WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 10, 2008

ซีดีมัดรองหน.ปชป.ส่อถึงขั้นยุบพรรค

* หลักฐานชัดแจกตั๋วหนังพร้อมเปิดปราศรัย
แฉหลักฐานสำคัญ วีซีดีมัดรองหัวหน้าพรรค ปชป. “วิฑูรย์ นามบุตร” แจกคูปองให้หัวคะแนนไปแจกจ่ายชาวบ้าน เอามาแลกเป็นตั๋วหนัง ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. เรียงหน้าเปิดปราศรัย “หน้าจอ” ก่อนหนังฉาย แฉเรื่องถึงมือ กกต. กลางนานแล้วแต่กลับเงียบกริบ ส่อจงใจดองเรื่องช่วยเหลือพรรคการเมืองบางพรรค จี้ กกต. อย่าเลือกปฏิบัติ ทั้งที่พรรคการเมืองอื่นโดนใบแดงถ้วนหน้า แต่ประชาธิปัตย์มีหลักฐานชัดกลับเงียบหาย เชื่อถ้า กกต. จริงใจสอบสวนเหมือนกรณีอื่นๆ คงเสร็จเรียบร้อยไปนานก่อนคดี “ยงยุทธ” เพราะหลักฐานชัดเจนกว่ากันเยอะ ไม่ต้องเป็น กกต. ก็ยังรู้ว่าทำผิด

* ซัด กกต.ดองสำนวนส่อช่วยเหลือ ปชป.
ท่ามกลางกระแสข่าวการให้ใบแดงกับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน และล่าสุดกรณีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ศาลฎีกาพิจารณายืนตามความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการให้ใบแดง และเรื่องราวของทุกพรรคดังกล่าวจะนำไปสู่การยุบพรรคในที่สุดนั้น

กลับปรากฏว่าเหตุการณ์ทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นกับ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งปรากฏหลักฐานตามคำร้องเรียนว่ามีการแจกตั๋วหนังต่อเนื่องหลายรอบ หลายวันในช่วงก่อนการเลือกตั้ง และมีการเข้าไปหาเสียงในโรงหนัง กลับไม่มีความคืบหน้า และ กกต. กลับเก็บเรื่องดังกล่าวเงียบเชียบ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อกังวลสงสัยของสังคมโดยทั่วไป ว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลอย่างใดหรือไม่
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคพลังประชาชน และรองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.อุบลราชธานี โดย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้แจกคูปองให้หัวคะแนนเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนนำไปแลกเป็นบัตรชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์เนวาด้า มัลติเพล็กซ์ ติดต่อกันหลายวัน

โดยก่อนที่จะฉายภาพยนตร์ ผู้สมัคร 3 คน คือ นายวุฒิพงษ์ นามบุตร นายศุภชัย ศรีหล้า รวมทั้ง นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. ระบบสัดส่วน จะสลับกันขึ้นปราศรัยหาเสียง พฤติการณ์เช่นนี้กฎหมายเลือกตั้งได้ห้ามไว้ มิให้มีการปราศรัยโดยการแสดงมหรสพ การฉายภาพยนตร์ถือเป็นมหรสพอย่างหนึ่ง ดังนั้นผู้ที่ขึ้นปราศรัยก็เท่ากับทำผิดกฎหมายโดยตรง

“การให้คูปองกับหัวคะแนนเพื่อนำไปแลกเป็นตั๋วหนัง เป็นการให้ประโยชน์ที่ถือเป็นเงิน และมีลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน มีหลักฐานชัดเจน เพราะมีชาวบ้านถ่ายวิดีโอไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ถือเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจน”

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง นายสมบัติ รัตโน ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ไปร้องต่อคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตการเลือกตั้ง (กกต.) จ.อุบลราชธานี แจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 4 คน คือ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และ ส.ส.สัดส่วน นายวุฒิพงษ์ นามบุตร นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี เขต 11 และนายวิทวัส พันธ์นิกุล กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยแจกบัตรชมภาพยนตร์โรงภาพยนตร์เนวาด้า มัลติเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550

