WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 10, 2008

นักวิชาการ วุฒิสมาชิก พันธมิตรเจตนาที่สอดประสาน “ล้มรัฐบาล”

คอลัมน์: ตะแกรงข่าว

ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมายเลย กับการที่ ส.ว. กลุ่มหนึ่ง งัดมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา มาหวังเล่นงานคณะรัฐมนตรีทั้งชุด จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติ 8 ต่อ 1 กรณีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ในการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหาร

ศาลตัดสินว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เป็นหนังสือสนธิสัญญา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน

ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหาย ต้องมีเจตนาทุจริต จึงจะเข้าองค์ประกอบ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายของรัฐบาล ยืนยันว่าที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีความระมัดระวังอยู่แล้ว ได้ขอความเห็นไปยังกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ โดยได้รับคำตอบว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รวมทั้งทางกฤษฎีกาก็ยืนยันมาตลอดว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ไม่เข้ามาตรา 190

เพราะกฎหมายใช้คำว่า ส่อว่าจงใจ หากพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น ก็ไม่น่ามีปัญหา

สำหรับกลุ่ม ส.ว. ที่ออกมาเล่นงานรัฐบาล เมื่อไล่เลียงรายชื่อและดูหน้าดูตาแล้ว จะเห็นว่าคนเหล่านี้เคยป้วนเปี้ยนใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ตั้งหน้าตั้งตาขับไล่รัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น คำนูณ สิทธิสมาน รสนา โตสิตระกูล ประสาร มฤคพิทักษ์

ถ้าย้อนกลับไปดูแนวทางการทำงานของคนเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดว่า ยืนอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลมาอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง เรื่องที่จะมาให้กำลังใจในการทำงาน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่พบกันอยู่ในตอนนี้ อย่าได้ฝันไปเลย

อย่างที่กล่าวมา เป็นที่คาดหมายกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า การเข้ามาสู่สภาอันทรงเกียรตินี้ จะมีอะไรเกิดตามมาแน่
คนกลุ่มนี้ออกมาพูดว่า ไทยเสียอธิปไตยในพื้นที่บัฟเฟอร์โซน หรือพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,000 ไร่

พร้อมกับมีเสียงสอดประสานมาจากนักวิชาการอย่าง ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์อิสระ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายประกาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัย สถาบันไทยคดีศึกษา

เห็นว่าไทยได้เสียอธิปไตย

และจะรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นกับประชาชนและทหาร เพื่อคัดค้านเรื่องนี้ จะดำเนินการด้านกฎหมายกับคณะรัฐมนตรีทั้งชุด

เป้าหมายเหมือนกันเป๊ะ

มีคำถามว่า ความเสียหายที่พูดกันนั้นมีอะไร ในเมื่อกัมพูชาเขาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารของเขา ส่วนเรื่องดินแดนก็ไม่มีอะไรเสียหาย

การขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ของ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ สามี คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีต ส.ส. และรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกมองว่าเป็นทหารในกลุ่มนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ที่ออกมาตอกย้ำว่าไทยเสียอธิปไตย และที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลทั้งชุดหรือเปล่า

ขณะที่ทาง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาหยกๆ ว่า ทำให้ไทยเสียดินแดน จึงหันมาเล่นงานนายนพดล โดยจะเข้าชื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง

แต่ยังไว้เชิง ยังไม่แตะคณะรัฐมนตรี อ้างว่าขอดูรายละเอียดมติ ครม. วันที่ 17 และ 24 มิถุนายนก่อน

เรื่องที่พูดถึงกันนี้ มีการยืนยันจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดย นายถวิล เปลี่ยนศรี รองเลขาธิการ สมช. ว่า ได้เอาความต้องการและข้อห่วงใยต่างๆ ของประชาชนมากำหนดท่าที มีการหารือกันอย่างรอบคอบ เพื่อพิจารณาถึงทางเลือกต่างๆ ทุกทางที่จะรักษาผลประโยชน์ของไทยไว้ให้ได้ พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้และควรจะต้องทำแล้ว แต่การดำเนินการของไทยมีข้อจำกัด และมีทางเลือกที่ไม่มากนัก

ปัจจัยหลายอย่างไม่ได้อยู่ในความควบคุมของฝ่ายไทย เป็นเรื่องดุลพินิจของคณะกรรมการมรดกโลก โดยได้พยายามลดความเสียหาย และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในเรื่องนี้ไว้อย่างเต็มที่แล้วเหมือนกัน

เมื่อเอาแนวคิด วิธีการเดินเกมของ กลุ่ม ส.ว. กลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองเก่าแก่ จะเห็นว่ามีเป้าหมายอย่างเดียวกัน จะต่างกันก็แค่วิธีการในการแสดงออก ว่าเป็น “ผู้มีเกียรติ” หรือ “แก๊งข้างถนน” เท่านั้นเอง

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยคือ ทั้งหมดนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญ โดยให้อำนาจฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนทำให้รัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้

การเรียกร้องต้องการให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบนั้น ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

และที่มองข้ามไปไม่ได้คือ ความพยายามผลักดันแนวคิดการเมืองใหม่ ตุลาการภิวัตน์ การยุยงปลุกปั่นให้คนไทยเกลียดชังประเทศเพื่อนบ้าน การถือโอกาสผลักดันให้ไทยละเมิดกติกาโลก หรือทำอะไรที่นำไปสู่ความรุนแรง เป็นเรื่องที่คนไทยไม่ว่าชนชั้นใด อาชีพใด ไม่ควรทำ

อย่าให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาในฐานะประเทศเพื่อนบ้านต้องมีปัญหา เพราะความจริงแล้ว กัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากประเทศประชาธิปไตย ที่ไม่ต้องการเห็นการปฏิวัติรัฐประหาร การยึดอำนาจ

อย่างที่เกิดกับประเทศไทย

อัฐศิริ