ที่มา มติชนออนไลน์
"แม้ว"วิดีโอลิงก์เสื้อแดงเชียงใหม่ แฉเบื้องหลังถูกปฏิวัติ-มุ่งจัดการข้อหาไม่จงรักภักดี ซัด4นักกฎหมายรุมเล่นงาน นัด26มี.ค.แฉต่ออีกยก อัยการเผยผลคุยข้อตกลงร่างสนธิสัญญาฮ่องกงราบรื่น เหลือ 2 ปมไม่ตรงกันระบบกฎหมายกับภาษา แย้มมีประเด็นขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนชั่วคราว "สมชาย"ขึ้นเวทีเชียงใหม่ ปลุกเสื้อแดงนับหมื่นรวมพลัง26มี.ค.
"ทักษิณ"วิดีโอลิงก์ซัด"งูเห่า"
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ใช้วิดีโอลิงก์มายังผู้ชุมนุมที่เวทีสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ว่า วันนี้ขออนุญาตพูดถึงพี่สาว เพราะต้องใส่เสื้อสูทสีดำเพื่อเคารพศพพี่สาว ซึ่งอีกไม่นานตนจะตามไป แต่พวกที่ยังมีชีวิตอยู่ควรคิดอะไรเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด ตนฝากอุดมการณ์ถึงผู้ชุมนุมให้เรียกร้องประชาธิปไตย อย่าทะเลาะ อย่าแตกแยก ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
"นับแต่ยุบพรรคพลังประชาชนเกิดงูเห่าแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่ก็ไม่เสียใจ แต่การอภิปรายเมื่อ 2 วันที่ผ่านมายังมีการใช้เงินซื้อเสียงโหวต ส.ส. หลายคนรับสารภาพว่าได้เงิน 2 แสนบาท และงบฯพัฒนาท้องถิ่นคนะ 20 ล้านบาท เบื้องหลังจะลงในหนังสือของหมวดเจี๊ยบเล่มใหม่ ชื่อ"ทักษิณ อาร์ยู โอเค" สำหรับทางออกของประเทศจะพูดทั้งหมดในการชุมนุมใหญ่วันที่ 26 มีนาคมนี้"
แฉ"ผู้ใหญ่"อยู่เบื้องหลังปฏิวัติ
ต่อมาพ.ต.ท.ทักษิณได้เปิดประเด็นปัญหาทางการเมืองที่นำมาสู่ความวุ่นวายในปัจจุบันใจความว่า หลังจากผลเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 2 ที่พรรคไทยรักไทยได้ 377 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มาเตือนว่าจากนี้ให้ระวัง สื่อจะประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านซึ่งตนได้หาข้อมูลและพบว่ามี"ผู้ใหญ่"บางคนเริ่มส่งสัญญาณผ่านสื่อว่าในวังไม่เอาตนแล้ว และจากการที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.กอ.รมน.ไปพบตนที่จีนเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เล่าให้ฟังว่า ต้นปี 2549 ถูกเรียกไปพบผู้ใหญ่คนหนึ่งชื่อย่อ"ส."ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยถนนสุขุมวิท ได้รับแจ้งว่ามีผู้ใหญ่อีก 2 คนกล่าวหาตนไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งพล.อ.พัลลภรับทราบมาแต่ยังไม่ได้ทำอะไร
"ต่อมาก็ได้มีการลงมือเอาชีวิตผม 2 ครั้งจนในที่สุดมาถึงกรณีคาร์บอมบ์ที่พล.อ.พัลลภยืนยันไม่เกี่ยวข้องแต่รับว่ามีการใช้คนของกอ.รมน. ซึ่งหากจำได้ จ่ายักษ์ที่ถูกจับได้ให้การว่าหากคาร์บอมบ์ไปสำเร็จ จะมีการปฏิวัติและคนที่จะเป็นนายกฯเป็นผู้ใหญ่ชื่อ "ส."
