หลังจากที่ได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจากกรณี ปราสาทเขาพระวิหาร
พิธีการ : มีคนมองเหมือนกันว่าท่านเองก็เป็นนักกฏหมายแท้ ๆ และจะว่าไปเป็นนักฏหมายมือ 1 ของประเทศก็ว่าได้แต่ทำไหม เรื่องของแถลงการร่วมเซ็นต์ ก็น่าจะทราบว่าเกี่ยวข้องกับเขตแดนอนุสัญญาดังนั้นน่าจะเข้าสภา..
นพดล : คือ.. นักกฏหมายก็ตีความอย่างที่เห็นประจำใช่ไหมคับ ศาลบ้างทีก็มีความเห็นข้างน้อยหรือความเห็นข้างมาก เรื่องเราต้องยึดถือของกรมสนธิสัญญาและกฏหมายซึ่งเข้ารวมเจรจาร่วมทำงานกันนะครับ ก็ถือว่าแถลงการร่วมคือเอาความเห็นของเราก่อนนะครับ แบบว่าไม่เป็นสนธิสัญญาและขณะเดียวกัน มันไม่มีผลกระทบกับเขตแดนกับที่เราไปเซ็นต์กับกัมพูชา เราเป็นการสงวนเขตแดนของเราไว้ ไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นดิน พื้นที่ทับซ้อนของเรา ก็คือไม่ได้ไปยกเขตแดนหรือมีผลกระทบกับเขตแดนนะครับ อันนี้ความเห็นของเรา
พิธีการ : ด้วยเหตุนี้เองฝ่ายค้านว่าการจงใจขัดกับมาตรา 190...
นพดล : อ่า.. คุณจอมคิดว่า เอ่อ..ผมจะทำไปเพื่ออะไร ผมได้เงินมาไหม ผมได้ผลประโยชน์อะไรมาไหม และขณะเดียวกัน ถ้ามันไม่ชอบมาพากลเนี่ย ถามว่าเพื่อนร่วมกระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีความรู้มีเกียรติเนี่ย เขาจะเอาเกียรติยศมาทิ้งเพื่อผมไหม เราต้องถามเพราะว่าเรียนตรงครับว่า โดยความบริสุทธิ์ใจและก็เจตนาของผมเนี่ย ไม่มีเจตนาที่จะผูกมิตรจิตสัมพันธ์ หรือสร้างนิติสัมพันธ์ เหมือนการพอประชุมเสร็จแล้วเราแก้ปัญหารวมกันเราก็มีแถลงการณ์ร่วมกันทางการเมือง รองนายกท่านก็ไม่มีเจตนาที่จะสร้างนิติสัมพันธ์ใด ๆ ครับ แค่นั้นเอง เพราะงั้น เหมือนเราอยู่บ้านด้วยกันนะ สมมติคุณจอมเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายเนี่ยอยู่บ้านด้วยกันไม่มีเจตนาที่จะแต่งงานกันแต่คนบอกว่าเราอยู่ด้วยกัน ก็น่าจะแต่งงานกัน ทั้งที่เราไม่มีเจตนาที่จะแต่งงานกัน เป็นต้น เพราะงั้นคนนอกมองอย่างไรมันอยู่ที่เจตนาของผู้กรณีด้วย
NBT
จาก thai-grassroots