WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, July 7, 2008

ฟื้นโทรทัศน์ PTVเริ่มออนแอร์วันนี้โต้สื่อทำลายชาติ

“พีทีวี” คัมแบ็ก เริ่มออนแอร์อีกครั้งวันนี้ ทีมผู้ก่อตั้งระบุทนไม่ได้ที่ปล่อยให้ขบวนการทำลายชาติเสนอข่าวปลุกปั่น สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองแต่เพียงด้านเดียว

โดยเฉพาะความพยายามเสนอการเมืองใหม่ที่มีเนื้อหาทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยชัดแจ้ง “สมัคร” เห็นด้วย ระบุ ASTV ด่ารัฐบาลอยู่ข้างเดียว จนต้องมีทีวีอีกช่องออกมาเสนอข้อมูลหักล้าง

สถานีโทรทัศน์พีทีวี หรือ People's Television โทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียม ที่ก่อตั้งโดยบริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด และนำทีมโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอุสมาน ลูกหยี และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ปิดตัวเองไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผานมานั้น ในสถานการณ์การเมืองที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และมีสื่อบางค่ายออกมาให้ข่าวเท็จ ป้ายสีรัฐบาลและสร้างความสับสนขึ้นในบ้านเมือง สถานีโทรทัศน์พีทีวีจึงได้ตกลงใจกลับมาออกอากาศอีกครั้งหนึ่ง โดยจะเริ่มมีรายการสู่สายตาผู้ชมในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ 4 ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวพีทีวี ภาคพิเศษ ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว โดยนายวีระ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังจะสถาปนาการเมืองขึ้นใหม่ จึงจำเป็นต้องมีสถานีโทรทัศน์ที่จะทำความเข้าใจกับประชาชน

โดยทางพีทีวีจะเช่าช่องสัญญาณของเอ็มวี 5 และจะจัดรายการทั้งช่วงเช้า บ่าย และค่ำ รวมวันละ 5 ชั่วโมง พร้อมกับยืนยันว่าการฟื้นพีทีวีขึ้นมาไม่มีเจตนาเพื่อต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า เพียงแต่ต้องการแสดงความคิดเห็นที่ถูกต้อง และให้มุมมองตรงข้ามกับฝ่ายพันธมิตรฯ โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ มีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก และการออกอากาศจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (7 ก.ค.) เวลา 07.30 น.

นายวีระ กล่าวว่า ในฐานะคนที่ทำพีทีวีและได้ปิดตัวลงเพราะเรื่องทุน แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองปัจจุบันทำให้ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เนื่องจากมีคนจำนวนหนึ่งประกาศทำเหมือนกับว่ายึดบ้านเมืองได้แล้ว โดยเสนอระบบใหม่ที่จะให้ ส.ส. มาจากการเลือกตั้ง 30% สรรหา 70% เสนอให้กองทัพไม่ต้องอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้กองทัพมีความพร้อมในการบริหารประเทศได้ตลอดเวลาหากรัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่มีคุณธรรม ซึ่งคำคำนี้ไม่รู้ว่าจำกัดความว่าอย่างไร

*ยอมไม่ได้ให้คนหยิบมือยึดชาติ
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ทำให้พวกตนทนไม่ได้ จึงออกมาเช่าเวลาออกอากาศทางช่อง MV5 โดยเช่าเวลา 5 ชม./วัน ซึ่งพวกตนเป็นเพียงผู้จัดรายการเท่านั้น และจะแบ่งการจัดรายการเป็นการเสนอข่าวและเสนอความเห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดสงครามประชาชน หรือมวลชนปะทะมวลชน แต่เป็นการปะทะทางความคิดและวาจา ขอรับรองไม่มีการปะทะทางร่างกายและกำลัง แต่จะต่อสู้ทางสติปัญญาเท่านั้น

นายวีระ กล่าวว่า จำเป็นต้องออกมาปกป้องระบอบประชาธิปไตย ระบอบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง หากปล่อยให้ ส.ส. 70 เปอร์เซ็นต์มาจากการสรรหา พวกเส้นสายพันธมิตรฯ และพวกอำมาตยาธิปไตยจะเข้ามา เป็นยุคอำมาตยาธิปไตย หรือราชาธิปไตย ซึ่งตนยอมไม่ได้เด็ดขาด จะทำเป็นนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นไม่ได้ รวมทั้งเวลานี้รุกรานไปกันใหญ่ รัฐมนตรีจะลงไปตรวจราชการก็ไม่ได้ ดาราก็มีปัญหา ซึ่งคงไม่ยอมให้คนแค่หยิบมือเดียวมายึดบ้านเมือง

