กอ.รมน.โยน ตร.ล่าหัวมือบึ้มรายวัน! พร้อมบุกทลายคลังแสง ‘พันธมิตร’ ขนอาวุธ-เก็บกักวัตถุระเบิด ลั่นกระหน่ำม็อบถ่อยหลังพระราชพิธี ชี้เรื่องโกเต็กซ์ ‘ลูกพระปิยะฯ’ รับไม่ได้ ด้านทนายอิสระบุกร้องสื่อฯแจ้งความเอาผิด 'เจ๊กลิ้ม' ทำร้ายความรู้สึกคนไทยอย่างรุนแรง ชี้ผิดกฎหมายอาญา ม.385 จี้ 'ตุลาการภิวัฒน์' เสียบหัวประจานความชั่ว
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกมาว่าจะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นหลังงานพระราชพิธี โดยการปลุกเร้าประชาชนของทั้ง 2 ฝ่าย ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปดูแล หากเกี่ยวกับหน่วย กอ.รมน.คงมีหน้าที่เข้าไปดูแลบ้าง เพียงแต่ยังไม่มีการประกาศพื้นที่รักษาความสงบ เลยยังไม่มีการเตรียมการเจ้าหน้าที่และยังไม่มีกฏหมายรองรับ
อย่างไรก็ตามหน่วย กอ.รมน.ได้ให้ทางด้านมวลชนที่มีอยู่สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ทั้งในส่วนของภูมิภาค พื้นที่ส่วนกลาง และมีการให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อต้นสัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการรักษาความมั่นคงภายใน (ลธ.รมน. ) ได้เชิญผู้นำของแกนนำมวลชนหน่วย กอ.รมน.ทุกภาคส่วนมาประชุมร่วมกันที่สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดี พร้อมทั้งได้มีการชี้แจงนโยบายต่างๆที่จะขอให้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอทางออกทั้ง 9 ข้อ ที่นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา เสนอหรือไม่ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ในเรื่องความคิดเห็น ตนคงไม่มีความเห็น เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่เป็นที่แน่นอน ซึ่งตนคิดว่าหากแต่ละฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นอาจทำให้เกิดความสับสน แต่เชื่อว่าคงต้องมีการหารือกันแล้วออกมาวิพากษ์วิจารย์กัน
เมื่อถามว่ามองยังไงที่อาจจะมีการขนอาวุธเข้ามาก่อเหตุหลังงานพระราชพิธี ตรงนี้ทางหน่วย กอ.รมน.จะมีการเตรียมการป้องกันอย่างไร พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ในเรื่องของข้อมูลข่าวสารคงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลพื้นที่ต่างๆอยู่ หากเป็นทางด้านหน่วย กอ.รมน.จะไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล คงเป็นในส่วนของกองทัพที่มีการจัดทหาร สารวัตรจากทุกเหล่าทัพทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ดูแลตามที่เจ้าหน้าตำรวจร้องขอในพื้นที่ตอนใน
เมื่อถามว่าเป็นห่วงการจัดงาน “ความจริงวันนี้สัญจร” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่วัดสวนแก้วหรือไม่ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ตนไม่ขอพูดจะดีกว่า เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับหน่วย กอ.รมน. เดี๋ยวจะทำให้เกิดความสับสนมากกว่า หากเกี่ยวข้องกับหน่วย กอ.รมน.ที่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนคือ เรื่องนโยบายที่ได้มอบหมายให้กับแกนนำมวลชนหน่วย กอ.รมน.แล้วทุกคนกลับไปดูแลพื้นที่ในส่วนที่รับผิดชอบ อีกทั้งหากใครพบเห็นบุคคลต้องสงสัยก่อให้เกิดความไม่สงบให้แจ้งมาที่หน่วย กอ.รมน. ซึ่งในส่วนของหน่วย กอ.รมน.ทำในเรื่องกรอบสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากจุดไหนที่ทางตำรวจไม่สามรถเข้าเข้าไปดูแลได้อย่างทั่วถึง ทางหน่วย กอ.รมน.จึงใช้มวลชนที่มีอยู่ไปเสริม นี่คือความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อถามว่ามองเรื่องระเบิดที่เกิดขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรฯที่มีขึ้นทุกวันเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือไม่ พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งอาจจะมองถึงทิศทางและเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เนื่องจากหน่วย กอ.รมน.ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบส่วนนี้
