ที่มา มติชน
(ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2554)
เป็นโรงเรียนสอนให้รับรู้ในเรื่องของ "อำนาจรัฐ"
เป็นโรงเรียนสอนให้รับรู้ในเรื่องรายละเอียดของ "กลไก" แห่ง "อำนาจรัฐ" ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างสูง
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ให้การศึกษามากยิ่งกว่าที่อาจารย์ทางรัฐศาสตร์จะทำได้
สังเกตหรือไม่ว่า เหตุใดเมื่อทำรัฐประหารได้สำเร็จเมื่อเดือนกันยายน 2549 สิ่งแรกที่กระทำคือการฉีกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ทิ้ง
จากนั้น จึงตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
จาก นั้น ภายในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็บรรจุเนื้อหาในประกาศคณะปฏิรูปการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ลงไป
แม้กระทั่งเนื้อหาการยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
จาก นั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติก็คัดสรรคณะกรรมการในองค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็น ปปช. ไม่ว่าจะเป็น กกต. ไม่ว่าจะเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นี่คือกลไกแห่ง "อำนาจรัฐ" อันมาจากการรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
จากนี้จึงเห็นได้ว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ไม่ว่าการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554
เป็นการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ของคณะรัฐประหาร
เป็นการเลือกตั้งภายใต้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ อันเป็นผลผลิตจากการรัฐประหาร
อย่าได้แปลกใจหากในที่สุดแล้ว ชะตากรรมของพรรคพลังประชาชนก็ดำเนินไปอย่างเดียวกันกับที่พรรคไทยรักไทยเคยประสบ
ทั้งๆ ที่พรรคไทยรักไทยได้ ส.ส.มา 377 จากทั้งหมด 500
ทั้งๆ ที่พรรคพลังประชาชนได้ ส.ส.มา 233 จากทั้งหมด 500
น่าสนใจก็ตรงที่ พรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ได้ ส.ส.มา 269 จากทั้งหมด 500
แต่ขอให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขอให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ขอให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ขอให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นี่เป็นกระบวนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
เป็นการเคลื่อนไหวภายใต้กรอบแห่ง "ตุลาการภิวัฒน์"
มีความมั่นใจสูงเป็นอย่างยิ่งจากแกนนำคนสำคัญของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
"การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม จะต้องเป็นโมฆะ เพราะไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายเรื่อง จะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปไม่ได้
"หากปล่อยผ่านจะทำให้ประเทศล่มสลายแน่นอน
"ทุกอย่าง มีหลักฐานชัดเจน รวมถึงการยื่นเรื่องยุบพรรคการเมือง 4-5 พรรคด้วย หากปล่อยให้ผ่านไปประเทศจะเกิดกลียุคทันที เพราะเท่ากับว่า เรายอมให้มีคนใช้เงินซื้อประเทศ"
เป็นการกล่าวผ่านรายการวิทยุกระจายเสียง "คนเคาะข่าว"
"ผม คิดว่า เลือกตั้งครั้งนี้มีโอกาสโมฆะสูงและน่าจะต่อด้วยยุบพรรคทุกพรรคที่ยื่นไป เรื่องนี้ไม่ต้องดูดวงดาวแต่ดูลมพัดมาก็รู้แล้วว่า อะไรจะเกิดขึ้นแล้ว"
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายประพันธ์ คูณมี ยื่นยุบ 5 พรรคตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้วินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้งของ กกต.เป็นโมฆะ
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคพลังชล อันล้วนแต่มีบทบาทเป็นอย่างสูงภายในกระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้
เป็นการยื่นให้การเลือกตั้งโมฆะ เป็นการยื่นให้ยุบ 6 พรรคการเมืองสำคัญ
ทั้งหมดนี้คือความเคลื่อนไหว ทั้งหมดนี้คือการขยับตอบโต้เพื่อใช้กลไกทางกฎหมายให้เป็นประโยชน์
เป็น การเคลื่อนไหวเหมือนกับที่เกิดก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นการเคลื่อนไหวเหมือนกับที่เกิดหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนธันวาคม 2550
ทั้งหมดนี้ล้วนสอนวิชาการเมืองเรื่องกลไก "อำนาจรัฐ" ให้ได้สำเหนียกอย่างยอดเยี่ยมยิ่ง