กรณีของ เขาพระวิหาร ในที่สุดคณะกรรมการมรดกโลกขึ้นทะเบียนให้กับกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คงไม่เหนือความคาดหมาย โดยคณะกรรมการมรดกโลกได้ยึดคำสั่งศาลโลกและมติ ครม. เมื่อปี 2505 เป็นหลัก อันที่จริงแล้วการดิ้นรนที่จะขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารของกัมพูชา ทำท่าจะสำเร็จตั้งแต่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่แล้ว แต่ยังมีข้อคัดค้านบางประเด็นอยู่จึงเลื่อนมาพิจารณาในครั้งนี้
ฟังการให้สัมภาษณ์ของ คุณปองพล อดิเรกสาร ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เล่าถึงบรรยากาศให้ฟังว่ากัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ หรือจีน อย่างเหนียวแน่น และในส่วนของกัมพูชาเองก็เกาะติดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องใช้เวลาทำงานเป็นปีๆ มีการเคลื่อนไหวทุกวิธี อาทิ นำคณะกรรมการมรดกโลกไปดูเขาพระวิหารให้เห็นข้อเท็จจริงด้วยสายตาตัวเอง
เรียกว่าเราแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง
ผมเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ผมก็ต้องคิดหนัก ในขณะที่กัมพูชาเขาร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มที่ นายกฯฮุนเซ็นทำทุกวิถีทางที่จะเสนอจดทะเบียนเขาพระวิหาร จะทางตรงทางลัดไม่ปรึกษาสภา หรือ ครม.ด้วยซ้ำ แต่บ้านเราเอากันทุกเม็ด คุณนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กลับจากแคนาดาเที่ยวนี้ ไม่รู้จะอยู่อย่างปกติสุขหรือเปล่า เขาพระวิหารกลายเป็นชนวนความขัดแย้งของคนไทยด้วยกันเองไปฉิบ
ที่ผมติดใจก็คือ คุณปองพลให้สัมภาษณ์ว่า การยึดอำนาจที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารได้ สำเร็จ ในครั้งนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนในระบอบประชาธิปไตยในบ้านเราเอง เราต้องเสียโอกาสไปถึง 2 ปีเต็มๆ
มาจับเรื่องเขาพระวิหารอีกทีก็เป็นไฟลนก้นไปแล้ว เรื่องนี้ ความจริง ก็ต้องโทษรัฐบาล โทษกระทรวงการต่างประเทศ โทษคุณนพดล ด้วยส่วนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายก็น่าจะเอามาปรึกษาหารือ เอามาชี้แจงทำความเข้าใจกับคนไทยกันก่อน ไม่ใช่เก็บเงียบ
แต่ด้วยความประมาทหรือเพราะเกรงว่าเรื่องราวจะโกโซบิ๊ก จึงเก็บเรื่องไว้มิดชิด กลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงกันข้ามโจมตีว่าจะนำดินแดนไปแลกกับผลประโยชน์ ตกเป็นจำเลยข้อกล่าวหาขายชาติจนได้
เรื่องเขาพระวิหารก็คงจะจบที่ว่าขึ้นทะเบียนมรดกโลกเป็น
ของกัมพูชา เรื่องเขตแดนทับซ้อนก็ต้องไปว่ากัน เราก็คงจะ หาทางจัดการผลประโยชน์บางส่วนของเขาพระวิหารที่อยู่ในเขตไทยและยอมรับความจริง
ส่วนที่กลายเป็นชนวนการเมืองคงเป็นหนังเรื่องยาวและอาจจะถึงจุดเปลี่ยนการเมืองด้วยซ้ำ ก่อนที่เรื่องนี้จะบานไม่หุบผมอยากจะให้ข้อคิดว่าครั้งหนึ่งเรา ถูกฉีกรัฐธรรมนูญ ถูกยึดอำนาจ ครั้งนี้เราเสียโอกาสเรื่อง เขาพระวิหาร และไม่รู้วันข้างหน้าจะเสียอะไรอีก
ก็เพราะหนึ่งพรรคกับอีกหนึ่งพวก.
“หมัดเหล็ก”