นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปล่อยกู้โดยให้ลูกค้ารายย่อยที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ธุรกิจห้องแถว สามารถนำอัญมณี เช่น เพชร พลอย มาค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารได้ ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอให้ภาครัฐผ่านกฎหมายและตีความว่า อัญมณีเหล่านี้เป็นทรัพย์สินสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ได้ ก็เริ่มดำเนินการได้ทันที จากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้เริ่มโครงการนำทองคำมาค้ำประกันไปแล้ว ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวได้รับความนิยมจากลูกค้าของธนาคารจำนวนมาก
“หากภาครัฐได้ผ่านกฎหมายหลัก ประกันทางธุรกิจ และตีความว่าเป็นสิ่งที่นำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ นั้นก็หมายความว่าจะเปิดโอกาสให้เอกชน พ่อค้า แม่ขายราย เล็ก ๆ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ส่วนการนำเพชร พลอยมาค้ำประกัน และกังวลว่าในอนาคตราคาอาจเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนราคาทองคำนั้น ตรงนี้ธนาคารไม่เป็นห่วง เพราะก่อนที่จะดำเนินการต้องมีการประเมินราคา รู้ราคากลาง ในรายละเอียดเหล่านี้ธนาคารได้เตรียมการไว้แล้ว”
อย่างไรก็ตามสมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมอัญมณีไทย จะยื่นหนังสือต่อภาครัฐเพื่อให้ผลักดันกฎหมายพ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ หากกฎหมาย ดังกล่าวประกาศใช้แล้ว จะช่วยให้เอกชน ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก เข้าถึงสถาบันการเงิน และหาแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ธนาคารยังมีเป้าหมายขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มภายใน 5 ปีนี้ จะขยายสาขาให้ครบ 50 แห่ง นอกเหนือจากนั้นจะใช้พื้นที่สาขาของบริษัทไทยประกันชีวิต ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคาร ที่มีกว่า 250 แห่งทั่วประเทศในการให้บริการลูกค้า โดยลูกค้าหลักของธนาคารคือกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่กระจายในตลาด ชุมชน หรือหมู่บ้านต่าง ๆ เพราะธนาคารมีบริการให้ทั้งเงินฝาก สินเชื่อ ทั้งกู้เงินไปลงทุน สินเชื่อที่อยู่อาศัย กู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด โดยใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงอย่างเดียว สามารถที่จะขอสินเชื่อกับทางธนาคารได้.
เดลินิวส์