WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, July 16, 2011

Many things we should know about อมรา

ที่มา Thai E-News



โดย Bugbunny
ที่มา ประชาทอล์ก

มี ข้อมูลจากเพื่อนที่เป็นสิงห์ดำ รัดสาดจุฬา เกี่ยวกับนางอมรา ฯ ก็เลยมาเล่าสู่กันฟัง ไม่ต้องเชื่อเต็ม ๆ นะ แต่บอกได้เลยว่า เพื่อนคนนี้ชาวสิงห์ดำเขาถือเป็นเพชรของคณะเม็ดหนึ่งก็แล้วกัน

ปู่ ของนางอมราชื่อ หลวงประชัญคดี บ้านอยู่ซอยเดียวกับอภิสิทธิ์ (ซ.สวัสดี-สุขุมวิท 31) แม่เป็นคุณหญิง ชื่อระเบียบ ภูมิรัตน พ่อเป็น รศ.อมร ภูมิรัตน์ เคยทำงานให้กับโครงการที่ทุกสภาห้ามตัดงบประมาณในภาคเหนือและอีสาน ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว

บ้านพักปัจจุบันของนางอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 หลังโรงพยาบาลสมิติเวช ที่ดินแถบนั้นทั้งแทบเป็นของตระกูลภูมิรัตน มีธุรกิจคอร์ดแบด เทนนิส แรกเก็ต สระว่ายน้ำและร้านอาหารชื่อกลางซอย อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน เป็นคุณหนูมาแต่อ้อนแต่ออก ตั้งแต่เล็กจนโตมีคนซักผ้าหุงข้าวให้กินตลอด

ชีวิตสมบูรณ์แบบถึงขนาดนั้น แกจะไปรู้อะไรเรื่องสิทธิมนุษยชนของประชาชน

จบ ตรีและโท จาก University of California ที่เดียวกับ สนธิ ลิ้มทองกุล ไปจบปริญญาเอกจาก University of Washington สาขา Anthropology หรือ มานุษยวิทยา ไม่ได้จบสาขารัฐศาสตร์มาเลย แต่น้าดัน ชื่อชัยอนันต์ ดันจนได้เป็นคณบดีรัดสาด คณะที่แกไม่เคยเรียนเลย เข้าเป็น อ.รุ่นพี่เมียอภิสิทธิ์ที่จุฬาฯ

นางอมรา พงศาพิชญ์ ได้รับเลือกเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ด้วยคะแนนเสียงต่ำสุด เป็นที่ 3 จากการสรรหาคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยมี นายชัยอนันต์ สมุทรวนิช เป็นกรรมการสรรหา ( นายชัยอนันต์ สมุทรวนิช ตอนนั้นเป็นลูกจ้างหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ ของนายสนธิ ) โดยอ้างว่า ผู้ที่ได้คะแนนอันดับที่ 1 (26 คะแนน) ไม่เหมาะสมแต่ นางอมรา พงศาพิชญ์ ที่ได้ที่ 3 (8 คะแนน) มีความเหมาะสมด้วยเหตุผลที่ว่า คณะรัฐศาสตร์ ควรจะลองของใหม่ๆ

นางอมรา พงศาพิชญ์ พร้อม นายชัยอนันต์ สมุทรวนิช และพวก ใช้ชื่อคณะรัฐศาสตร์ประกาศขับไล่นายกทักษิณออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 2 กพ.2549 ก่อนที่นายสนธิ จะชุมนุมในวันที่ 4 กพ. 2549

นางอมรา พงศาพิชญ์ ในฐานะคณบดี มีคำสั่งให้มีการประชุมคณะกรรมการคณะรัฐศาสตร์นัดพิเศษ พร้อมเชิญคณาจารย์ทุกท่านในคณะรัฐศาสตร์ประชุมในบ่ายวันที่ 8 กพ. 2549 เป้าหมายเพื่อคัดกรองอาจารย์ในคณะ โดยอาจารย์ที่เข้าร่วมประชุมต้องลงชื่อเข้าร่วมประชุม แล้วนำไปรวมกับรายชื่อผู้ขับไล่นายกทักษิณ ส่วนอาจารย์ที่ไม่เข้าร่วมประชุมจะถือว่าเป็นพวกเดียวกับนายกทักษิณ

(ไปสืบกันเอาเองว่าพวกหัวหอกอาจารย์ที่ออกมาขับไล่นายกทักษิณ มีใครเคยทำงานให้กับพรรคการเมืองใดบ้างหรือไม่?)

สมาคม นิสิตเก่ารัฐศาสตร์(สรจ.) เป็นสถาบันเก่าแก่ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมายาวนาน ทำคุณประโยชน์ให้กับคณะและนิสิตปัจจุบันมากมาย ชาว สรจ. จำนวนมากไม่พอใจคนสองคนนี้อย่างมาก เพราะนาง อมรา พงศาพิชญ์ ไม่เคยเป็นศิษย์เก่าคณะนี้หรือคณะไหนในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย

ส่วน นายชัยอนันต์ สมุทรวนิช ก็มาเรียนที่รัฐศาสตร์ จุฬา เพียง 1 ปีการศึกษา แต่เอาชื่ิอเสียงของคณะไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองให้กับตัวเองและพวก จนได้รับการสมนาคุณกันทั้งสองคนอย่างเต็มที่หลังรัฐประหาร 2549

นางอมรา ที่รัฐศาสตร์ ร่วมงานการต่อต้านรัฐบาลนายกทักษิณอย่างใกล้ชิดกับ นางอุบลรัตน์ที่นิเทศศาสตร์ เป็นกลุ่มขาประจำฝั่งจุฬา นางอุบลรัตน์ เป็นประธาน คปส. (คณะกรรมการปฏิรูปสื่อ ฯ) มีนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นกรรมการ มีเลขาชื่อ สุภิญญา กลางณรงค์ ที่ว่ากันว่าสุริยะใสเคยจี๋จ๋าอยู่พักหนึ่ง และสุภิญญาเคยถูกบ.ชินฟ้อง 400 ล้าน

ส่วนอีกคนที่อยู่ฝั่งนิด้า คือ นางกัลยาณี คูณมี (นามสกุลคุ้น ๆ ใช่ไหม)

ถึง วันที่ฝ่ายประชาชนชนะเลือกตั้งแบบใสสะอาดเช่นวันนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปให้ราคากับคนพวกนี้อีก เพราะประชาชนพิสูจน์แล้วว่าเลือกใคร ตอนนี้จนตรอกหนัก ดิ้นพล่านกันไปหมด ทุกกลุ่ม ทุกคน ทุกเรื่อง ที่กำลังทำกันอยู่ ก็เพียงเพื่อช่วยมหาอำมาตย์ เจ้านายและคนชนชั้นเดียวกับตัวเอง ให้รอดข้อหาสมคบกันทำฆาตกรรมประชาชนเท่านั้น

แถมทุกคนยังร้อนตัวกลัว ถูกเปิดโปงเช็คบิล ก็ขอเปิดโปงมันเสียเลยที่นี่สักคนหนึ่ง ในเมื่อมันไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของเรา พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับความเป็นผู้นำองค์กรของมันเช่นกัน

ไป ร่วมกันลงชื่อถอดถอน นางอมรา พงศาพิชญ์ และพวก ให้พ้นจากกรรมการสิทธิมนุษยชนชุดนี้กันดีกว่า ไล่ไปให้พ้นจากองค์กรที่ควรเป็นผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชนธรรมดา ไม่ใช่พิทักษ์ปกป้องอำมาตย์กับสมุนรับใช้อย่างที่ประชาชนกำลังรู้สึก