กกต.จังหวัดได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงและส่งสำนวนให้ กกต. กลางพิจารณานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ กรณีเช่นนี้ตรงกับมาตรฐานที่ทำกันมาของ กกต. ชัดเจนและต้องให้ใบแดงอย่างเดียว

จึงอยากจะตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด กกต.กลางจึงดองเรื่องดังกล่าวไว้ ไม่นำสำนวนมาพิจารณาให้เสร็จสิ้น หรือมัวแต่เร่งทำคดีเพื่อช่วยพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น ซึ่งมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งพยานบุคคลและวิดีโอ อยากจะเรียกร้องให้ กกต. เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า กรณีนี้เมื่อเทียบกับกรณีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีของนายยงยุทธนั้นเป็นการจัดฉาก แผนซ้อนแผน แต่เรื่องของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ หลักฐานมีชัดเจนเห็นๆ ไม่ต้องเป็น กกต. หากนำกฎหมายเลือกตั้งมากางดูก็ต้องบอกว่าผิด

ทางด้าน นายสุทธิชัย จรูญเนตร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 2 พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า กรณีนี้มีหลักฐานชัดเจนมาก มีทั้งวีซีดี ประกอบกับมีพยานบุคคล และเห็นอย่างชัดเจนว่ามีการปราศรัยในโรงภาพยนตร์ ซึ่งก็ไม่ต่างกับกรณี ส.ส.เพื่อแผ่นดินท่านหนึ่ง ที่จัดมหรสพ เพื่อใช้ปราศรัย เพราะนายวิฑูรย์ก็จัดปราศรัยในโรงมหรสพเช่นกัน

ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ เข้าชี้แจงต่อ กกต. จังหวัดไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะบางแหล่งข่าวแจ้งมาว่านายวิฑูรย์ จะรอด ตอนนี้ต้องการให้ผู้ที่ร้อง กกต. ไปทวงถามกับ กกต. กลางอีกครั้งว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างที่เห็นว่ามีหลักฐานแน่นหนาแต่กลับไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะเท่าที่ทราบมีการแจกเงินกันในโรงภาพยนตร์ด้วย

เมื่อถามว่าภายในพรรคมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสุทธิชัย กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างจริงจัง แต่มีการคุยกันในเฉพาะกลุ่ม ซึ่งในความเห็นส่วนตัวแล้ว ต้องการให้พรรคมีการประชุมหารือกันว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร พูดคุยกันให้เป็นมติของพรรคไปเลย ผู้ใหญ่ของพรรคควรจะต้องเข้ามาดูแลเพื่อเรียกร้องให้ กกต. แสดงความเป็นธรรม และสร้างบรรทัดฐานที่ชัดเจน ถูกต้อง

“ถ้าประชาธิปัตย์ถูกสอบสวนจริงจังเหมือนพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน ก็จะถือว่าทุกพรรคมีจุดยืนเท่ากัน ทั้งๆ ที่เรื่องนี้น่าจะมีการพิจารณาตัดสินเสร็จสิ้นก่อนกรณีคุณยงยุทธด้วยซ้ำ อีกอย่าง นายวิฑูรย์ก็มีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” นายสุทธิชัย กล่าว

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีพฤติกรรมชวนให้สงสัยว่า อาจจะช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชาชน พรรคมัชฌิมาธิปไตย หรือพรรคชาติไทย ก็มีการให้ใบแดงกรรมการบริหารพรรค และต้องลุ้นยุบพรรคกันถ้วนหน้า ขณะที่กรณีของรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีลักษณะเดียวกัน มีพยานหลักฐานชัดเจน ไม่ต้องมีการตีความอะไร กลับไม่มีการดำเนินการ หรือแม้แต่กรณีของ นางลีนา จังจรรจา ที่เคยถูกตัดสิทธิ เมื่อคราวลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็เพราะมีขบวนแห่ ที่ กกต. ตีความว่าเป็นการจัดมหรสพเช่นกัน