ที่มา Thai E-News
หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ขณะขึ้นปลุกระดมบนเวทีพันธมิตร ตอนยึดสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกพิชัย สอนศรี
ผม อ่านข้อเขียนของหมอตุลย์ เลยอยากตอบในฐานะคนเสื้อแดง ผมได้โพสต์ในเฟสบุ๊ค แต่มันไม่สามารถส่งทางข้อความหาหมอตุลย์ไม่ได้(ไม่อยากแอดเพื่อนกับหมอ) ข้อความมันฟ้องว่ายาวเกินไป จึงส่งมาเพื่อพิจารณา
ตอบข้อเขียนคุณหมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์
ผมชื่อเอกพิชัย สอนศรี ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เป็นข้าราชการพลเรือนในอุดมศึกษา
ขออนุญาตแนะนำตน อาจตอบข้อเขียนของคุณหมอ ในฐานะคนเสื้อแดงคนหนึ่ง เท่าที่ผมได้สัมผัสและพอเข้าใจพวกเขาแม้ไม่ทั้งหมด
ประการสำคัญ ผมเกิดและโตในชนบท พ่อ-แม่และบรรพชนผมเป็นชาวนา จึงอยากจะขอโอกาสนี้พูดแทนคนไม่มีเสียงคนอื่นๆ
ข้อ เขียนนี้ ในฐานะคนเสื้อแดงคนหนึ่ง เพื่อตอบข้อเขียน ข้อคิดเห็นของคุณหมอที่มีต่อคนเสื้อแดง ผมคนเสื้อแดงที่มีไม่ได้สังกัดแดงกลุ่มใด เพราะคนเสื้อแดงมีหลายกลุ่ม ขออธิบายเสริมโดยสังเขปดังนี้
พลันที่พันธมิตรฯชุมนุม ขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กระทั่งเกิดการยึดอำนาจเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ในจำนวนคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำรัฐประหารมีด้วยกันหลายกลุ่ม หลายองค์กร เช่น กลุ่มคนที่ชื่นชอบนายกฯทักษิณ (เรารักทักษิณ) สมาชิกพรรคไทยรักไทย กลุ่มคนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และอื่นๆ โดยตัวแทนหรือคนที่มีอำนาจนำของกลุ่ม ได้ตกลงใจกันใส่เสื้อแดงเพื่อต่อต้านรัฐประหาร เมื่อมีคนกล้าประกาศว่า “ไม่กลัวเผด็จการ” “ไม่เอาเผด็จการ” การป่าวประกาศนั้นดังไปถึงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ผมขอเรียกว่า “คนไม่มีเสียง”ในสังคม (มิใช่เพราะเขาเป็นใบ้ แต่เพราะเขาพูดแล้วคนในสังคมไม่เคยฟัง หรือฟังก็ไม่เคยได้ยิน เพียงเพราะพวกเขามีฐานะทางเศรษฐกิจ ทางสังคมต่ำกว่า) จึงพร้อมที่ร่วมทางในการต่อสู้ด้วยเท่านั้นเอง
หมอตุลย์ เขียน-ผมรู้ดีว่าพวกคุณ คนเสื้อแดง กำลังลิงโลดอิ่มใจกับผลการเลือกตั้ง ที่คนที่คุณรักพรรคที่คุณชอบได้รับการเลือกอย่างถล่มทลายเกินกว่าครึ่งของ สภา โดยได้รับเสียงส่วนใหญ่จากภาคเหนือตอนบน และภาคอีสาน จนกำลังจะได้จัดตั้งรัฐบาลในเวลาอันใกล้นี้
- นั่นคือสิ่งที่คุณหมอกับผมเห็นตรงกันว่า “เสียงส่วนใหญ่(มากกว่าครึ่งหนึ่ง) ลงมติแล้วว่าประชาชนต้องการพรรคการเมืองใดเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ราวสองปีครึ่ง นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ได้บริหารประเทศจนเกิดวิกฤติน้ำมันปาล์ม การทุจริตที่มากกว่าทุกรัฐบาล(คอรัปชั่นแม้กระทั่งชุมชนพอเพียง) มีการกู้เงินมากกว่าทุกรัฐบาล พลันที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั่นคือรัฐบาลของเสียง (ที่ประชาชนส่วนใหญ่)ไม่ได้เลือกเพื่อบริหารประเทศ
ประชาธิปัตย์ได้ เป็นรัฐบาลผลพวงจากคณะรัฐประหาร ซึ่งเขียนกฎหมายเอง ตั้งคณะกรรมการ(หลายคณะ)เอง ยุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นปฏิปักษ์ ตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรค ตามบันได ๔ ขั้น