มุ่งจัดการข้อหาไม่จงรักภักดี
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นมีการกดดันให้กกต.ลาออก จนเหลือ 3 คน ซึ่งต่อมาผู้ที่ลาออกได้มาเล่าให้ตนฟังว่ามีผู้มากดดันให้ออกคือพล.ต."จ." และ พล.อ. "ส." ตนจึงบุกไปที่ทำงานของพล.อ."ส."ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้คำตอบว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นทหารพลร่ม ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยโกรธเคืองพล.อ."ส." แต่มีปัญหาจากกรณีที่ตนเชิญ"หม่องเอ"มาเยือนไทย แต่แล้วจากนั้นไม่นานวันที่ 25 เมษายน 2545 ก็มีการเคลื่อนไหวของทหารปะทะกันชายแดนพม่าจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 35 คน ทั้งที่กำลังเจรจาเรื่องยาเสพติดอยู่ แต่แล้วคนเหล่านี้ก็มามุ่งจัดการตนด้วยข้อกล่าวหาไม่จงรักภักดี ทั้งที่ตนจงรักภักดีล้านเปอร์เซ็นต์ และกลายเป็นข้ออ้างในการมุ่งล้มล้างรัฐบาลที่มีอำนาจเยอะจากผลพวงรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ตนไม่ได้ร่าง แต่นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นผู้นำร่างและมีนพ.ประเวศ วะสี เป็นเจ้าของแนวคิดในการปฏิรูปการเมืองและร่างรัฐธรรมนูญที่สามารถแก้ปัญหาการเมืองและรัฐบาลอ่อนแอได้
นัด26มี.ค.แฉต่อลึกกว่านี้
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวว่าขณะนี้ล่าสุดมีการปล่อยข่าวเรื่องแผนตากสินเพื่อล้มสถาบัน โดยพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รับลูก ซึ่งขอยืนยันว่าตนมีแต่หัวใจที่ทุ่มเทให้กับการทำงานจนทำให้ประชาชนเข้าใจว่าประชาธิปไตยกินได้จริงๆ แต่จะขอพูดถึงต้นตอของปัญหาและหนทางแก้ไขเพิ่มเติมในวันที่ 26 มีนาคมนี้
"คนที่เกี่ยวข้องที่ผมพูดถึงจะโกรธอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทุกฝ่ายก็มีวันตาย เราเอาชาติรอดดีกว่า เอาประเทศให้ผาสุขดีกว่า เอาความสบายพระราชหฤทัยของในหลวงดีกว่า แต่หาการเมืองไม่จบก็จะพูดต่อไปเรื่อยๆ พูดลึกขึ้นทุกวันว่าใครทำอะไร จะแฉทั้งหมด และยืนยันว่าเป็นความจริง ไม่ใช่โกหกรายวัน คนอย่างผมคุยรู้เรื่อง หากไม่อยากคุยรู้เรื่องผมก็ไม่รู้เรื่องด้วย ตอนนี้ผมมองข้ามช็อตนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว ต้องตามล้างคนที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา สำหรับเศรษฐกิจไม่รู้จะแก้อย่างไรแล้ว แต่หากประชาชนพร้อมผมก็พร้อมที่จะมาแก้ปัญหาให้"
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกน่ากลัว จากเคยเติบโต 5% ต่อปี แต่ปีนี้จะหดตัว -1% อเมริกาและยุโรปลด 20% ทำให้ถอยหลังไป 7 ปี คาดว่าถึงปี ค.ศ. 2011 จะมีคนตกงาน 30 ล้านคน สำหรับประเทศไทยขณะที่รัฐบาลมีโครงการต้นกล้าอบรมคนว่างงาน จ่ายเงินเดือน 4,500 บาท แต่ค่าโฆษณาโครงการ 180 ล้านบาท ไม่รู้ว่ากู้เงินเพื่อหาเสียงหรือไม่ ยิ่งกรณีนายอภิสิทธิ์บอกว่า 3-4 เดือนเศรษฐกิจจะฟื้นตัวนั้น ตนไม่เชื่อ เพราะขณะนี้หดตัว 2-3 % ส่งออกลดลง 25% กำลังการผลิตลดลงอีก 15-25 % คนชั้นกลางกำลังถูกเลิกจ้างงาน สินค้าเกษตรราคาตกต่ำไป 10% ของจีดีพี เชื่อว่ารัฐบาลอุ้มไม่ไหว ซึ่งในปี ค.ศ. 2010 จะมีหนี้สาธารณะพุ่งเกิน 50% ของจีดีพี ซึ่งหากจะให้ตนแก้ไขก็ต้องรอฟังทางออกวันที่ 26 มีนาคม "สมชาย"ขึ้นเวทีคุยพาปท.รอด
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่สนาม 700 ปีเชียงใหม่ นายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีคนเสิ้อแดงที่มาร่วมชุมนุมประมาณ 10,000 คน พร้อมปราศรัย ว่า ขอบคุณชาวเหนือที่เลือกนายกรัฐมนตรี 2 คน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ และตนเอง ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 คนเป็นคนเหนือที่ไม่ใช่คนโง่ นำพาประเทศไปรอดได้ สำหรับตนเคยจับมือผู้นำระดับโลกในการประชุมระดับใหญ่หลายเวทีแล้ว
