WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, November 14, 2008

มติชน vs พันธมิตรฯ


คอลัมน์ : ฮอตสกู๊ป

ขาประจำผู้เสพข่าวสารทางการเมือง หลายคนคงกำลังมึนงงกับการเลือกนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ของสื่อค่ายมติชน ที่เปลี่ยนไป

เพราะไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ จะเห็นได้ว่า สื่อในเครือมติชนเสนอข่าวเกี่ยวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเปลี่ยนไปจากเดิม และทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดที่เสนอข่าว ตั้งข้อสงสัยไปที่แกนนำพันธมิตรฯที่รับเงินบริจาคแต่ไม่เสียภาษี และเปิดโปงบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ปที่ล้มบนฟูกและใช้เงินภาษีประชาชนไปอุ้ม รวมทั้ง เอเอสทีวี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งส่อว่าอาจจะมีการฟอกเงิน นี่ยังไม่นับรวมข่าวรายวันที่เสนอด้านลบ มุมมืดของพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล

คอการเมืองหลายคนวิเคราะห์ว่า จุดยืนที่เปลี่ยนไปนี้น่าจะเกิดจากการที่พันธมิตรฯ ประกาศให้คนในสังคมบอยคอตไม่ซื้อไม่อ่านสื่อเครือมติชน กระทั่งส่งนักเลงเข้าไปคุมแผงไม่ให้มีการซื้อขาย จึงกลายเป็นแรงบีบขนานใหญ่ทำให้ผู้บริหารของเครือเองต้องออกมามีปฏิกิริยาตอบโต้ จริงเท็จประการใด สุดแท้แต่การวิเคราะห์และคาดเดากันไป

แต่ที่จริงแท้แน่นอน ก็คือ บ้านเมืองระส่ำระสาย แตกแยกไปทั่วทุกหัวระแหง เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯตั้งแต่ก่อนหน้าการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ณ พ.ศ. 2551 การเคลื่อนไหวของพันธมิตร และการรัฐประหาร คือต้นตอของวงจรอุบาทว์ กัดเซาะทำลายระบอบประชาธิปไตย และสร้างความแตกแยกในสังคมอย่างไม่รู้จบ

โดยทั้งพันธมิตรฯ และเผด็จการทหารนั้น มีแนวร่วมสนับสนุนอย่างออกนอกหน้า คือ บรรดาสื่อมวลชนกระแสหลัก และปัญญาชน นักวิชาการที่ต่างได้รับการสมนาคุณกันถ้วนหน้า อาทิ ตำแหน่ง สนช. สสร. เหล่านี้เป็นต้น
ผู้บริหารของเครือเอง ก็เข้าไปมีส่วนร่วมกับองคาพยพเผด็จการด้วยใช่หรือไม่?

ก่อนหน้านั้นในช่วงปี 2548 มีกระแสความไม่พอใจเกี่ยวกับการเข้ามาของแกรมมี่ที่เข้ามาถือหุ้นของบริษัทจนทำให้เลือกข้างเข้าร่วมกับการโค่นล้มรัฐบาลใช่หรือไม่?

หากมองย้อนกลับไป ในห้วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ที่สำคัญในสังคมคือ แม้ว่าอำนาจเผด็จการ และฝ่ายอำมาตยาธิปไตยจะพยายามควบคุมชี้นำสังคม แต่ก็มีพลังของประชาชนผู้รักและพิทักษ์ประชาธิปไตยเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้านมาโดยตลอด

เวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังรัฐประหาร จุดยืนและท่าทีของสื่อในเครือมติชนเป็นเช่นไร ทิศทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เป็นกลางเสนอข่าวสารทั้ง 2 ด้านได้อย่างเท่าเทียมกันจริงๆหรือ และเลือกที่จะให้น้ำหนักแก่ฝั่งใด คนบริโภคข่าวสาร ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็น ท่าทีคัดค้าน ประณามการทำรัฐประหาร ใช่หรือไม่?

ทั้งก่อนหน้าที่จะมีการประกาศบอยคอตจากแกนนำพันธมิตรฯ เมื่อมีนักข่าวของตน ถูกคุกคาม ข่มขู่จากแกนนำพันธมิตรฯ ต่อมา ช่างภาพของหนังสือพิมพ์ในเครือถูกหิ้วปีกและข่มขู่จากการ์ดพันธมิตรฯ ยังได้เห็นท่าทีที่น่าประหลาดใจของผู้ใหญ่ในเครือคนหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ไม่อยากที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร นัยว่ายังเกรงใจไม่อยากมีปัญหากับพันธมิตรฯ จนทำให้นักข่าวที่ทำงานอยู่ในสนามเกิดความไม่มั่นใจ และเคว้งคว้างเพราะถูกลอยแพจากผู้ใหญ่

บทสะท้อนจุดยืนที่ผ่านมาของสื่อเครือมติชนจึงทำให้เกิดข้อกังขาว่า จุดยืนที่เปลี่ยนไปในวันนี้เป็นเพราะคิดได้ ตระหนักถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยได้จริง หรือตามกระแสของสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นช่วงขาลงของพันธมิตรฯ ท่ามกลางการขยายตัวที่เติบโต เข้มแข็งของพลังประชาธิปไตยสีแดง?

คงต้องบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตยเปิดกว้างพอที่จะรับ ผู้ที่เคยทำ ผิด คิดพลาดไป ให้กลับมามีที่อยู่ที่ยืนได้ในขบวนประชาธิปไตย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ตัวตน และคุณภาพว่าจะเป็นที่อยู่ที่ยืนได้อย่างมั่นคงและสง่างามมากน้อยแค่ไหน

ดังสุภาษิตที่ว่า ดีชั่ว อยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว! นั่นเอง