หมอตุลย์เขียน-ในขณะเดียวกัน พวกคุณก็ยังคงความเกลียดชังรัฐบาลเดิม และทหาร
- คนเสื้อแดงไม่ได้เกลียดประชาธิปัตย์ (ความเกลียดชังเกิดขึ้นหลังจากวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓) เขาเลือกพลังประชาชน เขาต้องให้รัฐบาลที่เขาเลือกได้บริหารประเทศด้วยเสียงข้างมาก แต่พธม.ก็ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมจนไม่อาจให้รัฐบาลสมัคร(รวมถึงรัฐบาลสมชาย) บริหารประเทศได้อย่างราบรื่น ก็โดยการขนคนของประชาธิปัตย์มิใช่หรือ (คุณหมอเป็นแกนนำเสื้อหลากสี ที่เปลี่ยนสีเสื้อมาจากเสื้อเหลืองพธม.มาก่อนน่าจะมีข้อมูลมากกว่าผมกระมัง หรือสอบถามคุณสนธิ ลิ้มทองกุลก็จะทราบ) พธม.เสื้อเหลืองต่างหากที่เกลียดชังรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย
คน เสื้อแดงรังเกียจรัฐบาลสุรยุทธ์ ที่ได้มาจากการกระทำรัฐประหาร เพียงเพื่อหยิบยื่นอำนาจนั้นให้กับพรรคประชาธิปัตย์ (บันไดสี่ขั้นคมช.)
หมอ ตุลย์เขียน-ด้วยความเชื่อในชุดข้อมูลที่ตอกย้ำว่า รัฐบาลและทหารได้ล้อมปราบล้อมยิงพวกของคุณอย่างโหดร้ายทารุณดุจฆาตกร ที่ต้องจับลากคอมาลงโทษให้ได้
- จะล้อมยิง หรือซุ่มยิงก็เกิดการตาย ๙๑ ศพ (ศพที่ ๙๒ ในต่างจังหวัด) ในจำนวนนั้นมี ๖ ศพในวัดปทุมฯ เป็นเขตอภัยทาน หากไม่มีการฆ่าย่อมไม่มีการตาย ถามว่าคนเหล่านั้นต้องการมาตายหรือ ต่อให้ผู้เสียชีวิตต้องตายตามข้อกล่าวหาล้มเจ้าก็ดี ก่อการร้ายก่อการร้ายก็ดี กระทั่งเผาบ้านเผาเมืองก็ดี ทำไมไม่ให้เขาเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อสู้คดี หากคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าโทษประหารชีวิต พวกเขาเหล่านั้นก็ตายตาหลับเพราะว่าได้ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว
- แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีเจ้าหน้าที่ทหารรวมอยู่ด้วย (พ.อ.ร่มเกล้า-ยศขณะนั้น) เจ้าหน้าที่ทหารเข้าขอคืนพื้นที่ วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ ตั้งแต่ ๑๓.๐๐ น. พร้อมอาวุธประจำกาย (อาวุธสงคราม) ซึ่งการขอคืนพื้นที่จนกระทั่งมืดค่ำแล้ว ยังไม่สำเร็จ (เอาคืนพื้นที่ไม่ได้)ท้ายที่สุดนายทหารท่านนั้นเสียชีวิต เป็นความสูญเสียที่นำความเศร้าสลดใจแก่คนไทยทุกคน ในกรณีนี้ ผมมองว่าเหตุการณ์เดียวกัน สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน พล.อ.ร่วมเกล้าได้รับบำเหน็จความดี ความชอบ ขณะเดียวกันที่ประชาชนผู้เสียชีวิตในวันเดียวกันถูกตราหน้าว่า “ฆ่ากันเอง” “ฝีมือคนชุดดำ” หากเป็นคนชุดดำยิงประชาชน ทำไมรัฐบาลปกป้องประชาชน และเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตหลังเหตุการณ์อย่างทันท่วงที เนื่องจากเป็นเหตุการณ์เดียวกัน สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน
หมอ ตุลย์เขียน-ในขณะที่แกนนำของพวกคุณที่มาชัดชวนให้มาร่วมการ ชุมนุม ไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายแม้แต่คนเดียว แปลกมากใช่ไหม หากรัฐบาลและทหารเขาจะปราบ กวาดยิงพวกแกนนำไม่ดีกว่าหรือ
- เป็นคำถามที่ผมก็สงสัยว่า นั่นน่ะสิ แล้ว“ยิงประชาชนทำไม” “ฆ่าประชาชนทำไม”
- รายชื่อผู้เสียชีวิตเหล่านั้น ไม่มีสักรายเดียวที่มีชื่อใน “ผังล้มเจ้าของ ศอฉ.”