"ช่วง 2 เดือนครึ่งที่เป็นนายกฯไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวังหรือเสียชื่อคนชียงใหม่ จากนี้ไปจะตั้งหน้าตั้งตาทำความดี เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป"นายสมชายกล่าว และว่า มีเรื่องลับจะบอกว่าระหว่างเป็นนายกฯได้พบกับสมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลายครั้ง ได้บอกเป็นการส่วนตัวว่าได้ติดตามการเมืองไทยตลอด และเปิดดูดีสเตชั่นทุกวันด้วย
แกนนำแดงยันไม่เลิกวีดีโอลิงก์
ก่อนหน้านี้ เวลา 13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 3,000 คน นำโดยนายมหวรรณ กะวัง ประธานกลุ่มคนรักทักษิณแห่งประเทศไทย เคลื่อนขบวนออกจากสถานีวิทยุชุมชน 105.5 เมกะเฮิร์ตซ์ หลังตลาดสดแม่เหียะ ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปตาม ถนนเลียบคลองชลประทาน มุ่งหน้าสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ทำให้การจราจรติดขัดยาวกว่า 2 กิโลเมตร
นายมหวรรณ กล่าวว่า กรณีนางเยาวลักษณ์ เสียชีวิตหลังพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินกับกลุ่มเสื้อแดงที่จ.เชียงรายนั้น พ.ต.ท.ทักษิณทราบว่าพี่สาวป่วยนาน และทราบจากญาติว่าให้ทำใจล่วงหน้าหลายวันแล้ว แต่การเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องการชุมนุมครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังยืนยันจะวีดีโอลิงก์กับผู้ชุมนุมตามเดิม
"สมชาย"ปลุกเสื้อแดงชม.รุก 26มี.ค.
วันเดียวกัน ที่โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลา 09.00 น. น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ขึ้นเวทีให้ความรู้สมาชิกเสื้อแดงเชียงใหม่ ในการอบรมอาสาสมัครเพื่อประชาธิปไตยกว่า 1,000 คน น.พ.เหวง กล่าวว่า เป็นระดมคนเสื้อแดงให้ไปรวมพลังครั้งใหญ่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลวันที่ 26 มีนาคมนี้ รู้สึกเสียใจคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงที่ระบุว่าจะนำกองกำลังมาประจำการที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อป้องกันข้าศึก แสดงว่ารัฐบาลมองว่าคนเสื้อแดงเป็นข้าศึก ดังนั้นก็จะมองรัฐบาลเป็นข้าศึกศัตรูเช่นกัน และจะต้องขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมออกไปให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในช่วงเช้านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์เข้ามาพูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บอกว่าจะโฟนอินเข้ามานั้น ไม่ได้ต่อสายให้ เพราะตอนนี้เป็นเวลาตีสองของต่างประเทศยังนอนอยู่ แต่มีความสุขดีและห่วงใยพวกเสื้อแดงเสมอ หากคนเชียงใหม่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าลืมไปช่วยกันรวมพลังกันให้มากๆ ในวันที่ 26 มีนาคมนี้
"มาร์ค"ขอทำหน้าที่ใช้คุณแผ่นดิน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มีนาคม ถึงการสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ และลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ว่าได้พิสูจน์ตลอดเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมาคือไม่ทะเลาะกับใคร รัฐบาลไม่เป็นคู่กรณีกับใคร เคารพและรับฟังทุกเสียงจริงๆ แม้แต่กลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยได้ติดตามข้อเรียกร้องและคดีความต่างๆ ตลอด ขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับสีเสื้อ แต่ต้องรักษาความถูกต้องในบ้านเมืองตามกฎหมาย
"ขอเชิญชวนทุกคนมาช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศ ถ้าผมแก้ปัญหาสำเร็จ ผลประโยชน์ไม่ได้ตกกับผม แต่ตกอยู่กับประชาชน ผมไม่เอาอะไรกลับบ้านไป และผมก็อยู่ตรงนี้ในเวลาที่จำกัด เพราะเดี๋ยวนี้รัฐธรรมนูญชัดเจนอยู่แล้ว ต่อให้คนสนับสนุนท่วมท้นอย่างไร ก็มีเวลาจำกัด ผมไม่คิดอะไรมากกว่านี้ ถือว่าผมมาทำหน้าที่ในการชดใช้บุญคุณที่แผ่นดินนี้มีให้กับผม ท่านที่ยังอยากที่จะแสดงออกคัดค้าน ผมเปิดโอกาส แต่ขอว่าอย่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ อย่าทำให้นโยบายหลายอย่างแทนที่จะไปถึงมือประชาชน ทำให้เศรษฐกิจฟื้นมาได้ๆ รับผลกระทบเท่านั้นเอง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
