การรถไฟแห่งประเทศไทยคงมีเรื่องให้กลุ้มอกกลุ้มใจอีกรอบ หลังจากอนุญาโตตุลาการตัดสินแล้วว่าให้ชดเชยเงิน'โฮปเวลล์'กว่าหมื่นล้าน ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ พิธีกรรายการเผย18ปี...แห่งความหลัง โกงกินกันเพียบ
นายวีระ มุสิกพงศ์ พิธีกรรายการกล่าวถึงโครงการที่น่าอัปยศอดสูที่สุดและยังจำได้กันดี คือเสาตอหม้อโครงการระบบขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับ หรือ "โฮปเวลล์" นับจากวันที่ได้มีการลงนามเซ็นต์สัญญาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2533 ในการให้สัมปทาน พร้อมทั้งสิทธิการเข้าใช้ประโยชน์จากที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณริมทางรถไฟ ระหว่างกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ กับบริษัท คู่สัญญา คือ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จวบจนวันนี้ เป็นเวลา 18 ปีแล้ว
ท้ายที่สุดเหตุการณ์ทุจริตที่น่าอัปยศนี้ก็สิ้นสุดลงเมื่อ อนุญาโตตุลาการ ตัดสินเมื่อวันที่8ที่ผ่านมานี้ ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทโฮเวลล์ เป็นเงิน11,888,000,000ล้านบาท ก็เล่นรวมหัวกันทุจริตเป็นคณะก่อสร้างกันโดยไม่มีแบบสร้างไปเขียนแบบไป ผลสรุปก็ได้มาเพียงเสาตอหม้อตั้งตระหง่านโดดเด่นเอาไว้ให้ผู้ที่ไม่รู้ถามว่า"ไอ้เสานี่ มันจะเอามาปักไว้ทำไมกันนะ" แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยก็มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัวอยู่แล้ว ดันเจอหนี้ก่อนโตรอบนี้เข้าไปอีกคงปวดกบาลดิ้นรนหาทางออกกันอีกยาวแน่
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ พิธีกรรายการยังกล่าวอีกว่าอยากให้ป.ป.ช.เร่งดำเนินการวินิฉัยกรณีการทุจริตฮั้วประมูล16โครงการในกรุงเทพฯ ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ต่อเนื่องโดยด่วน เพราะเอกสารประกอบการวินิฉัยก็มีครบถ้วนและชี้ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการทุจริตจริง เหตุใดป.ป.ช.จึงไม่ตัดสินให้รู้เรื่องไปเลยสักที
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง พิธีกรรายการกล่าวถึงการพูดปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล โดยอ้างว่าประชาชนกลุ่มที่ไม่ออกมาชุมนุมแสดงจุดยืนใดๆเลยนั้นถือว่าเป็นพวก"ชิงหมาเกิด"เป็นการกระทำที่ใช่ไม่ได้เพราะประชาชนชาวไทยพื้นฐานเป็นคนรักสงบไม่ต้องการความวุ่นวายหรือความแตกแยกอยู่แล้ว การที่ไม่เลือกออกมาชุมนุมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นคงกำลังคิดตัดสินใจอยู่ว่า สิ่งใดถูกสิ่งใดผิดมากว่า