ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สถานทูตไทย กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ตรวจสอบการทำสัญญาว่าจ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ของรัฐบาลไทยในช่วงที่มีการยึดอำนาจ หากสัญญาว่าจ้างใดที่ไม่มีความจำเป็นก็จะยกเลิกทั้งหมด ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการแก้แค้น แต่เท่าที่ตนดูแล้ว หลายสัญญาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียเงินหลายแสนบาทว่าจ้างบริษัทเหล่านั้นต่อไป พร้อมกันนี้จะขอให้สถานทูต และกงสุลไทยทั่วโลก ชี้แจงทำความเข้าใจกรณีการเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญของไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่นักลงทุนที่ยังมีความกังวลกับสถานการการเมืองภายในประเทศ
ซึ่งอุปสรรคหนึ่งในการบริหารขับเคลื่อนประเทศคือรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องปลดล็อค รัฐบาลไม่มีความกังวล ในเรื่องความขัดแย้งเพราะเป็นการทำตามสัญญาประชาคมที่หาเสียงไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นจากการยึดอำนาจ ส่วนคนที่จะแก้มาจากการเลือกตั้งซึ่งถือว่ามีความชอบธรรม ดังนั้นจะเดินหน้าแก้ไขต่อไป ภายใน 2-3 วันนี้ จะมีความชัดเจนว่าจะแก้ใหญ่หรือเล็ก แต่เท่าที่ฟังคาดว่าจะเป็นการแก้ใหญ่ทั้งฉบับโดยอาศัยรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นต้นแบบทั้งหมด ทั่งนี้รัฐบาลมั่นใจว่าจะสมารถชี้แจงให้ต่างชาติเข้าใจได้ สำหรับม.237 ไม่มีประเทศใด ที่เป็นประชาธิปไตยเขียนกฎหมายในลักษณะนี้ ถ้าใช้คำพูดแรงเรียกว่า 'เป็นกาละกินีทางนิติศาสตร์ ทำผิดคนเดียวแล้วยุบทั้งพรรคต้องขจัดทิ้งโดยเร็ว'
นายนพดล ยังปฏิเสธกรณีที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนี่งเสนอข่าวว่าสั่งการให้เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ในกัมพูชาดูแลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก รัฐมนตรี เป็นพิเศษในการเดินทางไปตีกอล์ฟกับสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยสั่งการใดๆ พ.ต.ท.ทักษิณไปในนามส่วนตัว แต่เป็นเรื่องปกติที่อดีตนายกฯไปประเทศใดทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตก็ต้องมีอัธยาศัยไมตรีในการไปต้อนรับ อย่างไรก็ตาม สื่อฉบับดังกล่าวมีการเสนอข่าวผิดๆอย่างต่อเนื่องตลอดมาก่อนหน้านี้ก็เสนอข่าวว่าตนจะเดินทางไปจีน เพื่อรายงานความเคลื่อนไหวเรื่องต่างๆให้พ.ต.ท.ทักษิณทราบ ทั้งที่ความจริงแล้วการที่ตนเดินทางไปเยือนจีน 14-15 เม.ย. ี้เนื่องจากได้รับเชิญจากทางการจีนเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากต่างประเทศถามถึงกระแสข่าวรัฐประหารจะให้ทูตชี้แจงอย่างไร นายนพดล กล่าวว่า เวลานี้ไม่มีเงื่อนใดๆที่จะนำไปสู่การยึดอำนาจ และต่างชาติไม่เชื่อคำทำนายของโหรอยู่แล้ว จากที่ตนได้ทำงาน ร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ท่านยืนยันมาตลอดว่าจะไม่มีการยึดอำนาจ ผบ.ทบ.บอกว่าสมัยนี้เอาปืนยิง หัวตัวเองดีกว่าจะไปยึดอำนาจ เพราะคนที่จะยึดอำนาจเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ส่วนตัวคิดว่าหากจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงใดๆก็ให้เกิดจากภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างการยุบสภาดีกว่า แต่เวลานี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะทำ นายกฯก็ยังทำงานได้ ส่วนรัฐมนตรีก็พยายามทำงานกันอยู่
เมื่อถามว่าประมินความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านจะส่งกระทบต่อรัฐบาลแค่ไหน นายนพดล กล่าวว่า เป็นกระบวนการทำงานที่สอดคล้องกันของคนที่ไม่ยอมรับกติกาและไม่ยอมแพ้ ประเทศไทยยังมีน้ำใจ นักกีฬาน้อยไป ยังมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่คิดว่าตัวเองมีเสียงมากกว่าชาวบ้าน ซึ่งผลกระทบก็คงจะทำให้รัฐบาล เสียเวลา คอยเฝ้า ติดตามความเคลื่อนไหว เท่าที่ทราบมีบางพรรคการเมืองจ่ายเงินสนับสนุนการชุมนุมที่สวนลุมพินี ซึ่งกำลังติดตามว่าใครเป็นคนทำ แต่ตนเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลาย ประชาชนจะไม่ยอมสนับสนุน เท่าที่ดูฝ่ายพันธมิตรจุดไฟไม่ค่อยติด