รับเคยเห็นเอกสารแผนตากสิน
นายอภิสิทธิ์ยังตอบคำถามผู้ดำเนินรายการถึงรายงานข่าวเรื่องแผนตากสินเพื่อล้มล้างรัฐบาลบ้างหรือไม่ ว่า คงไม่ใช่สิ่งที่ตนอยากจะมายืนยันว่ามี หรือไม่มีจริง แต่ก็เคยเห็นว่ามีเอกสาร มีคนที่อาจจะมีความคิดนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันกว้างขวางแค่ไหน ก็เป็นห่วงอยู่หากมีแนวคิดอย่างนั้น ถ้าทำอะไรที่มันรุนแรง ผิดกฎหมาย มันอาจจะสะใจคนบางกลุ่ม แต่มันเสียหายคนทั้งประเทศ ดังนั้นก็ไม่อยากให้ทำ
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงความคืบหน้าในการปฏิรูปการเมือง หลังสถาบันพระปกเกล้าตอบรับเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการนั้น ว่า คาดว่าจะมีโอกาสพูดคุยกับฝ่ายค้านในสัปดาห์นี้ ซึ่งเท่าที่ทราบฝ่ายค้านก็ต้องการเดินหน้าเรื่องการปฏิรูปการเมือง แต่ถ้ามีข้อเสนอที่ดีกว่าการให้สถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ ตนก็ยินดีรับฟัง
ปชป.แก้ลำตั้งกองทุนพอเพียงทั่วปท.
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มีนาคมนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการยกระดับทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หวนคืนกลับสู่อำนาจทางการเมืองเพื่อกลับมาทวงผลประโยชน์ของตัวเองกลับคืน ยืนยันว่าจะไม่ตอบโต้ทางการเมือง ไม่สร้างเงื่อนไขเพื่อเป็นการแบ่งแยก แต่จะใช้นโยบายคู่ขนานเพื่อสนับสนุนแนวนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ยากจน โดยตั้งเป็นกองทุนพอเพียงกระจายไปทั่วประเทศไม่แบ่งแยกพื้นที่ว่าเป็นสีแดงหรือสีเหลือง ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าร่วมนโยบายนี้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และกำลังเคลื่อนไหวการเมืองที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยอ้างว่าพึ่งองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยไม่ได้ ว่า พฤติกรรมของนายยงยุทธมีรูปแบบเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมไทยและไปเคลื่อนไหวเรียกร้องในต่างชาติ รวมทั้ง ยังสอดคล้องกับแผนตากสิน ที่ใช้สื่อและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อกดดันรัฐบาล
แกนนำแดงอยุธยาโวยถูกตาม
ด้านนางมยุรี เศวตาศัย แกนนำชมรมคนเสื้อแดงอยุธยา กล่าวว่า ล่าสุดถูกชายลึกลับ 2 คนขับรถยนต์กระบะเชฟโลเล็ต สีเทา ทะเบียน บธ 4390 พระนครศรีอยุธยา มาจอดใกล้บ้านและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตนตลอดเวลา เมื่อคนเสื้อแดงเดินไปถามว่ามาทำอะไร ชายทั้ง 2 คนกลับขับรถยนต์ไปอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามและคนของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่มาเฝ้าติดตามพฤติกรรม คิดว่าจะไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สภ.วังน้อย เเพราะเกรงจะเกิดอันตรายได้ และวันที่ 26 มีนาคมนี้กลุ่มคนเสื้อแดงจากพื้นที่ภาคกลางจะเข้าร่วมชุมนุมทำเนียบรัฐบาล
ผบช.น.สั่งคุมเข้มชี้มีสิ่งบอกเหตุ
ทางด้านพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความสงบกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมใหญ่จะเคลื่อนขบวนจากสนามหลวง ผ่านถนนราชดำเนินมายังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 26 มีนาคม ว่า เตรียมพร้อมแล้ว ยังคงใช้แผนเดิมเช่นเดียวกับการเคลื่อนขบวน ของนปช.ครั้งก่อน และระวังป้องกัน เหตุรุนแรง และเหตุแทรกแซงจากมือที่สาม ทั้งนี้เพื่อความไม่ประมาท เพราะสิ่งบอกเหตุจากการตรวจค้นพบอาวุธที่สนามหลวงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลอดจนพฤติกรรมของกลุ่มคนเร่ร่อนในบริเวณนั้น
