WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, July 11, 2008

นักก.ม.บี้กกต.แจง ดองคดีช่วยปชป.

* จี้คลายข้อสงสัย-อย่าทำตัวเป็นองค์กรลับ
นักกฎหมายเรียงหน้าจี้ กกต. แจงต่อสังคมให้ชัด พร้อมเปิดหลักฐานเอกสารทุกอย่าง กรณีรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “วิฑูรย์ นามบุตร” พร้อมผู้สมัคร ส.ส.อุบลฯ ของพรรค ทุจริตเลือกตั้ง แจกตั๋วหนัง เปิดเวทีหาเสียง “หน้าจอ” แต่เรื่องกลับเงียบหายไม่มีการสอบสวนต่อ ขณะที่พรรคกาครเมืองร่วมรัฐบาลโดนสอยกันถ้วนหน้า ระบุต้องชี้แจงให้หายสงสัย อย่าทำตัวเป็นองค์กรลับ เพราะจะทำให้ยิ่งน่าเชื่อว่าเป็นหนึ่งในขบวนการจองเวรกลุ่มอำนาจเก่าและจ้องทำลายรัฐบาล ส.ส.พปช. ระบุทวงถามหลายครั้งแต่ก็ยังไม่คืบหน้า แนะประชาชนออกมาช่วยกันตรวจสอบ กกต.

จากกรณีปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแจกคูปองเพื่อแลกบัตรชมภาพยนตร์ในโรงหนังเนวาด้า มัลติเพล็กซ์ พร้อมกับมีการเปิดปราศรัยหาเสียงในโรงหนังมีหลักฐานเป็นวีซีดี และมีพยานบุคคล โดยเรื่องดังกล่าวถูกส่งไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นานแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบหาย ทั้งที่พรรคพลังประชาชน และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลหลายพรรคกลับโดนพิจารณาใบแดงและเข้าข่ายถูกยุบพรรคกันถ้วนหน้า จนเป็นที่ครหาว่า มีความพยายามช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับขบวนการจ้องล้มล้างรัฐบาลนั้น

กกต.ไม่จริงใจสอบ “วิฑูรย์”
นายสมบัติ รัตโน ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชาชน ได้แสดงความเหนื่อยหน่ายที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าวเนื่องมาจากได้ติดตามเรื่องมาแล้วหลายครั้ง โดยกล่าวว่าขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ กกต.อุบลราชธานี ซึ่งก็ต้องรอว่ามติจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับ กกต. ว่ามีบรรทัดฐานในการสอบสวนอย่างไร แม้ในขณะนี้ กกต.กลางจะรับเรื่องไปแล้วก็ตาม

ต่อข้อวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมที่มองว่า กกต. กำลังอุ้มพรรคประชาธิปัตย์ให้หลุดพ้นทุจริตการเลือกตั้งต่างๆ นายสมบัติ กล่าวว่าอาจจะไม่ใช่การอุ้มอย่างเห็นได้ชัด แต่จะสอบให้พรรคประชาธิปัตย์หลุดรอดไป อย่างประธาน กกต. อุบลราชธานี มีลักษณะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เรียกเข้าไปชี้แจงก็ให้แจงรายละเอียดแบบผ่านๆ เท่านั้น ทั้งนี้ ต้องการวอน กกต. ว่าให้มีความจริงจังในการสอบข้อเท็จจริงด้วย

เล่นกันทั้งนอกสภา-ในสภา
“ภาพออกมาอย่างนั้น เหมือนเป็นการรวมกันทั้งนอกและในสภา ที่จ้องจะทำยังไงก็ได้ให้รัฐบาลล้ม ข้างในก็ประชาธิปัตย์ ข้างนอกก็พันธมิตรฯ แต่ผมไม่อยากพูดอะไรมาก ยังไม่อยากกล่าวหา แต่ว่ากันไปตามที่เห็น”

อย่างไรก็ตาม นายสมบัติ ยังกล่าวฝากไปถึง กกต. วอนขอให้ กกต. ใช้มาตรฐานเดียวกันในการตรวจสอบทุกพรรค อย่าง จ.อุบลราชธานี ก็ขอให้เอาจริงเอาจังมากกว่านี้ และเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมาได้มีการนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือกับที่พรรคพลังประชาชนว่าจะมีการดำเนินการต่อเรื่องดังกล่าวอย่างไร ในเบื้องต้นจะหารือกันว่าสมควรจะนำหลักฐานไปเปิดเผยต่อสื่อมวลชนหรือไม่

