โฆษก บช.น.ฟันธง! เหตุบึ้มข้างเวทีพันธมาร ยิงจากด้านใน-ไม่ใช่ M79 ชี้ 'โจรกบฏ' ล่อเป้ากันเองยุติความขัดแย้งภายใน ขณะที่ 'นักรบใบกระท่อม' ขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ด้าน 'หมอพรทิพย์' ปัดตอบบึ้ม! เสียวถูกม็อบโกเต็กซ์ด่ากราดบนเวทีฯ
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเหตุระเบิดข้างเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ไม่น่าจะเป็นระเบิด M 29 ตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ และไม่ใช่เป็นลักษณะของการยิงมาจากด้านนอก โดยน่าจะเป็นการระเบิดขึ้นภายในมากกว่า อย่างไรก็ตามคาดว่าไม่น่าจะเป็นระเบิด M 79 เพราะอานุภาพทำลายล้างต้องมากกว่านี้
พล.ต.ต.สุพร กล่าวอีกว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากพันธมิตรฯยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในทำเนียบ ส่วนจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนการจับกุมผู้ต้องสงสัยไว้ 1 คน ขณะนี้ได้ปล่อยตัวแล้วเพราะจากการสอบสวนไม่น่าจะเกี่ยวข้อง
อนึ่งก่อนนห้านั้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณเต็นท์ห่างจากเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรเพียง 50 เมตร เบื้องต้นพบว่าระเบิดตกบนหลังคาเต็นท์ก่อนเกิดการระเบิด แรงระเบิดทำให้เต็นท์เป็นรูกว้างประมาณ 1 เมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บทันที 2 ราย
'หญิงหมอ'หวั่นถูกด่าบนเวที
ขณะที่แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีเหตุการณ์ระเบิดบ่อยครั้ง ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยทางกลุ่มพันธมิตรไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถหาสาเหตุการระเบิดได้ทันที
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอพูด หรือออกความเห็นใด ๆ เพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯ หากพูดพาดพิงไป ตนอาจจะถูกนำไปเป็นประเด็นด่าทอบนเวทีได้ อีกทั้งตนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่โดนตรงในการตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ผ่านมาตนเข้าไปทำหน้าที่ตรงนั้นก็เนื่องจาก ถูกเชิญให้เข้าไปช่วยดูแลเท่านั้น แต่ขณะนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและ กำลังปฎิบัตงานอยู่ทางภาคใต้
ล่าสุดมีรายงานว่า พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ได้ เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุ
ศาลอนุญาตฝากขังแท๊กซี่การ์ดอาสาพันธมิตรพกอาวุธปืน
ส่วนกรณี นายเกียรติศักดิ์ รักภู่ คนขับแท็กซี่ การ์ดอาสาพันธมิตร ซึ่งถูกเจ้าหน้าตำรวจควบคุมตัวในข้อหามีปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต นั้นร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า ได้นำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเป็นครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องสอบพยานเพิ่มอีก 4ปาก และรอผลตรวจสอบลายนิ้วมือ และประวัติอาชญากร โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง
เสธ.แดงจี้ม็อบโกเต๊กซ์ออกจากทำเนียบฯ
ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง) ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงเหตุระเบิดในสถานที่ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนเคยแจ้งเตือนและคอยรายงานข่าวสารให้พันธมิตรฯ ต้องขอขอบคุณลูกที่พาพ่อแม่ออกไปจากพื้นที่ ซึ่งภาพเมื่อคืนเห็นได้ว่า คนที่โดนระเบิดเป็นสาวกของพระโพธิรักษ์ทั้งนั้น ส่วนนักรบศรีวิชัยเอาตัวรอดไปอยู่ในบังเกอร์และหนีไปนอนนอกทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมที่เวทีพันธมิตรฯ มีไม่ถึง 20 คน แต่มีการตัดต่อภาพให้เห็นเป็น 100 คน เพราะภาพตอนที่วิ่งหนีระเบิด จะเห็นว่ามีไม่ถึง 20 คน แม้แต่สารวัตรทหาร (สห.) ซึ่งเป็นทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ยังใส่เสื้อเกราะทุกคน เห็นได้ว่าตรงจุดนั้นไม่มีความปลอดภัย
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า จะขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายให้ออกไปจากทำเนียบรัฐบาล ก่อนวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งมีงานรัฐพิธีระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. โดยยอมจำนนปราศจากเงื่อนไข และส่งมอบทำเนียบรัฐบาลให้กับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 แล้วให้ พล.ต.ต.อำนวย ติดต่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ตั้งแต่สิ่งของรัชกาลที่ 3, 4 และ 5 ของที่ระลึกจากประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีต่างๆ แม้กระทั่งเก้าอี้ของรัชกาลที่ 5 ที่ขาหัก หลังวันที่ 14 พ.ย.จะประกาศหยุดยิง แต่หลังวันที่ 19 พ.ย.นี้ การทอดกฐินหลวงจะเกิดขึ้น กองกำลังไม่ทราบฝ่าย แก๊ง 47 โรนิน ซามูไรไร้สังกัด จะทอดกฐินหลวงแน่นอน เพราะพันธมิตรฯขาดความชอบธรรม
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เราไม่ต้องสงสารผู้ที่โดนระเบิด เพราะเป็นสาวกของศาสนาวิบัติ ซึ่งเพี้ยนและคู่กับผีบุญ คิดว่าตนเป็นกษัตริย์ และเป็นศาสดาอยู่ในตัวเอง ดังนั้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จึงต้องโดนอย่างนี้