"จะต้องตรึงกำลังบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง เพื่อไม่ให้มีการบุกเข้าไป ขณะนั้นจะเป็นช่วงที่มีงานกาชาดด้วยก็เป็นห่วงเช่นกันว่าจะไปกระทบต่อนักท่องเที่ยว แต่จะพยายามไม่ให้เกิดผลกระทบ"ผบช.น.กล่าว
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ได้เตรียมแผนอาร์มทองไว้หากตำรวจร้องขอกำลังทหารเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นแผนเดิมที่เคยปฏิบัติมา
"อัยการ"คุยผลเจรจาฮ่องกงราบรื่น
ด้านนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการ กล่าวหลังกลับจาก เจรจาร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ไทย - ฮ่องกง เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า การเจรจาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยอธิบายและแลกเปลี่ยนความเห็นในร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งกันและกัน มีประเด็นใดที่ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันและรับกันได้บ้าง ส่วนที่สองฝ่ายเห็นตรงกัน คือ หากมีความจำเป็นต้องส่งเอกสารหรือข้อมูลต่างๆ ระหว่างกัน จะส่งผ่านมายังผู้ประสานงานกลางของแต่ละฝ่าย ในส่วนขอไทย คืออัยการสูงสุด
"สำหรับประเด็นที่ยังรับกันไม่ได้ หรือมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่ก็จะทำเครื่องหมายวงเล็บเอาไว้เพื่อให้คณะทำงานแต่ละฝ่ายนำประเด็นกลับไปศึกษาและพิจารณา ก่อนจะนัดเจรจาร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯในครั้งต่อไป ได้รายงานความคืบหน้าวาจาให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดทราบแล้ว
ยังขัด2ปม"ระบบกม.-ภาษา"
เมื่อถามถึงประเด็นในร่างสนธิสัญญา ฯ ที่ไทย – ฮ่องกง มีความเห็นไม่ตรงกัน นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า 1.กฎหมายของฮ่องกง ใช้ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์(Common Law System) หรือกฎหมายจารีตประเพณี ขณะที่กฎหมายไทยใช้เป็นระบบประมวลกฎหมาย หรือระบบลายลักษณ์อักษร (Civil Law System) 2. ภาษา แม้ร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกงใช้ภาษาอังกฤษ เหมือนสนธิสัญญาฯ หรือกฎหมายประเทศอื่นๆ แต่เมื่อให้คณะทำงานในส่วนของฮ่องกงแปลความหมายให้คณะทำงานของฝ่ายไทยฟังก็พบว่ามีความหมายเฉพาะ แตกต่างไปจากความหมายในคำศัพท์ภาษาอังกฤษบ้าง เรื่องนี้เป็นไปตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
"ดังนั้น คณะทำงานของแต่ละฝ่ายจึงต้องนำประเด็นต่างๆ กลับไปพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน โดยคาดว่าในอนาคตร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย - ฮ่องกง จะมีทั้งหมด 3 ภาษา คือภาษาอังกฤษ ไทย และจีน"
เผยมีประเด็นส่งตัวผู้ร้ายชั่วคราว
นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป คือ คณะทำงานฝ่ายฮ่องกง ต้องการให้ร่างสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย - ฮ่องกง ระบุความผิดเป็นข้อหาให้ชัดเจน ประมาณ 46 ข้อหา เช่น ข้อหาลักทรัพย์ ,ฉ้อโกงทรัพย์ หรือเลี่ยงภาษี เป็นต้น ซึ่งฮ่องกงให้เหตุผลว่า กฎหมายฮ่องกงให้อำนาจเท่าที่ระบุไว้ แต่คณะทำงานของไทยต้องการให้ใช้ถ้อยคำกลางๆ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งหมด เช่น ผู้ใดกระทำผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป สามารถขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตามสนธิสัญญาฯดังกล่าวได้ เป็นต้น และยังพิจารณาในประเด็นรายละเอียดอื่นๆ เช่น การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนชั่วคราว หรือบางกรณีที่ยกเว้น ไม่สามารถส่งให้ได้ตามสนธิสัญญาฯ