จี้ กกต.ออกมาแถลงให้ชัดเจน
นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และนักวิชาการอิสระ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมบัติ รัตโน ผู้สมัครพรรคพลังประชาชนนำเอกสารหลักฐานที่เป็นวีซีดีกรณีที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุบลราชธานี พร้อมมีการแจกตั๋วหนัง ส่งไปยัง กกต. ก่อนที่เรื่องของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ จะไปถึงว่า เรื่องดังกล่าวนี้อาจมีด้วยกัน 4 ประเด็น คือ

1.เรื่องที่ยื่นไปยัง กกต. นั้นมีหลักฐานชัดเจนเมื่อไร หากชัดเจนก่อนที่เรื่องของนายยงยุทธไปถึง ก็ต้องตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด กกต. ไม่นำมาพิจารณา ดังนั้นจึงอยากให้ กกต. ออกมาแถลงข้อมูลให้ชัดเจน

2.หากมีปัญหาว่าพรรคใดที่แข่งขันกัน เมื่อมีกรณีวินิจฉัยออกมา กกต. ต้องแสดงออกซึ่งความเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ ต้องมีการชี้แจงด้วยว่า เหตุใดถึงไม่พิจารณา คดีดังกล่าว 3.ถ้าพรรคการเมืองในสนามเลือกตั้งมีการแข่งขันกัน เมื่อกรรมการบริหารพรรคมีการซื้อสิทธิขายเสียง หากยึดตามรัฐธรรมนูญว่าให้มีการยุบพรรค มันร้ายแรงเกินไป และส่งผลกระทบให้พรรคต้องโดนยุบ อีกทั้ง กกต. ต้องแถลงเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดพรรคที่เป็นปฏิปักษ์ถึงมีคนร้องเรียนเยอะ

อย่าทำตัวเป็นองค์กรลับ
4.ดังนั้น กกต. บอกได้ไหมว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการทุจริต ต้องแถลงด้วย ไม่ใช่ดองเรื่องไว้ และมันไม่ใช่เรื่องแปลกการที่คนจะสงสัยว่าเหตุใด ส.ส.พรรคทั้ง 168 คน ไม่โดนคดีสักคน แต่พรรคเล็กพรรคน้อยอย่างพรรคประชาราช พรรคมัชฌิมาธิปไตยยังโดนกันระนาว จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าพรรคใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ไม่โดนสักคน

อดีต สสร. กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นสื่อหรือองค์กรที่ตรวจสอบต้องยื่นคำร้องไปที่ กกต. แถลงว่าคนได้ใบแดงเป็นเพราะสาเหตุใด และที่ไม่ได้เป็นเพราะสาเหตุใด อีกทั้ง กกต. ต้องบอกด้วยว่า คดีของนายวิฑูรย์มีการสรุปไปแล้วหรือยัง เหตุใดจึงไม่มีการเปิดเผย

ซึ่งเรื่องทั้งหมดเกิดมาจากว่า กกต. ทำตัวเหมือนเป็นองค์กรลับ ไม่มีการเปิดเผยสักเรื่อง จึงเป็นไปได้ว่า กกต. เลือกปฏิบัติ จะดำเนินการไปโดยบริสุทธิ์ได้อย่างไรหากมีเรื่องอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง

ย้อนกลับไปดู กกต. มาจากไหน
เมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้ต้องถาม กกต. ว่ามาจากไหน เพราะหลังปฏิวัติก็มีการยกเลิก กกต. ที่มาจากรัฐธรรมนูญไป ซึ่ง กกต. ชุดนี้มาจากการปฏิรูปการปกครองที่มีหน้าที่จัดการและดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มอำนาจเก่า

หากมีข้อสงสัยตามที่ตนกล่าวมา 4 ข้อนั้น กกต. ก็ต้องถูกมองว่ามาจากคณะปฏิรูปการปกครองหรือเปล่า และตราบใดที่ กกต. ยังไม่สร้างความกระจ่าง จะต้องมีคนตั้งข้อสงสัยอย่างนี้ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะที่ตัดสินคดีมาแต่ละกรณีเป็นไปโดยสุจริตหรือเปล่า อีกทั้งตนอยากให้เปิดเอกสารหลักฐานหมดทุกอย่าง ว่าขั้นตอนสืบสวนไปถึงไหน ไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกมองว่าทำไมเรื่องบางเรื่องจึงรีบดำเนินการ แต่บางเรื่องกลับล่าช้า ทั้งนี้ตนยังสังเกตอีกว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ทำการอุ้ม กกต. ชุดนี้ตามมาตรา 309 อยู่

