WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 25, 2009

เล็งยื่น ป.ป.ช.เอาผิด “เทือก”

ที่มา ไทยรัฐ

วันที่ 24 มี.ค.เวลา 09.15 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการประเมินผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มีประชาชนส่งเอกสารที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการส่อไปในทางผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญให้กับพรรค โดยเป็นหนังสือที่ นร. 0405/(ลร 1)/ว./600 ถึง รมว.วัฒนธรรม ลงนามโดยนายสุเทพ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2552 เพื่อให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 19 คน ไปช่วยราชการ ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 (1) และ 268 โดยตนจะนำหนังสือดังกล่าวไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 25 มี.ค. เวลา 10.00 น. เพราะคนระดับนายสุเทพกฎหมายแค่นี้จะไม่รู้เชียวหรือ คิดว่ารู้แต่ลุแก่อำนาจ คิดว่ากระทำได้ ทำให้ข้าราชการกระทรวงต่างๆกระอักกระอ่วนใจ

ส่ง กกต.ยุบ ปชป.ไซฟ่อนเงิน

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งข้อสังเกตเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท ว่าดีเอสไออาจทำข้อมูลรั่วให้ฝ่ายค้าน จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้นั้น ก่อนจะมีการอภิปราย พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าเป็นข้อมูลเก่า กุข้อมูลขึ้นมา แต่วันนี้กลับร้อนตัว กระวนกระวายจนออกมาตีโพยตีพาย ดังนั้นสัปดาห์หน้าตนและฝ่ายกฎหมายจะเดินทางไปที่กรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบการได้มาของเงิน 258 ล้านบาท ว่ามีการชำระภาษีถูกต้องหรือไม่ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับข้อมูลจากดีเอสไอ วันนี้รัฐบาลกำลังหาแพะ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าร่างคำร้องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ร่างด้วยมือตัวเอง จะนำไปยื่นต่อ กกต. โดยมีเดิมพันด้วยการยุบพรรคประชาธิปัตย์

“เฉลิม” เผยได้ข้อมูลจาก พล.ต.

ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลที่นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ดีเอสไอไม่เคยนำข้อมูลมาให้ และไม่เคยขอข้อมูลจากดีเอสไอ เพราะเรื่องนี้นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมสภาฯเมื่อปีที่ผ่านมา และนายประจวบ สังข์ขาว กรรมการผู้จัดการบริษัทเมซไซอะ คับแค้นใจและกลัวถูกฆ่าตาย จึงไปบอกข้อมูลแก่อดีตนายทหารยศ พล.ต. ข้อมูลที่นำมาอภิปรายจึงมาจากอดีตนายทหารยศ พล.ต. ที่พรรคประชาธิปัตย์รู้จักดี พรรคประชาธิปัตย์ควรดูตัวเองว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่ควรก้าวก่ายดีเอสไอ เพราะเป็นการสกัดกั้นการทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมโดยไม่มีหลักธรรมาภิบาล ที่พยายามตรวจสอบ เพราะรู้ว่าดีเอสไอส่งเรื่องถึง กกต. เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการแทรกแซงอธิบดีดีเอสไอ จะตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯ แน่

จวก กกต.ออกข่าวมีปมแอบแฝง

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ขอให้ รมว.ยุติธรรม ทำงานตรงไปตรงมา และหันไปดูปัญหาในกระทรวงของตัวเองให้ดี ที่มีผู้หญิงบางคนทำตัวใหญ่คับกระทรวง ออกมาตะแล๊ดแต๊ดแต๋ แค่นี้มันก็มากพอแล้ว กรณีดีเอสไออย่าทำให้ไฟมันลามทุ่ง ส่วนกรณีที่มี กกต.บางคนระบุว่าดีเอสไอส่งเอกสารไม่ครบถ้วนนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไม กกต. ถึงออกมาให้ข่าว ทั้งที่สามารถโทรศัพท์ประสานได้ กกต.ต้องทำงานตรงไปตรงมา ฝ่ายค้านไม่อยากจะสัญจรเดินสายไปอภิปรายหน้า กกต. โดยในวันที่ 26 มี.ค.นี้ นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะยื่นข้อมูลเพิ่มเติมให้ กกต. เมื่อถามว่า กรณีโพลระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้คะแนนการอภิปรายไม่ถึง 50% จะลาออกจากประธาน ส.ส.หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ มาบอกว่าพรรคเพื่อไทยค้านไม่เป็น แล้วเป็นอย่างไร สุดท้ายพรรคเพื่อไทยชนะ พรรคประชาธิปัตย์อยู่ไม่ได้ แน่จริงก็ยุบสภาฯ

“สดศรี” ขู่แจ้งความกล่องลับดีเอสไอ

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองเปิดเผยว่า ทาง กกต.ได้ทำหนังสือถึงดีเอสไอ เพื่อขอให้ ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดกล่องเอกสารที่ส่งมาถึง กกต.กรณีให้ตรวจสอบเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ และการใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง หากภายในวันที่ 25 มี.ค. ทางดีเอสไอยังไม่ส่งเจ้าหน้าที่มา กกต.จะยังไม่เปิดและจะแจ้งความไปที่สถานีตำรวจ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบว่ากล่องนั้นเป็นของใคร ฉะนั้นถ้าไม่อยากมากเรื่องก็ขอให้รีบส่งเจ้าหน้าที่มา อย่างไรก็ตาม เอกสารที่ส่งมานั้น กกต.ต้องดูว่ามีสำนวนสรุปการสอบสวนที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์กระทำผิดตาม พ.ร.บ. พรรคการเมืองมาให้ กกต.หรือไม่ แต่ถ้าเปิดกล่องแล้วพบว่ามีแค่เพียงสำเนาเช็คใบจดทะเบียนบริษัท แต่ไม่มีการสอบสวนใดๆส่งมาเลย เราก็ไม่สามารถสรุปประเด็นเพื่อดำเนินการต่อได้ หากเป็นเช่นนี้เราต้องส่งคืน เพราะ กกต.ไม่ได้มีหน้าที่สรุปสำนวนให้กับหน่วยงานไหน และไม่มีกฎหมายข้อไหนที่เราต้องทำงานให้ใคร

โดนวางกับดักยัดข้อหาเอกสารหลุด

นางสดศรีกล่าวว่า นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่เอกสารจะหลุดไปจาก กกต. ดังนั้น ประเด็นที่ว่าพรรคเพื่อไทยได้เอกสารไปนั้นมาจากใคร คงไม่มีประเด็นว่าได้จาก กกต.แต่จะได้จากใครนั้นยืนยันไม่ได้ แต่มาจนถึงวันนี้กล่องยังผนึกอยู่เหมือนเดิม ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีการส่งเอกสารมาให้ กกต.ก่อนวันอภิปรายเพียง 1 วันถ้าเผลอไปเปิดดูก่อนและมีการกล่าวหาว่าเอกสารหลุดไปกกต.ก็จะถูกมองว่า เอกสารนั้นหลุดไปจาก กกต.ได้ เราไม่ยอมที่จะเดินตามเส้นที่ใครขีดไว้

ปลัด ยธ.สั่งสอบข้อมูลดีเอสไอรั่ว

วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ภายหลังนาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีสำนวนคดีไซฟ่อนเงินบริษัทแห่งหนึ่ง (ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ) ซึ่งเป็นคดีในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รั่วไหลไปยังบุคคลภายนอก หากเป็นความจริงจะส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ ตนจึงสั่งการให้นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกำกับดูแลดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและกำชับให้ รายงานผลมายังกระทรวงยุติธรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้ง ยังสั่งการให้กองการเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงจากการถอดเทปคำอภิปรายไม่ไว้ วางใจในประเด็นที่เกี่ยวพันกับคดีดังกล่าว เพื่อตรวจสอบอีกทางหนึ่งว่ามีข้อมูลคดีบางส่วนรั่วไหลจริงตามที่มีการกล่าวอ้างจริงหรือไม่

ดีเอสไอยันส่งแฟ้มสอบสวนครบ

พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีไซฟ่อนเงินบริษัททีพีไอ ยืนยันว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนหลักฐานคดีให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครบถ้วน ข่าวที่ระบุว่าอาจมีสำนวนการสอบสวนบางแฟ้มสูญหายนั้นไม่เป็นความจริงแต่อาจจะเกิดความเข้าใจสับสนเนื่องจากเอกสารปะหน้าระบุว่าสำนวนการสอบสวนทั้งสิ้นรวม 8 แฟ้ม โดยกล่องที่ 1 บรรจุแฟ้มที่ 1-4 และกล่องที่ 2 บรรจุแฟ้มที่ 5-7 ส่วนแฟ้มเอกสารที่มีการเข้าใจว่าขาดหายนั้น คงเกิดจากตนได้แยกเป็นแฟ้มที่ 2 และ แฟ้มที่ 2/1 ทาง กกต.อาจเข้าใจว่ามีเพียงแฟ้มที่ 2 จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอพร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมเป็นพยานในการเปิดกล่องเอกสารสำนวนคดีที่ได้จัดส่งไปให้ กกต.ก่อนหน้านี้

“ชวน” ยืดอกพร้อมรับการสอบสวน

วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องให้ กกต.สอบยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทว่า ต้องถามคณะกรรมการบริหารพรรค ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ทุกกระบวนการตรวจสอบเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามีร่องรอยมีเหตุผล มีหลักฐานอะไรที่เห็นว่าพรรคการเมืองใดกระทำผิด อีกฝ่ายหนึ่งจะตรวจสอบก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ก็เป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะชี้แจงต่อไป แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงข้อครหาเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์ ก็อยู่ใต้กฎหมายเหมือนพรรคอื่น เมื่อถามว่า ถ้าเทียบเคียงกับในอดีตที่พรรคเคยถูกร้องเรียนให้ยุบพรรค ตอนไหนหนักกว่ากัน นายชวนตอบว่า ไม่ทราบจริงๆ แต่ตอนที่พรรคไทยรักไทยร้องเพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องที่เรารู้อยู่ว่าไม่มีเหตุผล เป็นลักษณะการกล่าวหาและสร้างหลักฐานขึ้นมาเพื่อเป็นประเด็นกล่าวหา

เชื่อ “เทพเทือก” เตรียมข้อมูลรับมือ

เมื่อถามว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคได้เตรียมข้อมูลชี้แจงต่อ กกต.อย่างไร นายชวนตอบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คงเตรียมอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์หรือนายสุเทพในเรื่องนี้ แต่ได้ฟังการอภิปรายฯ ในสภาจากนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค รวมทั้งคนอื่นที่ชี้แจงในกรณีดังกล่าว ก็ชี้แจงได้ดีทุกเรื่อง ไม่คิดว่าใครจะทำได้ถึงขนาดนี้ ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ขอรอดูว่าฝ่ายค้านยังติดใจที่จะร้องเรียนก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้โดยชอบธรรม เมื่อถามว่า สงสัยหรือไม่ว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปรายมาจากดีเอสไอ นายชวนตอบว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้าถามความรู้สึกก็เชื่อว่าออกมาจากเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่ต้องดูคือระเบียบวินัยของเจ้าหน้าที่จะต้องทำอย่างไร ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรอย่าไปบิดเบือนก็แล้วกัน

หนุนสอบดีเอสไอปูดข้อมูลให้ใคร

เมื่อถามว่า เหตุดังกล่าวทำให้รู้ว่าดีเอสไอกำลังเลือกข้างใช่หรือไม่ นายชวนตอบว่า ความจริงรู้มาตั้งแต่ต้น ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแล้วว่าเจ้าหน้าที่ในดีเอสไอ หรือหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม มีทั้งคนที่ซื่อตรงและไม่ซื่อตรงประกอบกันอยู่ และดีเอสไอ ก็ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ก็มีคนดีและคนประเภทที่ไม่ซื่อตรงก็เป็นที่รู้กัน ดังนั้น คนที่ไม่ซื่อตรงก็สามารถทำบางอย่างที่ไม่ถูกต้องได้ เห็นด้วยกับการที่เคยมีคนเสนอให้กระทรวงยุติธรรมบูรณาการกรมต่างๆภายในกระทรวง และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ไม่ได้สอบเพื่อปกป้องพรรคการเมือง หรือลงโทษพรรคการเมือง แต่สอบเพื่อให้รู้ว่ากระบวนการทำงานของดีเอสไอมีอะไรที่ต้องระมัดระวังว่าทำอะไรถูกหรือผิดต่อระเบียบวินัยของข้าราชการหรือไม่ ไม่ใช่สอบว่าข้อเท็จจริงรั่วไปแล้วจะเสียหายหรือ ไม่เสียหายกับใคร แต่สอบการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าต้องยึดหลักอะไร เหตุที่เกิดขึ้นใครเป็นผู้ละเมิดกฎเกณฑ์ดังกล่าว.