ใบตองสดนั้น มันจะชูใบต้านกระแสลม ก้านแต่ละก้านจะส่งใบออกไปคนละทิศละทาง..ลมพัดใส่มันก็ไร้เสียงไม่เสียดสีกัน
ครั้นใบตองสิ้นอายุ..ก้านไร้พลัง ทั้งก้านทั้งใบก็จะ..ลู่ลงมาเคียงกันอยู่ข้างลำต้น..ใบตองแห้งเหล่านี้เมื่อโดนลมพัดต้อง มันก็จะเสียดสีกันให้เสียงแปลกประหลาด แสงแดดต้องใบให้เงาลงไปที่พื้นดินข้างใต้..จินตนาการได้เป็นรูปร่างต่างๆ นานา
ตอนลมพัดต้องใบตองแห้งนี่แหละ..ที่หมาจะพากันเห่าใส่ เพราะสำคัญผิดทั้งที่เห็นและได้ยิน..
ธรรมชาติของหมานั้น..จะมีจมูกเป็นอวัยวะสำคัญที่สุด..แต่มีตาที่บอดสี..เพราะตาบอดสี หมาจึงแยกแยะไม่ได้ระหว่างใบตองแห้งสีน้ำตาลและใบตองสดสีเขียว
หมาจึงเห่ากันกรูเกรียวเพราะแยกแยะไม่ได้ จะพึ่งจมูกก็ไม่ใช่ธุระของจมูก
ว่ากันไปแล้วก็เหมือนกับ..สภาผู้แทนแห่งนี้..ผู้ชนะฟากรัฐบาลก็เหมือนใบตองเขียว มีพลังอำนาจสามารถโบกสะบัดส่งใบออกไปในทุกทิศทุกทาง ฟากผู้แพ้..ก็เหมือนพรรคฝ่ายค้าน ต้องลดก้านทิ้งใบไร้น้ำแห่งอำนาจหล่อเลี้ยง กลายเป็นใบตองแห้ง
ครั้นลมแห่งเหตุพัดใส่ ก็ส่งเสียงแกรกกรากไปตามประสา..
ไม่ว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน..รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดจะต้องปฏิบัติอย่างไหนและให้หนทางปฏิบัติไว้ชัดเจน แต่เพราะตาบอดสี..จึงแยกแยะไม่ได้..
จึงต้องเห่าหอนโวยวาย..กลายเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง
เห่าเพราะต้องเห่า เห่าแบบไม่หวังผล
แต่เขาลืมไปว่า..พลังแห่งเสียงเห่านั้น มันมีผล หากเป็นเวลากลางวัน มันก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คน..ในยามวิกาล มันก็ปลุกผู้คนให้แตกตื่น..และในที่สุด..หมาเองนั่นแหละที่จะถูกดุด่า ถูกขว้างปา
หมาเห่าใบตองแห้ง..จึงไม่มีประโยชน์ใดๆ และก็จะไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้..
ยิ่งในประเทศที่ประชาชน..มีความตื่นตัวสูง และเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ด้วยแล้ว..ยิ่งเปลืองแรงเห่า..
สู้กันไปตามกติกา..ประชาชนเบื่อรัฐบาล หนุนฝ่ายค้านกลับขึ้นมา จะแก้จะเปลี่ยนกันอย่างไร..นั่นคือกติกา..นั่นคือประชาธิปไตย
ฝ่ายค้านวันนี้ไม่ได้แพ้อะไรมากมาย พลังประชาชนซะอีกเป็นฝ่ายแพ้ มีคะแนนไม่ถึงกึ่ง ไม่ถึงเส้นแบ่งครึ่ง..แต่เพราะรัฐธรรมนูญ 50 นั่นแหละ..ประชาธิปัตย์ถึงต้องรัฐบาลไม่ได้..
ถ้าใช้รัฐธรรมนูญ 40 วันนี้..นายกรัฐมนตรี ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..
พญาไม้
////////////////////////
คอลัมน์: พญาไม้ทูเดย์...จากหนังสือพิมพ์ -บางกอกทูเดย์ วันที่ 8 เม.ย. 2551
จาก Hi-thaksin