แต่ในที่สุดหลังจากกรรมการ ป.ป.ช. ได้ใช้เวลาพิจารณานานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อชี้มูลความผิดเรื่องดังกล่าว ก็ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 : 0 ว่าข้อกล่าวหา นายอภิรักษ์ และผู้ถูกกล่าวหาอีก 8 คนมีมูล
ชี้ชัดทำชาติเสียประโยชน์
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการเห็นว่าคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงของ กทม. ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหา 11 ราย เป็นโครงการที่มีขั้นตอนการพิจารณาไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการทำสัญญาการค้าต่างตอบแทนภายหลังจากที่มีการลงนามในสัญญา A.O.U. ไปแล้ว ซึ่งถือว่าขัดต่อประกาศของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการทำการค้าต่างตอบแทน และการทำสัญญา A.O.U. เป็นการทำข้อตกลงที่ไม่ถูกต้องสมบูรณ์ของการทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ
นอกจากนั้น การทำสัญญาการค้าต่างตอบแทนยังไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เนื่องจากเป็นการแลกกับสินค้าไก่ต้มสุก ซึ่งสามารถส่งออกได้ตามปกติอยู่แล้ว เพียงแต่นำรายการไปแจ้งว่าได้ส่งไปครบตามสัญญาเท่านั้น และยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนที่เป็นญาติกับนายวัฒนา เมืองสุข นอกจากนั้นยังมีการเสนอราคาที่ไม่เป็นธรรม หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา เป็นการช่วยเหลือบริษัทผู้ขายรถและเรือดับเพลิง ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้ถูกกล่าวหา
อภิรักษ์เจอข้อหาจงใจทำผิด ก.ม.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่า นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ รมช.มหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข รมว.พาณิชย์ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ในสมัยที่เป็นผู้อำนวยการสำนักป้องกันสาธารณภัย กทม. กระทำผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ส่วนกรณีของนายอภิรักษ์ มีความผิดทางอาญากรณีสั่งเปิดแอลซีกับธนาคารกรุงไทย เพื่อชำระเงินบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ทั้งๆ ที่รู้ว่าการพิจารณาโครงการดังกล่าวผิดกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านั้นได้เคยมีคำสั่งให้ชะลอ และตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนว่าเป็นการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใส มีราคาแพงเกินความเป็นจริง
นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่า นายโภคิน นายประชา นายวัฒนา นายสมัคร พล.ต.ต.อธิลักษณ์ และนายอภิรักษ์ รวมทั้งบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ของออสเตรีย ผู้ผลิตรถดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 883 และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ก็จะทำสำนวนส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง