“แล้วที่ทำนายออกมาแล้วผิดแบบนี้อายหรือไม่”
ไม่สบอารมณ์โก๋อย่างแรง “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ใช้จังหวะช่วงต่อเวลาพิเศษ ในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกินโควตาเกือบสิบนาที
ตั้งหน้าตั้งตา “จวก” นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ “อาจารย์วารินทร์” เจ้าสำนัก สุขิโตผู้โด่งดัง เจ้าของคำทำนายร้อนๆ
รัฐบาลที่นำโดยนายกฯสมัคร จะไปไม่รอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทยรอบที่สามจะเกิดเหตุวุ่นวาย ภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยทหาร
“บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
“อยากให้คนที่เป็นหมอดูลองนั่งคิดดูก่อนว่า ที่พูดมานั้นมีเป้าหมายอะไร พูดออกมาทำไม หน้าที่ของหมอดูต้องเป็นแบบนี้ หมอดูคนอื่นยังหุบปากอยู่เฉยๆ ทำไมหมอดูคนนี้ต้องเคลื่อนไหว กำหนดให้คนโน้นคนนี้ ออกข่าวทำพิธีต่อชะตาให้แบบนี้ เพราะพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) เขาจะทำพิธีกัน ประชาชนบางคนบอกไม่ไป
ก่อนหน้านี้หมอดูคนนี้ก็เคยมีการยืนยันว่า ตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสมัครไม่มีทางได้เป็น แล้วสุดท้ายผลออกมาเป็นอย่างไร แล้วที่ออกมาทำนายใหม่นี้ต้องการอะไร”
นี่ขนาดบอกว่า ยกผลประโยชน์ให้ไปก่อน “ลุงหมัก” ยังใส่ซะไฟแลบ
โดยกระบวนท่าที่สะท้อนออกมา ถ้าจะบอกว่านายกฯไม่หวั่นไหวไปกับคำทำนายของ “โหร คมช.” เลย มันก็ใช่ที่
ไม่ผวาแต่ระแวงก็แล้วกัน
เพราะแม้โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า หมอดูมีตาทิพย์เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้จริงหรือไม่
แต่โดยตรรกะ “อาจารย์วารินทร์” ได้รับฉายาว่าเป็น “โหร คมช.” มีลูกศิษย์ลูกหา ล้วนแต่นายทหารระดับบิ๊กเบิ้มในกองทัพ
ตรงนี้ต่างหากที่ต้องตามแกะรอยให้ดี
วงในอาจารย์กับลูกศิษย์มีการกระซิบกระซาบ ส่งซิกอะไรกันหรือไม่
และแม้คนพูดจะไม่ใช่ตัวละครที่มีน้ำหนัก แต่ประเด็นก็แหลมน่าสนใจ กับมุมที่ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ย้อนอดีตเทียบเหตุการณ์ การให้โหรออกมาชี้นำให้ปฏิวัติ เป็นแผนเดิมที่เคยใช้มาแล้วก่อนการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549
ที่แน่ๆ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รีบดักคอเลยว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่านำเอาเรื่องความวุ่นวายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอ้างเป็นเหตุผลทำการยึดอำนาจอีก
เพราะถ้ามีการรัฐประหารอีกครั้ง บ้านเมืองวิบัติแน่นอน
วนไปวนมา เงื่อนไขก็มาผูกโยงไว้ที่ปมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทุกฝ่ายแม้แต่รัฐบาลเองก็กำลังเสียวว่า จะเป็นหัวเชื้อเร่งปฏิกิริยาหักดิบ
ลำพังพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ตกอยู่ในไฟต์บังคับ เข้ามุมอับขยับหนีไม่ออก ยังไงก็ต้องรื้อรัฐธรรมนูญเพื่อหนีตาย
แต่ที่กำลังกระอักกระอ่วนใจก็คือ คิวของพรรคเพื่อแผ่นดินที่ไม่ใช่ผู้ร่วมชะตา
จะโดดร่วมวงกับพรรคร่วมรัฐบาลชูธงแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบไปไหนไปกัน ก็หวั่นชะตากรรมคงจะไม่หนีไปจากพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย
ถูกขึ้นบัญชีดำสั่งตาย
ไอ้ครั้นจะอิดออด ดึงเกมแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นที่ถูกใจขั้วอำนาจฝ่ายต้านเครือข่าย “ทักษิณ”
ก็มีหวังโดนอัปเปหิออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
ยิ่งโดยสภาพทุกวันนี้ทีมพรรคเพื่อแผ่นดินก็เหมือนข้าวนอกนาในรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯและ รมว.อุตสาหกรรม ถูกเพื่อนรัฐมนตรีเขม่น ในฐานะคนที่ขยันแสดงความคิดเห็นมากที่สุดในที่ประชุม ครม. ขณะที่นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย พอขยับจะทำงานใหญ่ สางปัญหาที่ดินทั้งระบบ ก็โดน “สิงห์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย แหย่ทีเล่นทีจริงจะขอให้พรรคเพื่อแผ่นดินเปลี่ยนตัว
ขยับล้ำหน้าเป็นเจอข้อหาหมั่นไส้
พวกจ้องไล่อยู่แล้ว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน