พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท บริเวณทิศใต้ ทรงจุดเครื่องเทียนราชสักการะพระศพ ทรงจุดเครื่องเทียนมนัสการบูชา พระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
พระพุทธประจำพระชนมวารเป็นปางถวายเนตร สร้างขึ้นตามวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คือ วันอาทิตย์ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับพระพุทธประจำพระชนมวารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศ อดุลยเดชนิกรม พระบรมราชชนก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร เป็นผู้ถวายพัดรองที่ระลึกงานออกพระเมรุแด่สมเด็จพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติ หน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา และพระราชาคณะที่สวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ที่จะสดับปกรณ์ 84 รูปเท่าพระชันษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บรรพชิตจีนและญวน 20 รูป ถวายธรรมบูชากัณฑ์เทศและทอดผ้าไตร และถวายพระเทศน์ พระสวดศราทธพรต พระสงฆ์เท่าพระชันษา บรรพชิตจีนและญวนสดับปกรณ์ จุดธุปเทียนที่พระสงฆ์ และสวดพระอภิธรรม เสด็จฯกลับ
ปชช.ไว้ทุกข์-ถวายดอกไม้จันทน์ร่วมส่งเสด็จพระพี่นางฯสู่สวรรคาลัย
ท้องสนามหลวงแน่นขนัด! ประชาชนร่วมแต่งกายไว้ทุกข์ ถวายดอกไม้จันทน์ส่งเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สู่สวรรคาลัย! เตรียมรับเสด็จฯ ชื่นชมพระบารมี “พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย”
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการปรับแต่งภูมิทัศน์ประดับดอกไม้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่บริเวณซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ ข้างพระแม่ธรณีบีบมวยผม วนรอบสนามหลวงตามเส้นทางริ้วขบวนพระอิสริยยศ ซึ่งกทม.ได้ปรับแต่งภูมิทัศน์ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชราชดำเนินและเส้นทางริ้วขบวนพระอิสริยยศ บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง พร้อมทั้งซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั้ง 8 ซุ้ม และวัดทั้ง 46 แห่งทั่ว กทม.
ปลัด กทม.ระบุว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ในส่วนที่ กทม.รับผิดชอบ ขณะนี้ดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่มารอรับเสด็จฯ และร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรุณาอย่าเด็ดไม้ดอกไม้ประดับที่กทม.นำมาจัดแต่งตามจุดต่างๆ และเมื่อประชาชนมารวมตัวกันมากๆก็จะมีปัญหาขยะ
ดังนั้นโปรดช่วยกันรักษาความสะอาดอย่าทิ้งขยะเกลื่อนกลาดโดยให้วางกองๆไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดของกทม.จะเป็นผู้เดินเก็บ เนื่องจากตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปกทม.จะนำถังขยะที่อยู่โดยรอบท้องสนามหลวงออกไปหมด รวมถึงป้ายจราจร และป้อมตำรวจด้วยเช่นกัน ส่วนปัญหาหาบเร่แผงลอยก็จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจมาตรวจตราอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้มีเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่โดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้(15 พ.ย.) ซึ่ง กทม.จะเปิดให้ประชาชนร่วมถวายความอาลัยด้วยการถวายดอกไม้จันทน์ส่งเสด็จพระองค์สู่สวรรคาลัย โดยจะเปิดให้เข้าถวายดอกไม้จันทน์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ไปจนถึงเวลา 21.00 น.โดยช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินก็หยุดให้เข้าถวายดอกไม้จันทน์ และเมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับแล้วก็จะเปิดให้ประชาเข้าถวายดอกไม้จันทน์อีกครั้งโดยกทม.