัยราวกับมารในหลายครั้ง นำพามาซึ่งกองเชียร์ไม่น้อยที่ทั้งสะใจทั้งคาดเดาไม่ทันกับการเชือดเฉือนภาย ใต้พลังพิเศษแต่ละครั้งของมาร์ค มาร์คจึงกลายเป็นเทพหรือตัวกลางผู้รับสารจากเทพที่กองเชียร์รอดื่มกินชัยชนะ ไม่รู้จบ จนมาถึงวันที่เทพตกสวรรค์ ความผิดหวังของมาร์คอาจไม่มากไปกว่าเหล่ากองเชียร์ ที่ฮึกเหิมจนไม่ทันตั้งรับกับการผิดหวังเสียใจ และวันนี้มาร์คก็กลับเป็นอันตรายยิ่งกว่า เพราะที่ผ่านมามันไม่ต่างกับการสร้างมาร์คไว้เป็นอาวุธเพื่อให้ผู้คนเอาไว้ ฆ่าตัวตาย ...

นักออกแบบโรงแรมรีสอรท์รุ่นบุกเบิก ที่เรียกกันเร็วๆ ว่าสไตล์บาหลีผู้มีฐานอยู่ในเมืองไทยมากว่า 20 ปี เคยกล่าวว่า “สถานที่แบบนี้ก็คือพื้นที่รองรับผู้คนชั้นกลาง - สูงที่ต้องการ ”หนี” มาจากชีวิตประจำวัน ฉะนั้นเราก็จงมาทำให้มันเป็น ”สวรรค์” ไม่ก็ ”นรก” ไปซะเลย เพียงแต่คุณได้หนีมาอยู่ในสถานะเทพทั้งในสองรูปแบบของสถานที่นั้นๆ ด้วยการบริการปรนเปรอกันเต็มพิกัดที่จะหาไม่ได้ในชีวิตประจำวัน เซอร์ไพรส์นั้นเป็นสิ่งสำคัญทั้งโดยการเสพทางสายตาและประสบการณ์ ที่แน่ๆ ... สถานที่นี้ต้องไม่ใช่โลกมนุษย์ขี้เหม็นอันคุ้นเคยน่าเบื่อ เพราะนั่นคือที่ที่คุณต้องการหนีมันมา”

การเมืองไทยในรอบ 5 ปีอาจกลายร่างเป็นพื้นที่แห่งการหนีของคนกลุ่มเดียวกัน เพราะมีปริมณฑลทางการเมืองอันน่าเบื่อหน่ายตั้งไว้ก่อนแล้วเช่นเดียวกัน แล้ววันหนึ่งเราก็มีผีร้าย มีทั้งสีสัญญลักษณ์ และ presenter หน้าตาดีสลับสับเปลี่ยนมาขายตัว ไม่ต่างจากการเลือกเชียร์ทีมฟุตบอล นักฟุตบอล หรือเลือกกรี๊ดดาราเกาหลีสักสองสามคน ดังเช่นที่แฟนๆ บางคนของมารค์หลังวันเลือกตั้ง ผู้เลือกที่จะเบื่ออีกครั้งนั้นกล่าวว่ากลับไปตามดาราเกาหลีดีกว่า น่าตื่นเต้นและมีลุ้นกว่ากันเยอะ ... โชคยังดีที่คนนี้เลือกหนีไปสวรรค์ แต่คนที่เลือกไปนรกนี่สิ ... มันก็อาจเป็นคล้ายอาการหลังจบเกมฟุตบอลแพ้ ดังที่นักจิตวิทยาออกมาวิเคราะห์เรียกมันว่า political depressive เขาอาจเลือกยกพวกไปตีทีมที่ชนะ (ก็มันฟุตบอลนี่หว่า)

คล้ายกับวันนี้ ที่พ่อผู้สมัคร ส.ส. คนหนึ่งของมาร์ค เอามีดไล่ฟันรถขอบคุณประชาชนของฝั่งผู้ชนะขณะรถตระเวนไปกลางสาธารณชน ไปจนถึงอาจพัฒนาเป็นกลยุทธ์ขั้น advance ที่เนียนได้มากกกว่านั้น โดยเฉพาะเทคนิค double speak ที่มาร์คถนัดและงัดมาใช้ถี่ๆ จนเฝือ จนถูกจับได้ จนแพ้เลือกตั้ง ... หรือหากว่าเขาหาทางบรรเทาไม่เจอ โดยเฉพาะพวกที่หมกมุ่นอยู่แต่กับเฟซบุ้คไม่ออกมาเจอเพื่อนมนุษย์ ก็เป็นไปได้ว่าอาจเลือกหนทางเดียวกับคุณยาย

