ที่มา เดลินิวส์
ดาวประกายพรึก
กษิต ภิรมย์ รมต.สายล่อฟ้า ได้เสียงไว้วางใจโหล่สุด 237 เสียง เสียงไม่ไว้วางใจสูงสุด 184 เสียง แต่ไม่ตกเก้าอี้หรอก เพราะเค้าวัดกันที่เสียงไม่ไว้วางใจต้องเกินกึ่งหนึ่งของ 447 คนในวันนั้น ซึ่งเท่ากับ 224 ถึงจะชะตาขาด
แต่แค่นี้ก็พอ แม้แต่พวกเดียวกันยังไม่เอา จะอยู่ไปทำไม
ที่ต้องบันทึกไว้คือ ส.ส. วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย อายุ แค่ 26 แต่เธอเป็นน้องใหม่ร้าย บริสุทธิ์ อุตส่าห์ไปหาภูมิหลังว่า ตอนนายกษิตเป็นทูตเคยชกต่อยกับนักเรียนไทย รวมทั้งข้าราชการและทูตด้วยกันเอง กับพระเจ้า ก็แขวะไม่เว้น
“ไม่ต้องเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง แต่ควรมีคุณสมบัติเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ ไม่ใช่เอาคนปิดสนามบินมาเป็น รมว.การต่างประเทศ ต้องไปจ้างสื่อต่างชาติมาแก้ภาพลักษณ์ให้เสียเงินทำไม แค่ปลดนายกษิตก็พอแล้ว”
เสียงใส ๆ กลางสภา ใช่เลย
ที่ ส.ส.หญิงพรรคตรงข้ามด่าว่าเธออ่านตามสคริปต์ไร้สมองแสดงว่าคนด่า ไม่รู้เรื่องว่า การพูดที่ดีต้องมีสคริปต์ อ่านกระดาษนี่ล่ะถือเป็นการให้เกียรติคนฟัง ทำการบ้านมาแต่ใครเขี้ยว ก็ดูแค่หัวข้อ แล้วว่าต่อ ไม่ใช่ ปาว ๆ ไปเรื่อย คนด่านั่นล่ะ สมควรหันมาดูตัวเอง เท่าที่จำได้ ยังนึกไม่ออกเลยว่า เธอพูดแบบโชว์สมองอะไรบ้าง
นอกจากปล่อยคำโปกฮา ท่านประธานสภา ไม่แข็ง เลยดัง ไม่ใช่หรือ
อะไรไม่ว่า ที่ ส.ส.วิสาระดี พูดถึงกษิตว่า ทำลายหน้าตาของประเทศ ผิดตรงไหน เพราะคนนี้ บอกทั้งโลกว่า การยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สร้างความเสียหายให้ชาติ 3 แสนล้าน ภาพลักษณ์ไทยป่นปี้ เป็นเรื่อง สนุกมาก อาหารดี ดนตรีเพราะ จะสำนึกสักนิดก็ไม่มี ยืนยันหนักแน่นตลอดว่า
สิ่งที่ทำ ถูกต้อง เป็นการกู้ชาติ !!!
ใช่แต่เรื่องปิดสนามบิน เรื่อง ปราสาทพระวิหาร ก็เช่นกัน เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ปลุกระดมให้คนคลั่งชาติ ต้องยึดคืนลูกเดียว ด่า “ฮุนเซน” เป็นกุ๊ยข้างถนน เฮงซวย บ้า ๆ บอ ๆ แต่พอได้อำนาจ ไม่กล้าซักแอะ แถมยังคืนเทวรูปให้เขมรอีกนับสิบชิ้น อย่างนี้ปลิ้นปล้อนมั้ยเล่า???