*ห่วง “การเมืองใหม่”ทำลายปชต.
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า การฟื้นพีทีวีเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากเห็นว่าการประกาศการเมืองใหม่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะทำลายการเมืองในระบอบประชาธิปไตย

"พวกผมเองมีความอดทนต่ำกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะว่าถ้าเป็นพวกผม 4 คนถูกกระทำใส่ร้ายเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ป่านนี้คงเปิดปราศรัยใหญ่ที่สนามหลวง พูดความจริงกับพี่น้องประชาชนว่าช่วง 2 ปีกว่าๆ ถูกกระทำย่ำยีเกียรติยศ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างไรบ้าง แต่ท่านเป็นผู้ใหญ่ มีความอดทน แต่พวกผมไม่อดทน นอนรอวันตายเพื่อให้พันธมิตรฯ มากระทำย่ำยีระบอบประชาธิปไตย" นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า การประกาศปิดสถานีพีทีวีครั้งที่แล้ว เนื่องจากบ้านเมืองมีประชาธิปไตย ส่วนตัวจะไปจัดรายการให้ฟรี เพราะตามกฎหมายไม่สามารถไปเป็นหุ้นส่วนใดๆ ในสถานีได้ แต่ว่าพวกตนก็ได้คุยกัน เพื่อจะต่อสู้กับเอเอสทีวี จะปล่อยให้พันธมิตรฯ มาบิดเบือนข้อมูลด้านเดียวต่อประชาชนไม่ได้อีกแล้ว

* เสนอข้อมูลแบบเหรียญ 2 ด้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งพีทีวีจะเป็นการเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ได้เผชิญหน้า เพียงแต่เราต้องการให้ประชาชนได้รับข้อมูลอีกด้าน เป็นการมองเหรียญทั้งสองด้าน เพราะหากดูเอเอสทีวีจะเห็นว่ามีการใส่ร้ายผู้คนด้านเดียว สร้างความเชื่อในทางที่ผิด บิดเบือนประชาธิปไตย ซึ่งพวกตนก็มีข้อมูลอีกด้านหนึ่งเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ ส่วนรูปแบบวันข้างหน้าจะพัฒนาตั้งเวทีหรือไม่นั้น ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แต่จะไม่อดทนต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะทำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบหนึ่งระบอบใดที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย

“แกนนำ 4 คนมีจุดยืนทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น เรามีภารกิจเฉพาะคือการรักษาประชาธิปไตย และการไปทำหน้าที่นั้นๆ จะไม่เสียต่อการทำหน้าที่ ส.ส. หรือหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลในรัฐบาล แต่เป็นการทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตย เพราะเรามองว่าหากปล่อยให้สร้างความเข้าใจผิดเช่นนี้ทุกวัน ท้ายที่สุดเมื่อลุกขึ้นมาแก้ไขก็สายเกินแก้ แต่ทั้งหมดเดิมพันกันด้วยชีวิตว่าจะไม่ยอมให้กลุ่มพันธมิตรฯ มาเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย”

นายจตุพร กล่าวว่า พีทีวีจะไปออกอากาศทางช่อง MV5 ทางสถานีผ่านดาวเทียมเครือข่ายไทยคม โดยสาเหตุที่ไม่ใช้ทีวีของรัฐ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดข้อครหาใดๆ การตั้งสถานีพีทีวีเป็นการหารือและใช้เอกสิทธิ์ส่วนตัวของพวกตนทั้ง 4 คน คาดว่าจะหารือกับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในภายหลัง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานายสมัครเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนทุนนั้นมาจากประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางของพวกตน ซึ่งรูปแบบการออกอากาศจะทำเหมือนเอเอสทีวีทุกอย่าง โดยสาเหตุที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวเพราะพันธมิตรฯ ออกมาประกาศเรื่องการเมืองใหม่ ทำให้พวกตนหมดความอดทน

*ไม่ให้อันธพาลยึดบ้านเมือง
ด้าน นายจักรภพ กล่าวว่า พวกตนไม่ยอมให้พันธมิตรฯ ยึดบ้านเมือง โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงด่าทอรัฐบาล ทำแบบนักเลงอันธพาล ซึ่งทำให้บ้านเมืองบอบช้ำ ไม่เคารพกฎหมาย รังแต่จะทำให้บ้านเมืองไปสู่ความมืดมน ที่ผ่านมาที่ชะลอการออกอากาศเพราะเหตุทางธุรกิจ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลก็อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯ กลับขัดขวางการทำงาน ยกขบวนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แม้รัฐบาลจะทำงานต่อไปได้แต่ในเชิงสัญลักษณ์มันอับอายไปทั่วโลก

