บทความ โดย ลูกชาวนาไทย
หากมีการทำรัฐประหารในช่วงเวลานี้ ผมคิดว่าจะเกิดสงครามจรยุทธ์ขึ้นต่อต้านทันที แล้วอำนาจรัฐไทยก็พังทลายไปสิ้น
จากการที่มีข่าวการจองกฐินกลุ่ม พธม.ที่ทำเนียบรัฐบาลประจำ ซึ่งมีทั้งการขวางระเบิด ใช้อาวุธสงคราม หรือแม้แต่การใช้ปืนยิงเข้าไปยังกลุ่มพันธมิตรที่อยู่ในทำเนียบนั้น คือหากเราพิเคราะห์ใคร่ครวญถึงการใช้อาวุธที่ถล่ม พธม. หลายครั้งที่ผ่านมา ผมเชื่่อว่าคงไม่ใช่เป็นการสร้างสถานการณ์ของฝ่าย พธม.ทั้งหมดเลยทีเดียว แต่เกิดการจองกฐินอย่างที่ เสธ.แดงว่า (แต่ไม่ใช่กลุ่ม 47 โรนิน อะไรของเสธ.แดงแน่) ผมคาดว่าอาจมาจากกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่ากลุ่มไหนบ้าง แต่เชื่อได้ว่าเป็นกลุ่มการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มพันธมิตร หรืออาจเป็นมือที่สามก็ได้
ลักษณะเช่นนี้ หากเราใคร่ครวญให้ดี ผมตีความได้ว่านี่อาจเป็นการแสดงศักยภาพในการทำสงครามจรยุทธ์ในเมือง เพื่อให้ฝ่ายทหารหรือฝ่าย “ศักดินาอำมาตยาธิปไตย” ประจักษ์ว่า หากมีการใช้กำลังทหารเข้าทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว จะเกิดสงครามกลางเมืองต่อต้านทันที
ศักยภาพในการต่อสู้กับสงครามกองโจรในเมือง ของกองทัพไทย นั้นมีแค่ไหน นั้นเราประเมินได้จากสถานการณ์สงครามก่อการร้านในสามจังหวัดภาคใต้ครับ พื้นที่นั้นเป็นเมืองเล็กๆ ทหารไทยทั้งกองทัพทุ่มกำลังเข้าไปเต็มที่ ระดมทรัพยากร งบประมาณสมองเข้าไปเต็มที่ ยังไม่อาจปราบปรามได้เลย หากเป็นสงครามจรยุทธ์ การก่อการร้านใน กทม. ก็อย่าหวังเลยว่ากองทัพไทยจะมีความสามารถที่จะปราบปรามได้ ยิ่งเป็นศัตรูกับประชาชน โดยทำรัฐประหารด้วยแล้ว ยากมากที่จะหาแรงสนับสนุนจากประชาชนได้
ตอนนี้ "กองทัพไทยขาดพลังทางความคิด"
กองทัพที่จะรบให้ชนะในสงครามประชาชนได้นั้น “พลังทางความคิด” ที่ใช้เป็นเข็มมุ่ง จะต้องมาก่อนศักยภาพด้านกำลังพล หรือแสนยานุภาพ เพราะหากไม่ชนะกันทางความคิดก่อน การที่จะใช้กำลังปราบปรามให้ราบคาบได้นั้นอย่าพึงหวังเลย ยิ่งกองทัพสนับสนุนลัทธิอำมาตยาธิปไตยอำนาจนิยม ด้วยแล้ว ก็อย่าคิดหวังว่าจะเอาชนะทางความคิดได้
ในสมัยที่รบกับคอมมิวนิสต์นั้น กองทัพไทยยังมีพลังทางความคิด ที่ได้เปรียบคอมมิวนิสต์มาอยู่พอสมควร เพราะโลกเสรีที่ต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์นั้น ท้ายสุด "พลังความคิดทุนนิยม+ประชาธิปไตย" มีพลังอำนาจมากกว่า แนวคิดอุดมการณ์ของสังคมนิยม+เผด็จการกรรมาชีพ (โดยพรรคคอมมิวนิสต์)
