ตอกฝาโลง! ‘อภิรักษ์’ ป.ป.ช.ชี้ผิดอาญา 2 ข้อหาหนัก มัดสัญญาทาส ‘ดับเพลิองฉาว’ ระบุผิด ม.157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-แหก พ.ร.บ.ฮั้ว ย้ำเปิดแอลซีขมวดปมค่าโง่ 6.7 พันล้าน ด้าน ‘ปลัดณัฐนนท’ เสียวสันหลัง! ไม่รอดคมปังตอ ชี้ผิดวินัยร้ายแรง เร่งทิ่มสำนวนให้อัยการสูงสุดใน 30 วัน ก่อนปิดดีล ‘เช็กบิลทุจริตโครงการฉาว’
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีทุจริตการจัดซื้อรถ เรือดับเพลิง และอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687 ล้านบาท
ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลว่า นายอภิรักษ์กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรณีสั่งเปิดแอลซี (Letter of Credit) กับธนาคารกรุงไทย เพื่อชำระเงินบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ของสาธารณรัฐออสเตรีย ผู้ผลิตรถดับเพลิงและอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ
สำหรับผู้ถูกกล่าวหา รายอื่นๆ ป.ป.ช.มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตผู้ว่าฯกทม. , นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย , นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย , นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ , นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย , พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันสาธารณภัย กทม. และนายมาริโอ มีนาร์ ในฐานะผู้แทนบริษัท สไตเออร์ ฯ และบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ในฐานะคู่สัญญากับกรุงเทพมหานคร มีความผิดอาญา เช่นเดียวกับนายอภิรักษ์
ขณะที่อีก 2 ราย ได้แก่ คุณหญิงณัฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร ที่ประชุมเห็นว่า มีความผิดวินัยร้ายแรง ขณะที่นายราเชนทร์ พจนสุนทร อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และไม่มีความผิดทางอาญา
สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะทำสำนวนดังกล่าวเพื่อส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯซึ่งอัยการสูงสุดมีเวลาในการพิจารณา 30 วัน
'หล่อเล็ก'เสียวสันหลัง! 'กล้าณรงค์'เชือดรายตัว'ฮั้วดับเพลิงฉาว'
'หล่อเล็ก' ลุ้นระทึก! ปปช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตดับเพลิงดับฉาววันนี้ ด้าน 'กล้าณรงค์' ลั่นลงดาบรายตัว ยันไม่มีการล็อบบี้เพื่อให้ใครรอด
นายกล้าณรงค์ จันทิก หนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการพิจารณาชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. กรณีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาท หลังจากที่มีการเลื่อนการพิจารณาในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นการชี้มูลความผิดเท่านั้น และไม่ขอลงลึกในรายละเอียดตัวบทกฎหมายหรือยุติบทบาทของนายอภิรักษ์
นายกล้าณรงค์ กล่าวย้ำว่า ได้มีการพิจารณาความผิดตัวบุคคลอีก 10 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นชื่อนายอภิรักษ์รวมอยู่ด้วย ยืนยันไม่มีการล็อบบี้เพื่อให้ใครรอดคดี
ทางด้าน นายประสาท พงษ์ศิวาภัย หนึ่งใน ป.ป.ช. กล่าวปฎิเสธถูกกดดันจากพรรคการเมือง ส่วนที่จะมีการพิจารณาความผิดของนายอภิรักษ์ย้อนหลังไปในสมัยที่เป็นผู้ว่า กทม.สมัยแรกหรือไม่นั้น นายประสาท ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในข้อกฏหมาย เพื่อจากมีเอกสารให้ทำการพิจารณา 2 ฉบับ เพราะฉะนั้นจึงเท่ากับว่า มีข้อกำหมาย 2 ฉบับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่จะต้องทำการพิจารณา แต่ทั้งนี้มีหลายฝ่ายเสนอให้มีการพิจารณาความผิดควบย้อนหลังไปในสมัยที่หนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ก้ยังมีความคาบเกี่ยวในเรื่องของการตีความ ว่าจะพิจารณาความผิดย้อนหลัง หรือจะพิจารณาความผิดในสัมยปัจจุบันอย่างไร
นายประสาท กล่าวต่อว่า ส่วนการยุติบทบาทหน้าที่ของนายอภิรักษ์นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าจะมีมติไปในทิศทางใด และเป็นคนละเรื่องกับการชี้มูลความผิด