กะทิไม่ได้อยู่ใน กลุ่ม ”หนี” เพราะกะทิเป็นคนหนึ่งที่เลือกมอบความพ่ายแพ้ให้มาร์ค กะทิไม่ได้คิดหนีจากพระเอกไปหานางเอก แต่กะทิแค่รู้ว่าโลกแห่งความเป็นจริงนั้นไม่มีปีศาจ เราจึงไม่ต้องกลัวมันและไม่ต้องการพระเอก - นางเอกมาช่วย กะทิไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าใช้เสียงเลือกตั้งบอกว่ากะทิไม่เอาการเมืองเห่ยๆ แบบที่ผ่านมาหลังปฎิวัติ 19 กันยา ไม่เอาพลังพิเศษมายุ่มย่าม กะทิต้องการนักการเมืองขี้เหม็น ที่กะทิด่าได้เมื่อเห็นท่าไม่ดี คนที่กะทิเลือกไม่ใช่คนดี เพราะคนที่พอใช้ได้ถูกแบนไปจนไม่เหลือมาให้เลือกไปก่อนหน้านี้เพราะพลังบ้า บอนั่นแล้ว กะทิภูมิใจที่ได้บอกว่า พลังเทพที่มาร์คเอามาช่วยบริหารนั้นห่วยกว่านักการเมืองเลวที่กะทิเลือกไป เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เสียอีก

กะทิติ้นเขินทางการเมืองมาก เพราะการเมืองของการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกทำให้แบนไม่เหลือมิติที่คนธรรมดา อย่างกะทิจะได้พูดในสิ่งที่อยากพูดให้มากไปกว่านี้ กะทิแค่หวังว่าหลังจากนี้เพื่อนๆ กะทิจะคุยการเมืองกันอย่างเห็นหัวคนอื่น (ถ้าเขายังไม่หายหัวหนีไปไหน) รู้ว่ากะทินั้นเป็นแค่ชนบทในนิยายหลอกเด็กลูกหลานคนชั้นกลาง นักการเมืองนั้นใครดี-เลวก็ต้องใช้สติปัญญาตัวเองวิเคราะห์ ไม่ใช่ข่าวลือ - ผังหลอกที่ทั้งกระพือทั้งแตกตื่นกันจนราวกับเพิ่งรู้ว่าโลก กลมผ่านทางอินเตอร์เน็ต กระเหี้ยนกระหือรือในการควานหานักการเมืองเลวมาด่าเพื่อเสริมสถานะรักชาติ ของตัวเอง แล้วเรียกมันว่าการมีจิตสำนึกและกระตือรือล้นในทางการเมือง 5 ปีที่ผ่านมานี้เรามีการเมืองของมวลชน (คนชั้นกลาง) ที่ปัญญาอ่อนเอามากๆ ไม่น้อยไปกว่ามวลชน (คนบ้านนอก) ที่ก้าวหน้าเช่นกัน เราเถียงกันในเรื่องที่เขาเลิกเถียงไปแล้ว สอบตกประวัติศาสตร์ นิติศาสตร์ มานุษยวิทยา และเกือบทุกศาสตร์ แต่คลิกแป้นพิมพ์ได้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง

มาร์ คคงรู้แล้วว่าฝันในวัยเด็กของการอยากเป็นนายกฯ กับการเป็นนายกแห่งประเทศไทยจริงๆ ในวิถีทางที่มารค์ถลำเลือกนี่มันอาจเป็น การบรรลุฝันอันสุดยอดของมารค์ แต่มันเป็นฝันร้ายของคนอื่นเราดีๆนี่เอง วันไหนที่มารค์นอนร้องไห้ช่วยมาปราศรัยบอกกะทิอีกทีแล้วกัน ... กะทิล่ะงงว่า ทำได้ไง ... โดยไม่เขิน ...

กะทิขอจบด้วยย่อหน้าสุดท้ายเดียวกันของ จม.ถึงมาร์คเมื่อ 2 ปีก่อน...

มาร์คไปถึงฝันที่เป็นนายก แต่กลับประสบความล้มเหลวในความเป็นมนุษย์ไปทั้งชีวิต ประวัติศาสตร์คงจะจดจำมารค์ไว้เป็นเพียงจิ๊กซอว์อีกชิ้นหนึ่ง ที่เชื่อมโยงไปถึงวงจรอำนาจอุบาทว์ ที่เลือกลงมือกระทำกับประชาชนเพื่อผลแห่งอำนาจอีกครั้ง จดจำอย่างไม่ลืมว่าเป็นนายกผู้สร้างประวัติศาสตร์บาดแผลอีกครั้ง

กะทิหวังเพียงว่ามาร์คเองจะ เลือกจดจำสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงที่รายรอบตัวในวันนี้อย่างไม่บิดเบือน แล้ววันที่เรากลับมาทบทวนประวัติศาสตร์หน้านี้กันอีกครั้ง มาร์คจะบอกเล่าถึงวงจรสามานย์ที่มันกดดันมาร์คได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาและ ไม่บิดเบือนอย่างในวันนี้ กะทิและเพื่อนอีกหลายสิบล้านคนจะรอวันนั้นอย่างมั่นคง