หมอ ตุลย์เขียน-ยิ่งคนทีเป็นคนสั่งการให้มีการชุมนุมด้วยความ รุนแรงบอกว่ามีเสียงปืนแตกนัดแรก จะมานำมวลชน แต่ก็ไม่เคยกลับมา แต่ให้ลูกเมียบินหนีไปต่างประเทศ
- มีความซับซ้อนของสถานการณ์ ต้องถามคนสั่งการเองให้มีการชุมนุมมีหรือไม่ กรุณาอย่าคาดคั้นเอาคำตอบจากผู้ชุมนุม
หมอ ตุลย์เขียน-ในความเห็นของผมพวกคุณอาจมีอุดมการณ์ แต่พวกคุณคือเหยื่อของผู้นำที่จิตใจอำมหิต สั่งการให้มีการชุมนุม เพียงเพื่อให้รัฐบาลต้องใช้กำลังทหาร ปราบปรามการชุมนุมด้วยความรุนแรง เพียงเพื่อให้เกิดความตายเกิดขึ้น
- ผมไม่อาจตอบคำถามนี้เพราะผมไม่ใช่แกนนำ ก็ในเมื่อคลั่งแค้น เคียดแค้น ผู้นำ หรือแกนนำคนเสื้อแดง แล้ว “ทำไมประชาชนถูกยิง” “ทำไมประชาชนถูกฆ่า” “ทำไมต้องปราบปรามด้วยความรุนแรง” “ทำไมต้องให้เกิดการตายเกิดขึ้น” เป็นคำถามที่ประชาชน และญาติของผู้เสียชีวิตได้ถามนายอภิสิทธิ์ในขณะหาเสียง จึงเป็นคำถามที่ประชาชนถามถึงรัฐบาล มิใช่คำถามที่รัฐบาลจะเค้นเอาจากประชาชนว่า “ทำไม(พวกคุณ)ถึงอยากให้ปราบปรามด้วยความรุนแรง”
หมอตุลย์เขียน-และเป็นข้อกล่าวหารัฐบาลและทหาร และใช้เป็นเงื่อนไขเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม เพื่อให้เกิดความปรองดอง
- ตลอดระยะเวลาที่ผมติดตามเรื่องนี้มา บรรดาแกนนำทั้งหลายทั้งที่ออกจากเรือนจำแล้วและที่ถูกจองจำอยู่ (คุณจตุพรและคุณนิสิต) เขาก็ยังยืนยันไม่มีการนิรโทษกรรม
- ผมไม่เห็นด้วยในประโยคที่ว่า “ใช้เป็นเงื่อนไขเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม เพื่อให้เกิดความปรองดอง” หากบรรดาญาติของผู้เสียชีวิต ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมคุณหมอเชื่อหรือว่า หากมีการนิรโทษกรรมแล้วจะเกิดการปรองดอง
หมอตุลย์ เขียน-พวกคุณเชื่อในคำชวนเชื่อว่า รัฐบาลเป็นอำมาตย์ กดขี่พวกคุณคือไพร่ ถูกสั่งฆ่าอย่างผักปลา โดยไม่เคยได้มีโอกาสทราบเลยว่า 91 ศพมีใครตายวันไหน ที่ไหน เป็นใครบ้าง เป็นทหาร ตำรวจ เสื้อแดง เสื้อหลากสี ประชาชนทั่วไป ฯลฯ ตายจากอาวุธชนิดใด ไม่เคยคำนึง
- ประเด็นนี้คุณจตุพร ได้อภิปรายในสภาฯ อย่างน้อย ๑๓ ศพ ระบุชัดเจนว่าใครชื่ออะไร เสียชีวิตเมื่อไร ที่ไหน สาเหตุการตายอย่างไร แม้แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยังได้สืบสวนสอบสวนตามคำสั่งของรองฯนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ถึงภารกิจของทหารแต่ละหน่วย ใครรับผิดชอบในยุทธการนั้น กระทั่งกระสุน
- คุณหมอไม่ทราบจริงๆ หรือว่ามี “เขตใช้กระสุนจริง” มีหน่วยสไนเปอร์ และคุณหมอก็คงไม่ทราบอีกว่าใช้กระสุนไปแสนกว่านัด
