ที่มา ไทยรัฐ
ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุให้มีคนงานถูกเลิกจ้างจำนวนมาก ไม่เฉพาะในบ้านเราเท่านั้น คนงานไทยที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฯลฯ จำนวนไม่น้อยที่ถูกเลิกจ้างเพราะนายจ้างปิดกิจการ ต้องบากหน้ากลับมาหากินในเมืองไทย
จึงเป็นช่องทางให้สายหรือนายหน้าจัดหางานเถื่อนใช้เป็นเครื่องมือหลอกลวงคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ โดยอ้างตำแหน่งงานรายได้ดีดึงดูดความสนใจ
ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2549-2551) มีคนหางานเข้าร้องทุกข์กรณีถูกสาย นายหน้า หรือบริษัทจัดหางาน หลอกลวงไปทำงานต่างประเทศถึง 8,360 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 520,224,148 บาท
ถึงขนาดที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในฐานะรองอัยการจังหวัดอุดรธานี ทรงมีพระดำรัสผ่าน พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ ประธานกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม วุฒิสภา ถึงความห่วงใยพสกนิกร โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดอุดรธานี หลังทรงอ่านสำนวนคดีแล้วพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการหลอกลวงคนหางาน เพื่อจัดส่งไปทำงาน ต่างประเทศ
นี่คือโจทย์ใหญ่ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะต้องแก้ไข
รูปแบบการหลอกลวงที่มักพบบ่อย ได้แก่ หลอกให้สมัครไปทำงานต่างประเทศ เมื่อได้เงินไปแล้วหลบหนี ส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศแล้วไม่มีงานให้ทำ โดยทอดทิ้งให้ตกระกำลำบากในต่างประเทศ จัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ แต่ได้ค่าจ้างและสวัสดิการไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ให้คนหางานเดินทางไปต่างประเทศในลักษณะนักท่องเที่ยว แต่ไปลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ชักชวนผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยให้จดทะเบียนสมรสกับคนสัญชาตินั้นๆ เพื่อให้สะดวกในการเข้าเมือง เมื่อเดินทางไปถึงแล้วไม่มีงานให้ทำ หรือบังคับให้ขายบริการทางเพศ
หลอกลวงว่ามีงานดีค่าจ้างแพง แต่เมื่อคนหางานหลงเชื่อเดินทางไป กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี ถูกกักขังทารุณกรรม บังคับให้ทำงานเยี่ยงทาส เป็นต้น
ล่าสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทางการบาห์เรนได้กวาดล้างแรงงานต่างด้าว ที่ลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย สามารถจับกุมแรงงานต่างชาติได้กว่า 100 คน ปรากฏว่าเป็นคนงานไทยถึง 90 กว่าคน และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ลักลอบเข้าไปทำงานตามร้านอาหาร ร้านเสริมสวย นวดสปา และเป็นแม่บ้าน บางส่วนทำงานในผับบาร์และลักลอบขายบริการทางเพศ
ปัญหานี้มิใช่เพิ่งเกิดแต่เป็นปัญหาซ้ำซาก เมื่อปลายปี 2549-ต้นปี 2550 ทางการบาห์เรนเคยจับกุมแรงงานไทยกว่า 500 คน เนื่องจากเข้าไปทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำงานบริการที่ผิดกฎหมาย (ค้าประเวณี) และอยู่เกินวีซ่า
ที่สำคัญ ขณะนี้ในภาคอีสานมีบริษัทจัดหางานเถื่อนไปหลอกคนหางานว่าจะจัดส่งไปทำงานที่ประเทศแคนาดา ทั้งๆที่งานยังไม่มี แถมใครจะไปต้องเรียนภาษาก่อน โดยเสียค่าเรียนถึง 230,000 บาท
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ไม่ตกเป็นเหยื่อคือ ต้องไม่หลงเชื่อคำชักชวนหรือกล่าวอ้างที่เกินจริงของมิจฉาชีพเหล่านี้ อย่ารีบร้อนจ่ายเงินค่าบริการ ที่สำคัญ คือควรสอบถามข้อมูลหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน หากจะไปทำงานต่างประเทศ ก็ควรไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะนอกจากไม่ถูกหลอกลวงแล้ว ยังจะได้รับความคุ้มครองและความช่วยเหลือ ในกรณีที่ประสบปัญหาในต่างประเทศอีกด้วย และหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามได้ ที่สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694
ปัญหาการหลอกลวงคนหางาน คนที่รับผิดชอบโดยตรงคือนายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ที่ตอนนี้ยังสนุกสนานอยู่กับการแจกเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท จนลืมไปว่างานในกระทรวงยังมีอีกมากมาย
จึงอยากจะฝากคำเตือนไปถึง รมว.ไพฑูรย์ว่า หากคิดว่าแค่ แจกเช็คแล้วทุกอย่างจะจบก็ถือว่าผิดมหันต์.
“ลมสลาตัน”