นายจักรภพ กล่าวว่า การเปิดพีทีวีภาคพิเศษไม่ใช่การทำสงคราม แต่เป็นการเปิดเวทีทางความคิด โดยไม่ยอมให้ใครนำข้อมูลด้านเดียวมาให้ประชาชน ซึ่งพีทีวีจะให้ข้อมูลที่สวนทาง ไม่เว้นสักเรื่องเดียว และจะทำให้รู้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของพันธมิตรฯ แต่ละคนเป็นอย่างไร เพราะบทบาทที่ผ่านมาทำอย่างกับบ้านเมืองเป็นของคนเพียง 5 คนหรืออย่างไร

นายจักรภพ กล่าวต่อว่า ใครที่คิดว่าบ้านเมืองนี้ประชาชนไม่มีความหมาย จะชักจูงบังคับใจอย่างไรก็ได้นั้น อย่าลืมว่าบ้านเมืองนี้เป็นของคน 63 ล้านคน รายการนี้จะแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ยอมให้นักเลงโตมายึดบ้านเมือง ประหนึ่งว่าพันธมิตรฯ จะก่อรัฐประหารบ้านเมืองนี้อย่างไรก็ได้

* นายกฯ หนุนหักล้างข้อมูลด้านลบ
ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อเช้าวันที่ 6 กรกฎาคมว่า มีทีวีช่องหนึ่งได้ถ่ายทอดสดการด่ารัฐบาลด้วยคำหยาบคายและด่าข้างเดียว พอเตือนว่าทำผิดก็หาว่ารัฐบาลจะสั่งปิด แล้วก็ด่ารัฐบาลต่อ เพราะศาลปกครองให้การคุ้มครอง แต่พอจะมีโทรทัศน์อีกช่องหนึ่ง คือ พีทีวี มาเสนอข้อมูลอีกด้าน ฝ่ายค้านก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหาว่าเป็นการตอบโต้กัน ทำให้เหตุการณ์ย้อนกลับไปปี 2549 กลายเป็นว่าฝ่ายหนึ่งด่าข้างเดียวไม่เป็นไร แต่พออีกฝ่ายจะหักล้าง กลับบอกว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์เลือดตกยางออก

“พีทีวีกำลังจะออกอากาศใหม่ เขาจะออกทีวีอีกช่องหนึ่ง นายเทพไท เสนพงศ์ แสดงความเห็นเลย บอกว่าจะกลายเป็นเรื่องตอบโต้กัน จะเป็นเรื่องทำให้เกิดบรรยากาศ ความเสียหายจะกลับไปสู่ 2549 ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลด้านเดียว แต่ช่องพีทีวีเขาต้องการจะหักล้างข้อมูลว่าคุณมานั่งด่าอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าคนทั่วประเทศได้รับฟังก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

สำหรับรายการที่จะออกอากาศ จะเริ่มในวันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 07.30-09.30 น. เป็นรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่มีพิธีกรทั้ง 4 คนร่วมจัดรายการ 11.00-12.00 น. รายการมหาประชาชน เวลา 18.30-20.30 น. เป็นรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ กำลังหารือกันอยู่ว่าจะมีการจัดรายการดีหรือไม่ นอกจากนี้ พีทีวีไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ภาพและเสียง และเปิดให้เคเบิลท้องถิ่นสามารถเชื่อมสัญญาณไปออกอากาศทั้งในและต่างประเทศได้ รวมทั้งจะถ่ายทอดสดรายการผ่าน
www.mvtv.co.th และวิทยุชุมชน 99.25 MHz

*กลับมาอีกครั้งหลังหายไปกว่า 3 ด.
อนึ่ง ในช่วงแรกของการก่อตั้งพีทีวีได้ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าว่า จะเริ่มต้นออกอากาศในวันพุธที่ 1 มีนาคม 2550 แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าว กลับไม่สามารถออกอากาศได้ เนื่องจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่เชื่อมต่อโครงข่ายให้

จากนั้นในวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2550 ได้ดำเนินการออกอากาศรายการบางส่วน ทางสถานีโทรทัศน์เอ็มวีทีวี ช่อง 1 (Star Channel) แต่ก็ถูกระงับการออกอากาศอีก จนกระทั่ง 23 มีนาคม

2550 พีทีวีจึงเปิดแถลงข่าวว่าจะไปปราศรัยที่ท้องสนามหลวง ซึ่งในช่วงนั้นพีทีวีได้ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการต่อต้านเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบ ก่อให้เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย จนกระทั่งได้มีการยุติการออกอากาศไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลเรื่องเงินทุน