กกต.อย่าจ้องทำลายรัฐบาล
ด้าน ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) รุ่น 2 กล่าวว่า จากที่หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องของ กกต. ไว้ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหลายอย่างกับประธาน คมช. โดยเฉพาะตัวประธาน กกต. เองที่มีการเชื่อมสัมพันธ์อันดีด้วยนั้น น่าจะทำให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจาก กกต. นั้นไม่มีความเป็นกลาง เลือกปฏิบัติ จ้องแต่จะทำลายพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด เอาแต่ให้ความช่วยเหลือกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยยื้อเวลาออกไปเพื่อให้การดำเนินการกับพรรคร่วมทั้งหลายให้เสร็จสิ้น เพื่อเบนความสนใจออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะเห็นได้ชัดจากกรณีเงิน 1 ล้าน 3 แสนบาท ที่ จ.เพชรบูรณ์ ที่ให้คำตัดสินเพียงแค่ใบเหลืองทั้งควรที่จะได้ถึงขั้นใบแดง

เรียกร้อง ปชช. ช่วยกันจี้ กกต.
ขณะนี้ กกต. ควรที่จะเห็นแก่หน้าที่ได้รับมอบหมายมาให้ตรวจสอบการเลือกตั้ง ซึ่งตนอยากที่จะเรียกร้องให้เห็นแก่ประชาชนมากกว่าพวกเผด็จการ ควรเร่งสอบสวนให้ความกระจ่างในกรณีดังกล่าวเร็วที่สุดเพื่อสงสัยให้ชัดเจนและนำเสนอต่อสังคม

ดร.เมธาพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ชนวนเหตุอีกอย่างหนึ่งก็คือสื่อที่ไม่เป็นกลางคอยแต่จะนำเสนอข่าวเพื่อโจมตีใส่สีให้มีแต่ความมัวหมอง สื่อมวลชนควรที่จะตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่ต้องนำเสนอข้อมูลให้เป็นกลางไม่ควรทำตัวเป็นเครื่องมือ และตนอยากที่จะเรียกร้องให้ประชาชนควรออกมาร่วมกันจี้ให้ กกต. ทำงานเต็มที่เสียที เพราะคงหวังพึ่งสื่ออย่างเดียวไม่ได้แล้ว

ชี้ กกต. ต้องเร่งหาข้อเท็จจริง
ทางด้าน นายคารม พลทะกลาง ทนายความชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน กล่าวว่า ตามกฎหมายการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นระบบ ส.ส. หรือ ส.ว. ถ้าในเขตการเลือกตั้งมีความเป็นได้ว่าการเลือกตั้งไม่เป็นความสุจริต เมื่อทาง กกต. ได้รับเรื่องแล้วก็ต้องติดตามและตรวจสอบหาข้อเท็จจริง จะต้องมีการปฏิบัติเหมือนกันทุกพรรคการเมืองเมื่อได้รับการร้องเรียน หรือถ้ามีคนกล่าวหาว่าการเลือกตั้งในครั้งนั้นไม่เป็นไปตามสุจริต ก็อาจจะเข้าข่ายได้ว่า การกระทำในการเลือกตั้งครั้งนั้นไม่มีความชอบธรรมหรือเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ ส่วนหลักฐานที่จะนำมายื่นเพื่อเป็นข้อมูลนำไปฟ้องร้องนั้น หลักฐานทุกชิ้นที่มีเจตนาว่าเข้าข่ายในการเลือกบุคคลหรือพรรคการเมืองใดก็สามารถนำมาประกอบเป็นข้อมูลเพื่อเอาผิดทางกฎหมายได้

ซัด กกต. ลำเอียงเห็นชัดเจน
ส่วน นายวันชัย จงจรูญหิรัญ หัวหน้ากลุ่มติดตามการปฏิรูปการเมืองและต่อต้านการคอร์รัปชั่น ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นที่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่า รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตการเลือกตั้งว่า ในกรณีดังกล่าวนั้นตนคิดว่าทาง กกต. นิ่งเฉยมากเกินไปที่จะดำเนินการเอาผิดกับทางพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งส่อให้เห็นถึงเจตนาที่ลำเอียง ไม่มีความเป็นธรรม เพราะ กกต. มีหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยตรง แต่กับเล็งที่จะดำเนินการเอาผิดกับพรรคที่เป็นของฝ่ายรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัดเจน และเลือกที่จะช่วยพรรคที่ให้การสนับสนุนระบอบเผด็จการ