เวรกรรมมีจริง!พันธมิตรฯฮุสตันถือป้ายประท้วง‘สมัคร’โดนชาวเว็บไซต์รุมประณามพฤติกรรมต่ำช้า ขณะที่เจ้าตัวรีบออกตัวการกระทำดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนบุคคล
รายงานข่าวจากเว็บไซต์ Thai E-News ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง “พธม.ฮิวสตันถูกกดันหนัก ประกาศถ่อยเองไม่เกี่ยวกับสมาคมคนไทย” โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า พันธมิตรในสหรัฐฯประกอบด้วย ชัชวาลย์ ท้าวอุตม์ รังสิมา ต่อประดิษฐ์ พเยาว์ ชาญศิริ ได้ลงประกาศในเว็บไซต์ “สมาคมไทยเท็กซัส” (http://thaitexas.org/) ว่า "ประกาศ กรณีชูป้ายไม่ต้อนรับคุณสมัคร ที่สนามบินฮิวสตัน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนนั้น เป็นสิทธิส่วนบุคคล และกระทำในนามของพันธมิตรฮิวสตัน มิได้เกี่ยวข้องกับ สมาคมไทย หรือองค์กรอื่นๆ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน"
เว็บไซต์ Thai E-News ระบุว่า ประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากคนไทยในสหรัฐได้พากันประณามการกระทำดังกล่าวอย่างมาก โดยมีการเขียนข้อความประนามในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยเท็กซัส ในหัวข้อว่า “ขอประนาม 7 คนไทย ที่ Houston” (http://www.thaitexasnews.com/modules.php?op=modload&name=PNphpBB2&file=viewtopic&p=775#775)โดยมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นในทางประณามในเรื่องดังกล่าวจำนวนมาก เช่น
-ขอเรียกร้องให้คนไทยที่มีสามัญสำนึกในความเป็นคนไทยอย่างมีอารยะ ได้ร่วมประณามการกระทำของ 7 คนไทยจาก Houston ที่ปรากฎภาพ ตามที่มีในสื่อทั่วไป
-คนไทยนับแต่ปู่ยา ตายาย ไม่เคยสืบทอดลักษณะนิสัยที่ไร้ซึ่งความมีเมตตา เฉกเช่นที่ท่านได้ กระทำกับอดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งเดินทางมารักษาตัวและ ต้องการกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง
-ขอประณามการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ไร้ความมีอารยะ ที่บุคคลทั่วไปพึงมี ไร้ซึ่ง ความมีน้ำใจ เฉกเช่นคนไทย เคยมีต่อกัน
-ร่วมประนาม 7 คนไทย จิตใจต่ำทรามด้วยคนครับ จิตใจแห่งความเป็นคนของพวกคุณมันหายไปหมดแล้วหรือไงครับ คนเจ็บคนป่วยยังไม่ละเว้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยชื่อ-ที่อยู่-เบอร์โทรศัพท์ ของบุคคลทั้ง 7 โดยใช้ชื่อว่า “โฉมหน้าของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพันธมิตรฮุสตัน”
ตร.รวบ‘การ์ดพันธมาร’พกปืน-อาวุธออกรบเพียบ
นี่หรือประเทศไทย! ลิ่วล้อพันธมิตรเจอด่านตำรวจพบปืนพร้อมกระสุน-มีด-กระบองอื้อ ขณะที่หัวหน้าแก๊งมารโยนขี้มือพกบึ้มถูกไล่ออกจากแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบ การ์ดแท๊กซี่พันธมิตรพกอาวุธเพียบ 'โกตั๊บ-โกเต๊กซ์" โยนความผิด การ์ดพกระเบิด ถูกไล่ออกไปแล้ว เมื่อง 10 วันก่อน หัวหน้าแก๊งโยนขี้มือพกบึ้มถูกไล่ออกจากพธม.แล้วเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบอาวุธ นายเกียรติศักดิ์ รักภู่ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดชุมพร คนขับรถแท็กซี่ ซุกซ่อนไว้ภายรถแท๊กซี่ บริเวณด่านตรวจรถหน้าบ้านพิษณุโลก และได้ควบคุมต้วไว้จากการตรวจสอบภายในรถแท็กซี่คันดังกล่าวพบว่า มีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก แต่ไม่พบกระสุนปืน มีดพับ กระบอง ท่อเหล็กยาว 2 ฟุต และบัตรอาสาสมัครการ์ดพันธมิตรฯ 9 ใบ
โดย ร.ต.ต.สัน พัฒนา ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า เบื้องต้น นายเกียรติศักดิ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าอาวุธที่พบเจอในรถแท็กซี่ของตนเป็นของคนอื่น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ช่วงเวลาใกล้เคียงกันใน เวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ต้องสังสัย ด่านตรวจอยู่บริเวณปากซอยลิขิต ถนนศรีอยุธยา ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คไฮแลนเดอร์ 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน ช 4917 กรุงเทพมหานคร มีนายกวียุทธ บุญทองแก้ว อายุ 33 ปี เป็นคนขับ พร้อมผู้โดยสาร 7 คน ตรวจค้นภายในพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน .38 อีก 13 นัด บรรจุกระสุนพร้อมใช้ อาวุธมีด 2 เล่ม สายคาดเอว 1 เส้น และผ้าคาดศีรษะมีข้อความ “กู้ชาติ” 1 สาย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า อาวุธปืนนี้แม้จะมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่ของผู้ต้องหา ตำรวจจึงแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน นายวัฒนา กิจพิทักษ์สิน อายุ 22 ปี และ นายธนิต ขันอุไร อายุ 28 ปีจับกุม หลัง ตรวจพบ ระเบิดปิงปอง 22 ลูก, ประทัดยักษ์ 1 ลูก,ระเบิดน้อยหน่า 3 ลูก (MK23) , ระเบิดประดิษฐ์ 1 ลูก, กระสุนปืนลูกซอง 4 นัด, มีดปลายแหลม, หนังสติ๊ก, ลูกแก้ว, ถุงมือยาง และเสื้อแจ๊คเก็ต ระบุชื่อ กองทัพธรรม และนางวิไล อารีลักษณ์ แม่ของนายธนิต ยืนยันว่า นายวัฒนา เป็นการ์ดพันธมิตรฯ จริง และจะชักชวนบุตรชายตนเองออกไปด้วยกันบ่อยๆ
ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่า 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยเคยเป็นการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ซึ่งถูก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ไล่ออกไปแล้วเมื่อ 10 วันก่อน เนื่องจากมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง จึงเห็นว่าการจับกุมในครั้งนี้ เป็นความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มพันธมิตรฯ และเชื่อว่าตำรวจเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีตำรวจเข้ามาซื้อตัวการ์ดอาสาบางส่วน และให้คนของฝ่ายพวกเขาแฝงตัวเข้ามา