ขณะที่ นพดล ปัทมะ อดีต รมว.บัวแก้ว แค่ไปเซ็นเอ็มโอยูยอมให้เขมรขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ถูกดำเนินคดีอาญา ถูกเล่นงานจนตกเก้าอี้ กลายเป็นคนขายชาติ จนทุกวันนี้
ครม.สมัคร ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ทำผิด ศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขนาดถูกนักนิติศาสตร์ ตั้งคำถามเพราะเขียน รธน.ใหม่ เพิ่ม คำ “อาจจะ” จากเดิม “ทำให้” เสียอธิปไตย นักวิชาการคลั่งชาติ, 40 ส.ว.ลากตั้ง เอาไปโฆษณาชวนเชื่อว่า ไทยสงวนสิทธิที่จะเอาปราสาทพระวิหารคืนจาก “ศาลโลก” ได้
นี่โกหกชัด ๆ ถ้ามีหลักฐานใหม่จริง ก็ต้องยื่นตั้งแต่ 10 ปีแรกตามข้อบัญญัติแล้ว ไม่ใช่ปล่อยมา 50 ปี
น่าเศร้าตรงที่คนไทยเชื่อตาม อีกข้อมูลที่ จตุพร พรหมพันธุ์ เอามาเปิด ในศึกอภิปรายเที่ยวนี้ว่า กัมพูชาได้สร้างถนนล้ำเข้ามาในเขตไทยถึง 250 เมตร ในเขตทับซ้อน 4.5 กม. (ซึ่ง ไทยยืนยันเป็นของไทย) บริเวณทางขึ้นวัดสิกขาคีรีสวาระและ ด้านภูมะเขือ กองกำลังสุรนารีทำหนังสือถึงกษิต 9 ครั้ง ทำไมเพิ่งงัวเงียตื่น!!!
ทำไม สื่อ, นักวิชาการ, 40 ส.ว. ลากตั้ง ไม่แม้แต่จะหาข้อเท็จจริงมาให้สังคมได้รู้บ้าง อย่าว่าจะออกไปเดินขบวนขับไล่รัฐบาลที่ปล่อยเขมรละเมิดอธิปไตย ซึ่งร้ายแรงยิ่งกว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นไหน ๆ
ก็นั่นแหละ เมื่อยังไร้ นิติธรรม นิติรัฐ ใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน ปาไข่ปรับ 1,000 บาท แต่ยึดสนามบินปรับ 500 บาท พวกหนึ่งยังคงทำอะไรผิดหมด อีกพวกถูกหมด
แล้วจะหาความสันติสุขจากไหน คนปิดสนามบินถึงลอยนวล และยังเป็นเสนาบดีได้ไง.
แต่แค่นี้ก็พอ แม้แต่พวกเดียวกันยังไม่เอา จะอยู่ไปทำไม
ที่ต้องบันทึกไว้คือ ส.ส. วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย อายุ แค่ 26 แต่เธอเป็นน้องใหม่ร้าย บริสุทธิ์ อุตส่าห์ไปหาภูมิหลังว่า ตอนนายกษิตเป็นทูตเคยชกต่อยกับนักเรียนไทย รวมทั้งข้าราชการและทูตด้วยกันเอง กับพระเจ้า ก็แขวะไม่เว้น
“ไม่ต้องเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง แต่ควรมีคุณสมบัติเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ ไม่ใช่เอาคนปิดสนามบินมาเป็น รมว.การต่างประเทศ ต้องไปจ้างสื่อต่างชาติมาแก้ภาพลักษณ์ให้เสียเงินทำไม แค่ปลดนายกษิตก็พอแล้ว”
เสียงใส ๆ กลางสภา ใช่เลย
ที่ ส.ส.หญิงพรรคตรงข้ามด่าว่าเธออ่านตามสคริปต์ไร้สมองแสดงว่าคนด่า ไม่รู้เรื่องว่า การพูดที่ดีต้องมีสคริปต์ อ่านกระดาษนี่ล่ะถือเป็นการให้เกียรติคนฟัง ทำการบ้านมาแต่ใครเขี้ยว ก็ดูแค่หัวข้อ แล้วว่าต่อ ไม่ใช่ ปาว ๆ ไปเรื่อย คนด่านั่นล่ะ สมควรหันมาดูตัวเอง เท่าที่จำได้ ยังนึกไม่ออกเลยว่า เธอพูดแบบโชว์สมองอะไรบ้าง
นอกจากปล่อยคำโปกฮา ท่านประธานสภา ไม่แข็ง เลยดัง ไม่ใช่หรือ
อะไรไม่ว่า ที่ ส.ส.วิสาระดี พูดถึงกษิตว่า ทำลายหน้าตาของประเทศ ผิดตรงไหน เพราะคนนี้ บอกทั้งโลกว่า การยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สร้างความเสียหายให้ชาติ 3 แสนล้าน ภาพลักษณ์ไทยป่นปี้ เป็นเรื่อง สนุกมาก อาหารดี ดนตรีเพราะ จะสำนึกสักนิดก็ไม่มี ยืนยันหนักแน่นตลอดว่า
สิ่งที่ทำ ถูกต้อง เป็นการกู้ชาติ !!!
