WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 23, 2009

นายกฯ ยังไม่ดึง “ประชา” ร่วม รบ. ปลื้มเสียงไว้ วางใจ

ที่มา ไทยรัฐ

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีมีข่าวว่าการปรับ ครม.ครั้งหน้าจะดึง ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่ม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ยกมือสนับสนุน เข้าร่วมรัฐบาลด้วยว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินแต่งตัวรอเป็นรัฐมนตรีอยู่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่าขอบคุณที่สนับสนุนรัฐบาล แต่ต้องนำไปคุยกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลก่อน

เมินโพล-ป้อง กษิตทำงานดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลสำรวจความเห็นประชาชนที่ส่วนใหญ่เห็นว่าควรปรับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศออกจากตำแหน่งนั้น นายอภิสิทธิ์ตอบว่า พร้อมที่จะรับฟังและนำไปประเมิน แต่เห็นว่านายกษิตทำงานได้ดี และมีความระมัดระวังมากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลวันที่ 26 มีนาคมนี้ นายกรัฐมนตรีตอบว่าให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงดูแล โดยยังคงมีจุดยืนเดิมในการรักษากฎหมายและหลีกเลี่ยงการปะทะ

สัปดาห์หน้านัดถกปฏิรูปการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปฏิรูปการเมืองได้มีการหารือกับฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ยังไม่ได้คุยเพราะบรรยากาศยังไม่เอื้อ แต่สัปดาห์หน้าจะได้คุยแน่นอน เมื่อถามว่า แต่จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านมีท่าทีไม่เห็นด้วย นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านเองก็อยากให้เดินหน้า และต้องถามกลับไปว่า ถ้ามีข้อเสนอที่ดีกว่าก็ยินดี ตนยึดที่ตัวสถาบันมากกว่าตัวบุคคลและเป็นสถาบันที่อิงอยู่กับฝ่ายนิติบัญญัติ และยินดีเป็นตัวกลางประสาน

นายกฯสั่งเร่งพัฒนาพื้นที่ภาคใต้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือในเรื่องภาคใต้และจะเน้นเรื่องการพัฒนาที่ขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) ไปรวบรวมโครงการและปัญหาอุปสรรค ที่จะกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ เพราะการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจะช่วยให้งานเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความรวดเร็วในการดำเนินการ อีกทั้งยังจะช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานด้านความมั่นคงได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบว่าจะมีเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่เข้าสู่วาระการประชุมหรือไม่ เพราะรัฐบาลกำลังประเมินผลการบังคับใช้กฎหมาย และจะมีการสรุปในช่วงเดือนเมษายนนี้ และตนมีความตั้งใจที่จะลงไปดูปัญหาในพื้นที่ด้วยตัวเอง ผมตั้งใจว่าจะลงพื้นที่ให้ครบทุกภาค รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องดูเวลาที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะลงไปในช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาฯ รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็จะลงพื้นที่อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาดังกล่าว

ปลื้มสภาฯลงมติไว้วางใจให้อยู่ต่อ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พูดออกรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ได้ติดตามเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือว่าเป็น กระบวนการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายค้านได้ ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจตนและรัฐมนตรีอีก 5 ท่าน และขอขอบคุณ ส.ส.ได้ลงมติไว้วางใจตนและรัฐมนตรีทั้ง 5 ท่าน ให้ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ตลอดระยะเวลา 2 วันที่มีการอภิปรายนั้น ได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงที่เป็นข้อสงสัยคำถามของเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านให้มากที่สุด ให้ครอบคลุมที่สุด เท่าที่เวลาจะอำนวยได้ คิดว่า หลายคนที่ได้ติดตามการอภิปรายคงได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย ได้รับทราบคำถาม คำสงสัย หรือคำกล่าวหาของทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันตนและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้พยายามชี้แจงคำถาม หรือข้อกล่าวหาเหล่านั้นให้ดีที่สุด ซึ่งจะครอบคลุมถึงนโยบายรัฐบาลในหลายเรื่องด้วยกัน กระบวนการนี้เป็นกระบวนการ ที่มีคุณค่าในระบอบประชาธิปไตย ประเด็นใดซึ่งเป็นข้อท้วงติงของเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้าน ที่ตนเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็จะนำเอากลับมา และจะให้ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี รวบรวมประเด็นเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคง หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ได้มีการหยิบยกในการอภิปรายขึ้นมา