หมอ ตุลย์เขียน-เพียงแต่พูดตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่น่าเกลียดที่สุดคือพาดพิงถึงสถาบันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ หรือไม่ก็เพิกเฉย
- ใช่ครับ หากมีใครก็ตามที่กล่าวพาดพิงถึงสถาบันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ไม่เพียงน่าเกลียดที่สุด ยังชั่วช้าสามานย์ที่สุดด้วย
หมอ ตุลย์เขียน-พวกคุณฟังเขาก็เชื่อ เลยต้องออกมาเลือกตัวแทนของไพร่ ให้มาเสวยอำนาจเป็นอำมาตย์โดยคิดค้นคำขวัญน่าละอายว่า โกงแต่ทำงานเรารับได้
- ไม่เฉพาะคนเสื้อแดงกระมังครับคุณหมอที่เลือกพรรคเพื่อไทย (แม้คุณหมอมิได้กล่าวถึงชื่อพรรคตรงไหน แต่ถ้าอ่านตั้งแต่ต้นจนถึงบรรทัดนี้ ย่อมทราบว่าหมายถึงพรรคเพื่อไทย และ/หรือไทยรักไทย และพลังประชาชน)
- ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายที่เขาได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม
- ผมไม่เห็นพรรคไหนเขียนนโยบาย “โกงแต่ทำงานรับได้” แต่นั่นเป็นความรู้สึกของคนสังคมส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อประชาธิปไตยระบบตัวแทนประกาศตัวลงสมัคร คุณหมอย่อมเลือกคนที่คุณหมอรัก เลือกพรรคที่คุณหมอชอบ ชาวบ้านก็เหมือนกัน เพียงแต่เขาอาจมองคนดีไม่เหมือนคุณหมอ คุณหมออาจเลือกคนที่ มีคนบอกว่า “นี่คนดีผมเลือกให้แล้ว” หรือ “นี่คนดี เลือกแล้วไม่เพียงคุณจะโชคดี ประเทศก็จะโชคดีด้วย”
หมอตุลย์เขียน-แต่ไอ้ที่โกงน่ะ อย่างน้อย 4.6 หมื่นล้านบาท มากกว่าที่ให้กับประชาชนมากมาย ทั้งๆที่เงินจำนวนนี้ต้องเป็นของแผ่นดิน เป็นของประชาชน แต่กลับเข้าสู่กระเป๋าของคนครอบครัวชินวัตร พวกคุณก็รับได้ แต่ผมกับคนไทยอีกจำนวนมากยอมรับไม่ได้กับการทุจริตของทักษิณ และการที่ยิ่งลักษณ์ช่วยเหลือในการทุจริตของทักษิณ ตลอดจนให้การเท็จในศาล ซึ่งทำให้ยิ่งลักษณ์ขาดคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คือมีความซื่อสัตย์ สุจริต ผมและพวกจึงคัดค้านการเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของไทย ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
- ผมไม่ขอตอบความเห็นนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง และคนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้ เรียกร้องเพื่อให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคใดเป็นรัฐบาล พวกเราเพียงแต่ต้องการให้ประเทศนี้ปกครองในระบอบประชาธิปไตย หมายความว่า “อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย”