อย่างไรก็ตาม นายประสาท กล่าวอีกด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ไม่จำเป็นที่จะต้องพิจารณายืนตาม คณะกรรมการไต่สวน เนื่องจากว่า คณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความอิสระต่อกัน
'วิชา' ปัดตอบคดีรถดับเพลิง
ขณะเดียวกันที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบคดีการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลิงของกทม.มูลค่า 6,687 ล้านบาท กล่าวถึงความคืบหน้าในการชี้มูลคดีรถดับเพลิง ว่า ป.ป.ช.ประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง และจะพิจารณาต่อ ส่วนจะชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องเลยหรือไม่ ยังไม่แน่ อย่างพึ่งไปคาดเดา ขึ้นกับกรรมการป.ป.ช.ว่า อยากได้ข้อมูลเพิ่มหรือไม่ แต่อนุคณะกรรมการฯของตน พยายามชี้ให้เห็นจุดต่างๆของพฤติกรรมของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องให้ป.ป.ช.ทราบแล้ว
เมื่อถามว่า จะชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาตามที่ปรากฏตามรายงานข่าวของสื่อทั้ง 11 คน หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า อย่าพึ่งให้ตนพูดอะไร เพราะต้องให้เกียรติกรรมการป.ปป.ช.ทุกคน อย่างไรก็ตาม หากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.ถูกชี้มูลก็ต้องว่าไปตามกฎหมายโดยหยุดปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นอย่าพึ่งไปกำหนดล่วงหน้า
'เทพเทือก'ยื้อ!'หล่อเล็ก'ตายคาเก้าอี้ผู้ว่าฯ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายอภิรักษ์ แต่หาก ป.ป.ช.ชี้มูลว่านายอภิรักษ์มีความผิดทางอาญา ก็จะยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวทันที แต่จะไม่ลาออกจากผู้ว่าฯ กทม. จะรอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดี สอดคล้องกับนายอภิรักษ์ ที่ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามมติของพรรค
ส่วนที่คณะทำงานด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องต่อป.ป.ช.กรณีนายอภิรักษ์ยอมให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดเส้นทางเสด็จในขบวนพระราชพิธี โดยระบุว่าเป็นการกระทำผิดมาตรา 157
เรื่องดังกล่าว นายอภิรักษ์ชี้ว่า ยังไม่ทราบในรายละเอียดแต่อย่างใด ซึ่งจะมอบหมายให้สำนักงานกฎหมายและคดี กทม.ไปตรวจสอบขั้นตอนของกฎหมายว่าผิดมาตราใดหรือไม่ และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนประเด็นอื่นเชื่อว่าประชาชนจะใช้วิจารณญาณในการตัดสินอย่างรอบครอบและไม่อยากให้นำประเด็นอื่นมาเชื่อมโยงกัน
ต่อข้อซักถามกรณีที่ ป.ป.ช.จะพิจารณาสรุปสำนวนคดีเพื่อชี้มูลความผิดในคดีทุจริตรถ-เรือ และอุปกรณ์ดับเพลิงมูลค่า 6,687 ล้านบาท และหากตกเป็นหนึ่งใน 11คนที่มีความผิดในคดีดังกล่าวจะทำอย่างไร นายอภิรักษ์ ระบุว่า เรื่องนี้อยู่ในชั้นกระบวนการของ ป.ป.ช.ต้องรอให้มีการวินิจฉัยออกมาชัดเจนก่อนและไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆในตอนนี้
ซัด'อภิรักษ์'อย่าชิงไขก๊อก! ย้ำเป็นเจตนาแอบแฝงปชป.
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน (พปช.) เปิดเผยว่า ถ้านายอภิรักษ์มีสปิริตพอต้องรับผิดชอบ เมื่อเขารู้ว่าพรุ่งนี้ ป.ป.ช.จะมีการชี้มุลความผิดอย่างไร ต้องรอให้ผลออกมาก่อนว่าใครถูกใครผิด อย่างคิดชิงความได้เปรียบด้วยการลาออก ทางที่ดีควรรับฟังความชัดเจนจาก ป.ป.ช. เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทางการเมืองหรือมีเจตนาใดแอบแฝง
"ถึงแม้ว่าตัวนายอภิรักษ์จะรู้อยู่แล้วว่า ผลสรุปของ ป.ป.ช.จะออกมาเช่นไร ก็ควรจะมีสปิริต ไม่ควรชิงลาออกให้ตัวเองดูดี ถ้าแม้หลังจากนี้ทางพรรคอาจจะส่งคนอื่นมาแทนนายอภิรักษ์ และอาจใช้การลาออกของนายอภิรักษ์มาเป็นการแสดงความรับผิดชอบ มันเป็นการแสดงถึงเจตนาแอบแฝงของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย" โฆษก พปช.ระบุ