อีกทั้งในเรื่องของโครงสร้างหน่วย กอ.รมน.ทำเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งกำลังนำเสนอเข้า ครม. หาก ครม.เห็นชอบ หน่วย กอ.รมน.ก็พร้อมปฏิบัติ ส่วนประเด็นในเรื่องพื้นที่ที่จะเข้าไปเกียวข้อง เพียงแต่ยังไม่ประกาศเป็นพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรเท่านั้นเอง หากหน่วย กอ.รมน.เข้าไปดูแลก็จะไม่มีกฏหมายรองรับกับเจ้าหน้าที่หน่วย กอ.รมน. จึงไม่สามารถมองประเด็นเกี่ยวกับเรื่องจะวางระเบิดที่นั่นที่นี่ได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสนต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในส่วนนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถให้ข้อมูลมากที่สุด เนื่องจากได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งแนวทางที่จะมาวิเคราะห์มีมากกว่า
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่กลุ่มพันธมิตรเอาผ้าอนามัยไปวางที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยอ้างว่านำไปแก้คุณไสย พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ความรู้สึกก็เหมือนกับทหารทุกคนที่รู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากว่าคนที่เป็นลูกของพระปิยะมหาราชจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่กับการกระทำในลักษณะนี้
สภาป่วน'เชาวรินทร์'ไล่จวก'กบฏพันธมาร'แปะ'ผ้าอนามัย'พระรูปร.5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งหลังเปิดประชุมได้ 15 นาที ได้เกิดความวุ่นวายขึ้น จนประธานการประชุมต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที
ทั้งนี้ เนื่องจาก ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้ขอหารือกรณีมีข่าวว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปวางที่ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งไม่สบายใจกับข่าวพันธมิตรฯ ไปชูป้ายประท้วงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮุสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทักท้วงว่า เป็นการพาดพิงบุคคลภายนอกทำให้ ร.ต.ท.เชาวริน ตอบโต้ว่า จะสนับสนุนให้มีการฆ่าเพื่อน ส.ส. พร้อมขอให้ประชาชนจำชื่อบุคคลที่ประท้วงตัวเขา ทั้งที่ได้นำเรื่องการลบหลู่รัชกาลที่ 5 เข้ามาหารือ
ขณะที่ นายศุภชัยได้ประท้วงให้ ร.ต.ท.เชาวริน ถอนคำพูด โดยยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สนับสนุนการฆ่าเพื่อน ส.ส. แต่ ร.ต.ท.เชาวรินไม่ยอมถอนคำพูด ทำให้นพ.วรงค์ ลุกขึ้นประท้วงอีกคนว่า ประธานไม่สามารถควบคุมการประชุมได้ จะต้องลงจากบัลลังก์ ทำให้ประธานประชุม ชี้ขาดว่า หากตนลงจากบัลลังก์ก็ปิดการประชุมไปเลย และได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที
ทั้งนี้ เมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง ประธานได้พยายามไกล่เกลี่ย แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยินยอม ทำให้ประธานสภาฯได้สั่งให้ ร.ต.ท.เชาวริน ออกนอกห้องประชุมเป็นเวลา 10 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีการตอบโต้กันว่า เนื่องจากตนหยิบยกประเด็นที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯให้คนนำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปวางแก้ไสยศาสตร์บริเวณฐานของพระบรมรูปทรงม้านั้น ตนมองว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำลายจิตใจของประชาชนชาวไทยที่สักการะและนับถือทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เลวทรามต่ำช้า และตนเป็นคนที่สักการะและห้อยเหรียญรัชกาลที่ 5 มากว่า15 ปีจึงรับไม่ได้ และถือเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง
นอกจากนี้ ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมตนยังได้ตอบโต้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์และนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี ที่ลุกขึ้นประท้วงกรณีที่ตนพูดพาดพิงไปถึงพฤติกรรมของนายสนธิ ตนจึงย้อนถามไปยังส.ส.ทั้ง 2 ว่าเป็นญาติกับนายสนธิเหรอถึงได้เดือดร้อนแทน จึงทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจและเรียกร้องให้ตนถอนคำพูดดังกล่าว
ขณะเดียวกันตนก็ได้หยิบยกกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ว่าส.ส.ประชาธิปัตย์มีส่วนร่วมวางแผนฆ่าเพื่อนอาชีพเดียวกัน จึงทำให้มีการโต้เถียงกันและส.ส.ประชาธิปัตย์ก็เรียกร้องให้ตนถอนคำพูดอีก แต่ตนนั้นไม่ยอมถอนคำพูดเพราะก่อนหน้านี้ตนก็เคยใช้คำพูดดังกล่าว และก็ไม่เคยมีใครให้ตนถอนคำพูดบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียด จนทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งให้ตนออกไปสงบสติอารมภ์ข้างนอก 5 นาทีก่อนเข้ามาร่วมประชุมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนายเชาวริน ยังกล่าวถึงกรณีที่กคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ว่าปปช.ทำถูกต้องแล้ว ซึ่งตนเคยตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่าตั้งแต่ครั้งคตส.เป็นผู้ตรวจสอบและชี้ว่านายอภิรักษ์ ไม่ผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะคตส.จะมาชี้ว่าคนที่เปิดแอล/ซีไม่ใช่ผู้กระทำความผิดไม่ได้ ถ้าจะถามหาตัวคนผิด ต้องโทษคตส.ไม่ใช่ป.ป.ช. เพราะคตส.พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยนายอภิรักษ์และพรรคประชาธิปัตย์