ได้เตรียมดอกไม้จันทน์จำนวน 5 แสนดอกไว้บริการประชาชนที่ท้องสนามหลวง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว และสำหรับผู้ที่จะมาเฝ้ารอรับเสด็จฯสามารถจับจองที่นั่งได้ด้านหลังแนวรั้วเหล็กสีเหลืองหรือบริเวณฝั่งขวามือของถนนและหากรู้สึกไม่สบายก็สามารถเข้ารับบริการได้ที่เต๊นท์พยาบาลที่มีอยู่ตามจุดต่างๆโดยรอบสนามหลวงทั้งในส่วนของ กทม.และหน่วยงานอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประดับประดาบริเวณโดยรอบสนามหลวง และเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินตั้งแต่วังสวนจิตรลดา ถนนราชดำเนินใน สนามหลวง สวนหย่อม สนามไชย ท่าเตียน และรอบพระบรมมหาราชวัง กทม.ได้ใช้ต้นไม้ประมาณ 5 แสนต้น ใช้งบดำนเนินการ 4 ล้านบาท ซึ่งต้นไม้ ไม้ดอก-ไม้ประดับ ที่ กทม.นำมาใช้ในการนี้ มีทั้งกล้วยไม้ขาว-ม่วง บานไม่รู้โรย ดาวกระจาย แววมยุรา ผักเสี้ยนฝรั่ง โดยการปรับแต่งรอบต้นมะขามและเสาไฟเป็นช่อระย้าจะเน้นดอกไม้สีขาว ซึ่งเป็นสีที่แสดงความบริสุทธิ์ แสดงออกถึงความอาลัยของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งในการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่จะฉีดพ่นน้ำ และซ่อมแซมต้นไม้ตลอดเวลาจนแล้วเสร็จงานพระราชพิธีและจะเก็บไว้ให้ประชาชนชื่นชมความงดงามของต้นไม้ที่ตบแต่งไปจนถึงสิ้นเดือนนี้
สำหรับบรรยากาศที่ท้องสนามหลวงผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีพสกนิกรชาวไทยต่างมาจับจองพื้นที่เฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในช่วงเย็นของวันนี้
โดยพื้นที่โดยรอบสนามหลวงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจเทศกิจ คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
ทั้งนี้ได้มีการประดับตกแต่งดอกไม้บริเวณต้นไม้ตลอดเส้นทางตั้งแต่ถนนราชดำเนินจนรอบสนามหลวง และสร้างประทับใจให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายแสตมป์ เหรียญกษาป สายรัดข้อมือและพระบรมฉายาลักษณ์ ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
ขณะเดียวกันในส่วนของกรุงเทพมหานคร เปิดให้ประชาชนเข้าถวายดอกไม้จันทน์ ที่ซุ้มรับดอกไม้จันทน์ 8 ซุ้ม บริเวณท้องสนามหลวงด้านททิศเหนือจำนวน 4 ซุ้ม บริเวณท่าช้างบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนราชดำเนินด้านข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์ และด้านหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งแห่งละ 1 ซุ้ม ซึ่งจะเปิดให้วางดอกไม้จันทน์ในวันพรุ่งนี้(15 พ.ย.) ตั้งแต่เวลา 13.00 น.
ด้านนางบุญเรือน วังตาล อายุ 63 ปี เดินทาจากบ้านย่านลาดพร้าวเพียงลำพัง เพื่อมารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. นางบุญเรือนกล่าวว่า รู้สึกตื้นตันใจ ที่เห็นประชาชนเดินทางมาร่วมพระราชพิธีจำนวนมาก พร้อมทั้งยังอยากร่วมไว้อาลัย ระบุในวันพรุ่งนี้(15 พ.ย.) ตนจะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีอีกครั้งตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะที่ผ่านมาเคยเข้าถวายความจงรักถักดี เกือบทุกวันที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ทรงพระประชวรและได้เข้าสักการะพระบรมศพด้วย
ขณะที่นางรัชนี อรุณรัตนนุกูล อายุ 56 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจากที่ทำงานเขตสาธร พร้อมเพื่อนร่วมงาน 5 คน เพื่อไว้อาลัยและบันทึกภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งทางกลุ่มตั้งใจจะเดินทางมาตลอด 3 วัน และวันนี้ตั้งใจมารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เพราะอยากเห็นพระพักษ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และรู้สึกตื้นตันใจมากที่เห็นประชาชนพร้อมใจสวมชุดดำมาร่วมงานพระราชพิธีจำนวนมาก