ย้ำรัฐบาลเป็นห่วงคนตกงาน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลก็เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้ที่มาที่อิมแพค เมืองทองธานีก็เป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล คิดว่าตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีความห่วงใยว่าเมื่อเศรษฐกิจหดตัว เพราะว่าเศรษฐกิจโลกประสบกับวิกฤติรุนแรง สิ่งที่ห่วงที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่ตกงาน หรือไม่มีงานทำ หรือกำลังกังวลว่าจะตกงาน รวมไปถึงนิสิต นักศึกษา ทั้งหลายที่กำลังจะจบการศึกษา เพราะฉะนั้น นอกจากการที่จะประคับประคองหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว นโยบายหรือโครงการสำคัญข้อหนึ่งของรัฐบาลคือการดูแลในเรื่องของการที่จะรองรับปัญหานี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานก็ทำงานต่อเนื่อง ทราบว่าจะมีการจัดวันนัดพบแรงงาน กรุงเทพมหานครจัดไปแล้ว ที่ผ่านมาสามารถจัดหางานได้ทันทีจำนวนไม่น้อย และจะเดินสายในต่างจังหวัดต่อไป

ต้นกล้าอาชีพช่วยเหลือผู้ตกงาน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลได้จัดโครงการเป็นพิเศษขึ้นมาตามงบประมาณกลางปีหรืองบเพิ่มเติม ที่เราได้ผ่านสภาฯ มา 6,900 กว่าล้านบาท เพื่อที่จะมาทำโครงการที่เราเรียกว่า ต้นกล้าอาชีพสิ่งที่เกิดขึ้นคือเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนตั้งแต่อายุ 18-60 ปี ที่สนใจสามารถสมัครเข้ามาเพื่อรับการฝึกอบรม การฝึกอบรมจะมีหลากหลาย จะเป็นทักษะในเรื่องของงานธุรการ งานคอมพิวเตอร์ เรื่องอาหาร เรื่องอะไรก็แล้วแต่ มีให้เลือกมากมายพอสมควรทีเดียว และได้ลงโฆษณาให้สมัครเข้ามาได้ ไม่ว่าจะเป็นทางหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเว็บไซต์ และวันนี้มีการจัดงานเป็นพิเศษที่เมืองทองธานี จะจัดไปถึงสามทุ่ม เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนที่สนใจอยากจะเข้ามาร่วมโครงการ สามารถมาแวะเยี่ยมชมได้ เราเปิดสมัครวันที่ 18-24 ของทุกเดือน เมื่อปิดวันที่ 24 ไปแล้วก็รอเดือนหน้า 18-24 เดือนหน้าก็จะมีการเปิดรับสมัครอีก ซึ่งจะเปิดรับสมัครที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ผู้ที่เข้ามาจะมารับการฝึกอบรมอาชีพในระยะสั้น ระหว่างที่ฝึกอบรมจะได้รับทั้งเรื่องของค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ และที่สำคัญที่สุดคือว่าหลังจากรับการฝึกอบรมไปแล้ว ถ้ากลับไปภูมิลำเนาเดิมของท่าน จะมีเงินช่วยเหลือหลังการฝึกอบรมให้ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นเงินที่ท่านสามารถนำไปใช้เป็นทุนเพื่อเริ่มกิจการต่างๆได้

กระตุ้น ศก.เห็นผลใน 2 เดือน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเรื่องของเศรษฐกิจอย่างที่ตนได้ย้ำมาโดยตลอดว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจคงจะเห็นชัดในช่วงประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้า เพราะว่าหลังจากนี้ไปเม็ดเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงการ เช็คช่วยชาติไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้สูงอายุ ไปจนถึงโครงการการเรียนฟรี เงินส่วนใหญ่จะออกตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม คือสัปดาห์ หน้าเป็นต้นไป ตลอดเดือนเมษายน พฤษภาคม ต้นเดือนเมษายน เราจะมีการจัดงานเรื่องของ OTOP ด้วย และเรื่องของมหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจด้วย หวังที่จะสร้างความคึกคักขึ้นมา เพื่อให้เกิดความหมุนเวียน แต่ว่าในระยะกลาง ระยะยาว คำตอบที่จำเป็นจะต้องมีคือเราจะต้องลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างความสามารถของเศรษฐกิจไทย และเพื่อที่จะให้ประเทศไทยมีความพร้อม มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

ดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเข้า ครม.