ประจานความชั่ว'เจ๊กลิ้ม'ชี้ผิดอาญา
นายเรืองเดช เหลืองบริบูรณ์ ทนายความอิสระจากจังหวัดอุทัยธานี ได้นำเอกสารบันทึกคำกล่าวโทษนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) มาแจกจ่ายกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า ตนจะเดินทางไปยัง สน.ดุสิตในวันเดียวกันนี้ เพื่อเข้าแจ้งความกล่าวโทษนายสนธิ กรณีประกาศทำพิธีแก้คุณไสย ด้วยการนำผ้าอนามัยซับประจำเดือน (โกเต๊ก) มาเช็ดพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเป็นการทำร้ายความรู้สึกของประชาชนชาวไทยอย่างรุนแรง ดูหมิ่นสถานที่ที่คนไทยเคารพ ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 385 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จึงขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนด้วย
ก่อนหน้านี้ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ตอบคำถามถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯใช้ผ้าอนามัยไปวางรอบฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ในฐานะนายทหาร จปร.ว่ารู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน เชื่อว่าทุกคนรักและเคารพเรื่องสถาบันสูงสุด กองทัพจะทำเต็มขีดความสามารถ และคิดว่าคนไทยทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน ทั้งนี้กองทัพบกก็อึดอัด หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าหากทำก็หาว่ากลั่นแกล้ง หากไม่ทำก็หาว่าอยู่เฉยๆ ขณะนี้สิ่งที่เราทำอยู่ในกรอบ กฎ ระเบียบวินัยที่เห็นว่าเหมาะสมและถูกต้อง"
'เจ๊กลิ้มจอมขมังเวทย์'พลิกลิ้น! ปัดใช้'โกตั๊บ'ทำคุณไสย
ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวชี้แจงบนเวทีปราศรัย ว่า ที่ผ่านมา ตนยืนยันว่าไม่ได้สวดมนต์หรือทำคุณไสย แต่เพียงนำบทสวดมนต์ของพระพุทธเจ้า คือ เมตตาปริต มาสวดเพื่อแผ่เมตตาชุดใหญ่เท่านั้น ซึ่งบทสวดมนต์นี้ในพระไตรปิฎกระบุชัดเจนว่าเพื่อชะล้างสิ่งชั่วร้ายให้หายไป
ส่วนกรณีที่ตนถูกกล่าวหาว่า นำผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปถูพระบรมรูปทรงม้านั้น ขอยืนยันว่าตนแค่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่ามีคนอื่นทำเท่านั้น แต่ตนไม่ได้ลงมือทำ ส่วนการทำพิธีพรมน้ำมนต์ในทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนถูกกล่าวว่าทำน้ำมนต์เองนั้น ที่จริงเป็นน้ำมนต์ของหลวงตามหาบัว เพื่อนำมาปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและสิ่งสกปกรกออกไป
'ไชยวัฒน์'กระเหี้ยนกระหือรือจี้มทภ.1ใช้กฎอัยการศึก
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการองค์กรสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.) เข้ายื่นหนังสือต่อกองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร์ ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1 ตัวแทนพลโทคณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้รับเรื่อง โดยในฐานะที่กองทัพภาคที่ 1 มีความรับผิดชอบดูแลความสงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พิจารณาใช้กฎหมายพิเศษ เข้าดูแลความสงบเรียบร้อย ด้วยการประกาศกฎอัยการศึก เพราะเป็นอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ของกองทัพภาคที่ 1 จะประกาศใช้ได้
ทั้งนี้กฎอัยการศึกดังกล่าว สามารถใช้ในการควบคุมตัวบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งทางองค์กรเห็นว่า สมาชิกเสียงข้างมากในสภาและรัฐบาลมีพฤติกรรมที่เป็นกบฏต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
อย่างไรก็ตาม ในการเข้ายื่นหนังสือครั้งนี้ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ได้กดดันกองทัพหรือต้องการให้กองทัพเข้ามาเป็นฝ่ายขององค์กร แต่เห็นว่ากองทัพมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องดูแลประชาชนและรักษาความมั่นคงของชาติ