ใช่แต่เรื่องปิดสนามบิน เรื่อง ปราสาทพระวิหาร ก็เช่นกัน เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ปลุกระดมให้คนคลั่งชาติ ต้องยึดคืนลูกเดียว ด่า “ฮุนเซน” เป็นกุ๊ยข้างถนน เฮงซวย บ้า ๆ บอ ๆ แต่พอได้อำนาจ ไม่กล้าซักแอะ แถมยังคืนเทวรูปให้เขมรอีกนับสิบชิ้น อย่างนี้ปลิ้นปล้อนมั้ยเล่า???
ขณะที่ นพดล ปัทมะ อดีต รมว.บัวแก้ว แค่ไปเซ็นเอ็มโอยูยอมให้เขมรขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลก ถูกดำเนินคดีอาญา ถูกเล่นงานจนตกเก้าอี้ กลายเป็นคนขายชาติ จนทุกวันนี้
ครม.สมัคร ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ทำผิด ศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขนาดถูกนักนิติศาสตร์ ตั้งคำถามเพราะเขียน รธน.ใหม่ เพิ่ม คำ “อาจจะ” จากเดิม “ทำให้” เสียอธิปไตย นักวิชาการคลั่งชาติ, 40 ส.ว.ลากตั้ง เอาไปโฆษณาชวนเชื่อว่า ไทยสงวนสิทธิที่จะเอาปราสาทพระวิหารคืนจาก “ศาลโลก” ได้
นี่โกหกชัด ๆ ถ้ามีหลักฐานใหม่จริง ก็ต้องยื่นตั้งแต่ 10 ปีแรกตามข้อบัญญัติแล้ว ไม่ใช่ปล่อยมา 50 ปี
น่าเศร้าตรงที่คนไทยเชื่อตาม อีกข้อมูลที่ จตุพร พรหมพันธุ์ เอามาเปิด ในศึกอภิปรายเที่ยวนี้ว่า กัมพูชาได้สร้างถนนล้ำเข้ามาในเขตไทยถึง 250 เมตร ในเขตทับซ้อน 4.5 กม. (ซึ่ง ไทยยืนยันเป็นของไทย) บริเวณทางขึ้นวัดสิกขาคีรีสวาระและ ด้านภูมะเขือ กองกำลังสุรนารีทำหนังสือถึงกษิต 9 ครั้ง ทำไมเพิ่งงัวเงียตื่น!!!
ทำไม สื่อ, นักวิชาการ, 40 ส.ว. ลากตั้ง ไม่แม้แต่จะหาข้อเท็จจริงมาให้สังคมได้รู้บ้าง อย่าว่าจะออกไปเดินขบวนขับไล่รัฐบาลที่ปล่อยเขมรละเมิดอธิปไตย ซึ่งร้ายแรงยิ่งกว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเป็นไหน ๆ
ก็นั่นแหละ เมื่อยังไร้ นิติธรรม นิติรัฐ ใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน ปาไข่ปรับ 1,000 บาท แต่ยึดสนามบินปรับ 500 บาท พวกหนึ่งยังคงทำอะไรผิดหมด อีกพวกถูกหมด
แล้วจะหาความสันติสุขจากไหน คนปิดสนามบินถึงลอยนวล และยังเป็นเสนาบดีได้ไง.
ดาวประกายพรึก