ที่มา ประชาไท
กอ.รม น.เชียงใหม่สนธิกำลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้ง แถลงเข้ามารื้อถอนพื้นที่ร้าง ก่อนจะรื้อถอนทั้งหมดภายใน 31 ต.ค. ขณะที่ชาวชุมชนร้องเรียนเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อนกำหนดและมีการรื้อถอนพื้นที่ ซึ่งยังมีผู้อาศัย ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
ตามที่เมื่อวันที่ 12 ก.ค. สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า กำลังผสมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาย ใน กองทัพภาคที่ 3 นำโดย พ.อ.อัครวัฒน์ วุฒิเดชโภคิน หัวหน้ากลุ่มข่าว กอ.รมน. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ สปก.และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูก สร้างและแปลงเกษตร ในที่ดิน สปก.บ้านใหม่หนองผึ้ง หมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โดย พ.อ.อัครวัฒน์ ระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินการ 4 ระยะ คือ ปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งดำเนินการเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ระยะนี้เป็นระยะที่สองคือขั้นตอนรื้อถอน ระยะต่อไปจะส่งมอบที่คืนให้ สปก. และรายงานผล โดยระยะที่สองจะรื้อในพื้นที่ร้าง เดือนหน้าจะรื้อบ้านร้าง และตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2554 จะตัดน้ำตัดไฟ และรื้อถอนบ้านเรือนทั้งหมดที่ปลูกและปรับพื้นที่เพื่อส่งมอบให้ สปก. โดยกระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2554 เพื่อส่งมอบพื้นที่คืน สปก. ต่อไป
ชาว บ้านชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้ง แสดงภาพเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้ามารื้อถอนชุมชน บ้านใหม่หนองผึ้งเมื่อ 12 ก.ค. โดยเป็นการดำเนินการก่อนระยะเวลาที่ กอ.รมน. เคยระบุไว้กับชาวบ้าน
พื้นที่ ปลูกดอกดาวเรืองราว 100 ตารางวาของชาวบ้านคนหนึ่งในชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้ง ซึ่งร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. รื้อถอนรั้วเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมาด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่ร้างตามที่ กอ.รมน.เีชียงใหม่แถลง
สภาพรั้วซึ่งล้มทับพืชผลทางการเกษตรของคนในชุมชน โดยชาวบ้านระบุว่าเกิดจากการรื้อถอนชุมชนของเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เมื่อวันที่ 12 ก.ค.
ตัว แทนชาวบ้านได้ แสดงบัตรประจำตัวชุมชนบนพื้นที่สูงขึ้นต้นด้วยเลข 6 และมีทะเบียนบ้านอยู่ใน อ.แม่แตง เพื่อแสดงว่าไม่ได้เป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามที่ถูกระบุในสื่อ มวลชนหลายสำนัก นอกจากนี้ชาวบ้านบางคนในชุมชนแสดงบัตรประชาชน ขึ้นต้นด้วยเลข 1 และ 3 ด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นคนไทย
ต่อ มามื่อวันที่ 13 ก.ค. ชาวบ้านในชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า การรื้อถอนซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการรื้อถอนพื้นที่ร้างในวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นไปตามที่ กอ.รมน. แจ้งก่อนหน้านี้ว่าให้ออกจากพื้นที่ภายในเวลา 120 วัน หลังจากวันที่ 9 มิ.ย. หรือภายใน 1 ต.ค. แต่กลับมีการเข้ามารื้อถอนทรัพย์สินของชาวบ้านก่อนกำหนด โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้รื้อถอนเฉพาะพื้นที่ร้าง แต่บางกรณีเข้าไปรื้อถอนพื้นที่ซึ่งยังมีผู้ทำกิน เพียงแต่ช่วงกลางวันผู้อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวออกไปทำงานรับจ้างนอกชุมชน ไม่ใช่พื้นที่ร้างอย่างที่เป็นข่าว นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนกรณีที่เจ้าหน้าที่ล้มรั้วทับพืชผลทางการเกษตร ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย
โดยนางบัว ลุงมา ชาวบ้านในชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งกล่าวว่าช่วงที่มีการรื้อถอนรั้วโดยเจ้า หน้าที่ ตนออกไปทำงานนอกชุมชน เมื่อกลับในช่วงเย็นจึงพบว่ามีการล้มรั้วทับไร่ดอกดาวเรืองซึ่งตนกำลังปลูก ด้วย
นอกจากนี้ชาวชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งยันยืนยันว่าไม่ใช่ชุมชน ต่างด้าวหลบ หนีเข้าเมือง โดยตัวแทนชาวบ้านได้แสดงบัตรชุมชนบนพื้นที่สูง เลขประจำตัว 13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 6 และบางคนได้แสดงบัตรประชาชน เลขประจำตัว 13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 1 และ 3 ด้วย
นอกจากนี้บางราย ยังร้องเรียนว่าจากการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้า กอ.รมน. เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ให้ชาวบ้านลงลายมือชื่อในเอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งมาทราบภายหลังว่า เป็นเอกสารที่มีข้อความระบุให้ชาวบ้านยินยอมย้ายออกจากพื้นที่ในเวลา 120 วันนั้น โดยมีชาวบ้านลงลายมือชื่อโดยไม่รู้ข้อความในเอกสาร และเจ้าหน้าที่ยังกล่าวด้วยว่าถ้าไม่ลงชื่อในเอกสาร จะไม่มีการต่ออายุประจำตัวบุคคล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งดังกล่าวตั้งขึ้นในปี 2547 เมื่อเจ้าของที่ดิน สปก. เดิมที่มีที่ดินแปลงติดกันรวม 3 ราย พื้นที่กว่า 70 ไร่ ต้องการขายสิทธิที่ดิน คนเฝ้าสวนซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ ถือบัตรสถานะชุมชนบนพื้นที่สูง จึงขอซื้อต่อ แต่เงินไม่พอจึงพากันชักชวนครอบครัวและญาติพี่น้องช่วยกันซื้อที่ดินคนละ แปลงๆ ละประมาณ 80-100 ตารางวา ราคาแปลงละ 20,000 บาท โดยไม่รู้ว่าที่ดิน สปก. ตามกฎหมายข้ามซื้อขาย แบ่งแยก โอนสิทธิ์ และต้องใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมเท่านั้น
และจากเดิมที่มีชาวบ้านไท ใหญ่เข้ามาอาศัยไม่กี่สิบราย ต่อมาก็มีการชักชวนญาติพี่น้องที่เป็นชาวไทใหญ่ด้วยกันซึ่งอาศัยอยู่แถบ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ มาร่วมซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่พักอาศัย
ใน ปี 2551 ชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งมีบ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่ชาวบ้านรับจ้างทำเกษตรกรรมตามฤดูกาล โดยเมื่อปี 2547 ชุมชนแห่งนี้เคยได้รับการแต่งตั้งจากนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ในขณะนั้น ให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งด้วย ต่อมา เมื่อเดือนเมษายนปี 2551 เคยถูกเจ้าหน้าที่ สปก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุม และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ขอให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ชะลอการ รื้อถอนชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสหาที่อยู่ใหม่ ทำให้หลังจากนั้นสมาชิกในชุมชนบางส่วนย้ายออกไป เหลือเพียง 63 หลังคาเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจาก กอ.รมน. จ.เชียงใหม่ ได้เข้ามาเร่งรัดการรื้อถอนดังกล่าวภายให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 ตุลาคม 2554
ขณะ ที่คดีซึ่ง สปก. เคยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่เมื่อปี 2551 นั้น ขณะนี้คดีดังกล่าวยังไม่ถึงชั้นศาลแต่อย่างใด