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สัปดาห์หน้ารัฐบาลเสนอกรอบการเจรจากู้เงินประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาทำโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นเรื่องแหล่งน้ำ ถนน หนทาง ส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะใช้จ่ายเงินในช่วงของปีงบประมาณนี้เป็นต้นไป มีหลายคนเป็นห่วงเรื่องการกู้เงิน ตนย้ำอีกครั้งว่ารัฐบาลทุกยุคทุกสมัยแทบจะเรียกได้ว่ามีการกู้เงินทั้งสิ้น เพื่อมาลงทุน สิ่งสำคัญคือว่า 1. อย่า กู้เงินจนเกินเลยขอบเขตของมาตรฐานสากลที่เขามีอยู่ว่าจะไปกระทบกระเทือนกับการเงินการคลังของประเทศในวันข้างหน้า รัฐบาลดูแลเรื่องนี้แน่นอน และ 2. คือกู้เงินมาเพื่อใช้เงินให้คุ้มค่า เรากำลังกู้เงินมาในขณะนี้คือทำในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ตนได้เอาตัวเลขต่างๆ มาดูเห็นว่าจากการที่เศรษฐกิจโลกกำลังจะชะลอตัว หดตัว การค้าหดหายไป 20-30 เปอร์เซ็นต์ เราจำเป็นที่จะต้องมีเงินมาชดเชยในระบบเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้น 3 ปีข้างหน้าตั้งใจว่ารัฐบาลเองจะต้องเป็นผู้ลงทุนประมาณ 1 ล้าน 4 แสนล้านบาท หรือ 1.4 ล้านล้านบาท กำลังจะทำโครงการในรายละเอียด จะมีทั้งเรื่องของรถไฟความเร็วสูง ปรับปรุงในเรื่องของรถไฟ ปรับปรุงในเรื่องของถนน รวมทั้งถนนไร้ฝุ่น ลงทุนกันขนานใหญ่ในเรื่องของแหล่งน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในด้านของชลประทาน นอกจากนั้น ยังจะมีการปรับปรุงในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และการสาธารณสุขด้วย รายละเอียดนี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันพุธที่จะถึงนี้

สร้าง 5 รั้วป้องกันภัยยาเสพติด

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการในเรื่องของการรณรงค์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่พี่น้องประชาชนร้องเรียนมาโดยตลอด ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เรามีคนที่ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสน ได้พยายามที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นระบบบูรณาการ บอกให้ทุกหน่วยงานต้องถืองานนี้เป็นงานหลัก ได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้ามามีบทบาทเป็นฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายประสานงาน เพื่อรองรับกับนโยบายที่ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ดำเนินการมา หลักสำคัญความจริงก็มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปแล้ว คือว่าเราบอกต้องสร้างเป็นรั้วป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นรั้วชายแดนป้องกันไม่ให้แหล่งผลิตจากต่างประเทศส่งยาเสพติดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นรั้วในสังคม สร้างพื้นที่ดีๆ พื้นที่ที่สร้างสรรค์ เพื่อป้องกันการติดยาเสพติดจากการที่มีการไปมั่วสุม อาจจะเป็นสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย อาจจะเป็นปัญหาเรื่องร้านเกมส์ โต๊ะพนันหรืออะไรต่างๆ ต้องทำรั้วป้องกันตรงนี้อย่างเต็มที่ ทำรั้วในส่วนของชุมชน ทำรั้วในส่วนของครอบครัว และทำรั้วในส่วนของสถานศึกษา และในช่วงสั้นๆ ที่รัฐบาลเข้ามาบริหาร ได้มีการเข้าไปปราบปราม มีการยึดหลักเป็นหลักร้อยล้าน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเอง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับในช่วงปีที่ผ่านมา เราทำตรงนี้ได้โดยไม่ต้องไปใช้มาตรการในลักษณะที่จะไปกระทบกับเรื่องของสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้นงานตรงนี้ก็จะดำเนินการอย่างเข้มแข็ง