แต่สงครามครั้งนี้ กองทัพไทยและพวกศักดินา "อ่อนด้อยทางด้านพลังความคิด" อย่างชัดเจน พวกเขากล้าท้าหาญสู้กับ พลังของโลกทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ +ประชาธิปไำตยแบบเสรี ด้วยแนวคิดอุดมการณ์แบบเศรษฐกิจพอเพียง + ระบอบอำมาตยาธิปไตย
แค่การต่อสู้ทางแนวความคิดก็เห็นความพ่ายแพ้อย่างชัดเจนแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง พลังอุดมการณ์ด้านทางจารีตดั้งเดิม ของนิยายจักร ๆ วงศ์ๆ ที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของจักรวาลวิทยาแบบไตรภูมิพระร่วง+ลัทธิพราหมณ์ ก็อ่อนกำลัง เสื่อมอิทธิพลจากสังคมไทยไปมากแล้ว จนแทบไม่มีมนต์ขลังต่อราษฎรยุคศตวรรษที่ 21 อีกต่อไปแล้ว
อำนาจสื่อที่พวกศักดินาอำมาตยาธิปไตย ยึุดกุมอยู่คือ หนังสือพิมพ์ + โทรทัศน์บางส่วน ก็อ่อนกำลังเสื่อมอิทธิพลลง เมื่อต้องสู้กับสื่อสมัยใหม่คืออินเตอร์เน็ต นักรบไซเบอร์ และคลิปต่างๆ
ผมว่าสงครามครั้งนี้หากยืดเยื้อ พวกศักดินาอำมาตยาธิปไตยก็จะแพ้ แม้จะเร่งเผด็จศึกโดยเร็วพวกเขาก็จะพ่ายแพ้เช่นกัน เพราะพวกเขาคือ คนในโลกเก่า ล้าหลัง ไม่อาจปรับตัวให้ทันกับกระแสโลก
พวกเขาแพ้ เพราะ The World is change ครับ โลกเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตามโลก
ศตวรรษที่ 21 ยังจะให้คนเชื่อเรื่องบุญญาธิการ บารมี นิยายเทพจักร ๆ วงศ์ ๆ มากกว่า สิ่งที่สัมผัสได้เช่น ความอยู่ดีกินดี สวัสดิการสังคม การรักษาฟรีั การเข้าถึงทุน ความมั่งคั่ง
พวกเขาเป็นแค่ "อุปสรรค" ระยะสั้นของระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นครับ
การถล่ม พธม. ด้วยอาวุธสงครามนั้น ผมตีัความได้ว่า เป็นการแสดงศักยภาพการตอบโต้ด้วยสงครามจรยุทธ์ เป็นการแสดงให้ทหารทีุ่กุมอำนาจในกองทัพขณะนี้ ทราบว่า ฝ่ายตรงข้ามกับพวกคุณ มีศักยภาพ ที่จะตอบโต้การใช้กำลังของพวกคุณ
เมื่อบวกกับมวลชนเสื้อแดง ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามพลังกดดันต่อระบอบประชาธิปไตยที่มาจากฝ่ายที่คุกคามระบอบประชาธิปไตยนั้น ผมคิดว่า ศักดินา+ ทหาร ก็ไร้พลังอำนาจในการเข้าจัดการทางการเมืองไปแทบหมดสิ้นทีเดียว
พวกเขาจะโปรประกันดา ให้ประชาชนไปอยู่ข้างพวกเขาได้อย่างไร
จะโดยการนำเสนอแนวคิดเรื่องระบอบ 70/30 บวกกับ เศรษฐกิจพอเพียง นะหรือ ผมว่าหากมาแบบนี้ แพ้ตั้งแต่ในมุ้งแล้วครับ
ตอนนี้เป็นแค่ระยะเวลายืดเยื้อของสงครามเท่านั้น แต่บทสรุป เราทราบกันชัดเจนอยู่แล้วว่า เมืองไทยจะก้าวไปสู้ระบอบประชาธิปไตยที่เข็มแข็งขึ้น พลังอำนาจทางจารีต จะไม่มีวันครอบครองสังคมไทยได้แบบเดิมอีกแล้ว
เวลาของพวกเขาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
จาก thaifreenews