กลุ่มทนายความ สับเละ ‘เดชอุดม’ ทำตัวเป็นผ้าเช็ดเท้ารับใช้เผด็จการ ยื่นหนังสือต่อสภา – ก.ยุติธรรม ถอดถอนออกจากตำแหน่งโดยด่วน จ่อคิดร้องสภาทนายความเปิดประชุมวิสามัญสอบเพิ่ม
วันนี้ (13 พ.ย. ) นายคารม พลทะกลาง ทนายความ ชมรมนักกฎหมายเพื่อประชาชน และกลุ่มยุติธรรมไทย พร้อมสมาชิกทนายความกว่า 30 คน ร่วมยื่นหนังสื่อต่อนาย ประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ทำการถอดถอน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดวัตุประสงค์พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ในมาตรา 7 นอกจากนี้ที่ผ่านมาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรรมการสภาทนายความบางคนที่ไปร่วมขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อยู่หลายครั้ง ซึ่งไม่ได้เป็นหน้าที่ที่ดีงามของสภาทนายความ เท่ากับเป็นการก้มจำนน และรับใช้กลุ่มเผด็จการ
ประกอบกับข้อเสนอที่เรียกร้องให้สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ทำการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชิ้นของพ.ต.ท. ทักษิณ พร้อมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการถอดยศพ.ต.ต.คืนอีกหากศาสมีการตัดคดีจนถึงที่สุดนั้น เป็นการกระทำที่ไม่ใช่หน้าที่ของทนายความโดยสิ้นเชิง เป็นการชี้แนะแนวทางที่ไม่สมควร
“ผมไม่เคยเห็นว่าเขาจะทำหน้าที่ที่ช่วยเหลือระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผิดวิสัยทัศน์ของทนายความที่ดี แถมยังทำตัวไม่มี เกียรติ และ ศักดิ์ศรี เพระมีพฤติกรรมชี้นำว่าคนนั้นถูกคนนี้ผิด เลือกข้าง ซึ่งคนที่จะชี้ถูกผิดคือศาลเท่านั้น แต่นี้ทำตัวเป็นผ้าเช็ดเท้า อย่างในกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ก็หาว่าเขาดูหมิ่นศาลก่อนที่ศษลจะตัดสิน ทำเหมือนเลียศาล แทนที่จะทำตัวให้มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมศาล” นายคารมกล่าว
อย่างไรก็ตามลำดับต่อไปตนและคณะจะทำการยื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ร่วมทำการตรวจสอบ พร้อมกันนี้จะต้องทำการยิ่นเรื่องต่อสภาทนายความให้พิจารณาเปิดประชุมวิสามัญ สภาทนายความ เพื่อทำสอบสวนในข้อเท็จจริงต่อพฤติกรรมของนายเดชอุดม ซึ่งคาดว่าการเปิดประชุมในครั้งนี้จะสามารถได้ข้อสรุปที่แน่ชัดมากยิ่งขึ้น
ด้านดร.สิงห์ทอง บัวชุม นักวิชาการ ผู้อำนวการกลุ่มยุติธรรมไทย กล่าวว่า คณะทนายความซึ่งเป็นสมาชิกของสภาทนายความจากภาคต่างๆทั่วประเทศมีความเห็นโดยสรุปว่า
1การกระทำของนายเดชอุดม และคณะเป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงเพราะเป็นการกระทำผิดวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.ทนายความพ.ศ. 2528 มาตรา 7 และมาตรา 8
2.การกระทำดังกล่าวเป็นการขัดขวางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
3.ออกแถลงการณ์สนับสนุนผู้กระทำความผิด คือกลุ่มพันธมิตรฯโดยรู้อยู่แล้วว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ร่วมกันทำผิดกฎหมาย ชุมนุมโดยมีอาวุธยึดสถานีโทรทัศน์ ยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดถนนสาธารณะซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรของประชาชน อีกทั้งไม่ยอมเปิดเส้นทางให้ขบวนเสด็จ
4.สร้างความปั่นป่วนแก่ประชาชน และทนายความให้เข้าใจทำนองว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมาย และกลุ่มพันะมิตรฯทำถูกกฎหมาย ซึ่งผิดข้อเท็จจริงจนเกิดการเข้าใจผิดกันทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ดร.สิงห์ทอง ยังได้ยื่นหนังสือต่อประธานกรรมาธิการยุติธรรมสภาผู้แทนเพื่อให้ตรวจสอบนายเดชอุดม และกรรมการสภาทนายทุกคนว่า ทำผิดวัตถุประสงค์อย่างร้ายแรง สนับสนุนการทำผิดกฎหมายของกลุ่ม พธม.และสอบสวนการใช้เงินของสภาทนายความไปในทางมิชอบด้วย