- ส่วนประเด็นดังกล่าวข้างต้นของคุณหมอจะติดตามตรวจสอบ ตามข้อกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯทักษิณ ที่ทนายความหรือผู้ที่มีความรู้จะว่ากันไป ผมหรือคนเสื้อแดงอื่นๆไม่ได้ต่อสู้เพื่ออดีตนายกฯทักษิณ หรือเพื่อเงินของนายกฯทักษิณ (ไม่รู้จะให้คนเสื้อแดงพูดอีกกี่ครั้งถึงจะยอมรับฟังกันบ้าง)
หมอตุลย์เขียน-แต่ผมถือว่า บ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ผลการเลือกตั้ง
- ไม่ใช่กระมังครับคุณหมอ ถ้าเชื่อว่าปกครองด้วยกฎหมาย การกระทำรัฐประหารแล้วให้รัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง คุณหมอไปอยู่ไหนตอนนั้น
คุณ หมอก็คงกลัวกฎอัยการศึกเหมือนผมจึงไม่กล้าปริปากว่านั่นผิดกฎหมาย ถือเป็นการกบฏต่อราชอาณาจักร คุณหมอไม่ทราบได้อย่างไรว่า การกระทำรัฐประหาร โทษร้ายแรงถึงประหารชีวิต บทบัญญัติของกฎหมายกว่าจะตราออกมาต้องผ่านขั้นตอนต่างๆของรัฐสภาโดยสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร(๓ วาระ) สมาชิกวุฒิสภา (๓ วาระ) แล้วยังต้องนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงพระราชวินิจฉัย ถึงจะทรงลงพระปรมาภิไธย การประกาศให้รัฐธรรมนูญสิ้นสุดลง สิ้นสุดทุกหมวด สิ้นสุดทุกมาตรา (หมวด ๒ พระมหากษัตริย์) ด้วยนะครับคุณหมอ
หมอตุลย์เขียน-จะฝาก เตือนเสื้อแดงทั้งหลายว่า ทักษิณกำลังจะทำการตามภาษิตไทยว่า “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” ซึ่งบัดนี้ได้ยินสัญญาณเตือนแล้ว เมื่อถึงวันนั้นพวกคุณก็จะเป็นเพียงกระเบื้องให้ทักษิณและครอบครัวเหยียบย่ำ ไปสู่อำนาจและการพ้นผิด กลับมาทุจริตอีก โดยมองพวกคนเสื้อแดงเป็นทางผ่าน และพูดซ้ำว่า พวกเอ็งโง่เองมาให้กูใช้เป็นบันไดเหยียบย่ำขึ้นสู่อำนาจ และอีกอย่างหากรัฐบาลทำอะไรไม่ดีไม่งามอีก คนที่ช่วยกันเลือกมาก็ช่วยรับผิดชอบด้วยก็แล้วกัน ว่าเลือกคนโกงมาบริหารบ้านเมือง
- ไม่ต้องห่วงครับคุณหมอ ถ้าอดีตนายกฯทักษิณ หรือคนหนึ่งคนใดครอบครัว หากมิได้เข้าสู่อำนาจทางการเมืองตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่เพื่อต้องการเสวยอำนาจแล้วเป็นเผด็จการเสียเอง ยืนตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย คนเสื้อแดงก็จะสู้กับอดีตนายกฯทักษิณ
ทั้ง นี้ทั้งนั้น เพื่อให้คุณหมอและกลุ่มชนชั้นนำ ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ ทางสังคมได้เข้าใจพวกเขา หรือฟังพวกเขาบ้าง เพราะพวกเขาไม่ได้เรียกร้องที่จะมีฐานะทัดเทียมท่านหรอก พวกเขาต้องการแสดงอำนาจที่มีพวกเขามีคือ
“การเลือกคนที่เข้าใจ และได้ทำอะไรให้พวกเขา(มาแล้ว) เมื่อคนนั้นมาไม่ได้ส่งตัวแทนมาพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะเลือก เพราะคนนั้นคือพวกเขาแล้ว”
ด้วยความนับถือ
ผศ.เอกพิชัย สอนศรี