เร่งแก้ความเดือดร้อนให้ประชาชน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ครม.ได้เร่งสะสางงานเต็มที่ คือ 1. ปัญหาภัยธรรมชาติ มีการตั้งกลไกขึ้นมาดูแล เตรียมรับปัญหาภัยแล้งในขณะนี้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันงบที่ค้างในเรื่องการช่วยเหลือทั้งน้ำท่วม ภัยแล้งปีที่แล้ว ครม.ดำเนินการอนุมัติไปหมดแล้ว ถ้าจะมีค้างอยู่มีเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นเอง ปัญหาเรื่องของพืชผล ซึ่งโครงการบางโครงการมีปัญหามา เช่น ข้าวโพดมีปัญหาช่วงรอยต่อระหว่างที่ว่าจะมีขยายโควตาหรือไม่ ครม.แก้ไขปัญหาไปแล้ว มันสำปะหลังยังมีปัญหาอยู่ ตนกำลังจะเร่งไปดูในเรื่องของการขาดแคลน ลานที่เข้ามาร่วมในโครงการรับจำนำในหลายพื้นที่ รวมทั้งภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งตนไปมาเมื่อวานนี้ แล้วก็มีชาวไร่อ้อยนัดพบกับตน พอดีมีไม่ไว้วางใจ ก็คงจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนการเร่งรัดงบประมาณลงไปในพื้นที่ โดยเฉพาะงบฯของท้องถิ่น ซึ่งยังค้างอยู่ รวมทั้งเป็นประเด็นที่หยิบยกมาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะนี้ตนได้รวบรวมปัญหา อุปสรรคตัวเลขมาหมดแล้ว ก็จะเร่งแก้ไขต่อไป

เอาจริงเดินหน้าเก็บภาษีมรดก

นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบข้อซักถามเกี่ยวกับแผนจัดเก็บภาษีมรดกว่า รัฐบาลยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อไปซึ่งคงต้องตราเป็นกฎหมายเพราะหากไม่ทำ วิกฤติเศรษฐกิจจะกระทบเป็นลูกโซ่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ วางแผนในระยะยาวปัญหานี้ พร้อมยืนยันว่าเงินประกันตน 2,000 บาท จะถึงมือประชน 26 มี.ค.นี้ และหากมีความไม่โปร่งใสขอให้แจ้งตรงมาที่ตนเองได้จะได้แก้ปัญหาให้ทันท่วงที

วอนเสื้อแดงยุติแผนตากสินป่วนชาติ

นายอภิสิทธิ์กล่าวในช่วงท้ายว่า รัฐบาลนี้จะเปิดกว้างพร้อมรับความคิดเห็นจากทุกฝ่ายโดยจะไม่แบ่งสีเสื้อ และรัฐบาลจะไม่เป็นคู่กรณีกับใคร แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ทุกคนยอมรับความคิดเห็นทางการเมืองตรงกันได้ แต่ขอร้องว่าอย่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่การเคลื่อนไหวขอให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ยืนยันว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีระยะเวลาที่จำกัดตามรัฐธรรมนูญ โดยอุปนิสัยส่วนตัวไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ขอทำหน้าที่นี้เพื่อชดใช้หนี้แผ่นดิน ส่วนกระแสข่าวเรื่อง แผนตากสินเพื่อใช้ล้ม รัฐบาลนั้น ยืนยันไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ก็เคยเห็นว่ามันมีเอกสาร มีคนที่มีความคิดนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันกว้างขวางขนาดไหน รู้สึกเป็นห่วงว่า ถ้ามีแนวคิดอย่างนั้น ก็ขอร้องว่า เราคิดแตกต่างทางการเมืองไม่เป็นไร แต่ขอให้อยู่ภายใต้กติกา อย่างเช่นการตรวจสอบตามระบบรัฐสภาเหมือนที่ผ่านมา 2 วัน ตนขอให้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่ ส่วนการต่อต้านกันนั้น ถ้ากลุ่มต่อต้านใช้วิธีเคลื่อนไหว อยู่ในกรอบของกฎหมายปกติ เสียงสะท้อนของท่านก็น่าจะไปถึงคนที่ท่านต้องการที่จะให้ได้ยินอยู่แล้ว แต่ถ้าไปทำอะไรที่รุนแรงหรือผิดกฎหมายนั้น อาจจะสะใจคนบางกลุ่ม แต่คนทั้งประเทศจะเสียหาย ดังนั้นจึงไม่อยากให้ทำ