WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, September 25, 2009

เขาพระวิหารเครื่องมือการเมือง

ที่มา บางกอกทูเดย์

เหมือนต้องคำสาป เพราะทุกครั้งที่มีประเด็นการเมือง ภายในประเทศเริ่มถึงทางตัน หวยมักจะออกที่ กรณีพิพาท “ประสาทพระวิหาร” ระหว่างไทยกับกัมพูชา
โดยเฉพาะกรณีล่าสุด ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประท้วงเพื่อทวงคืนประสาทพระวิหารและขับไล่ชาวกัมพูชาที่อาศัยในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรจนนำมาสู่เหตุปะทะระหว่างชาวบ้านกับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อมองจากเหตุผลของการปะทะครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นความตั้งใจของพันธมิตรฯ ที่ต้องการใช้วันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวันแห่งการยึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ มาช่วยสร้างแรงหนุนให้เกิดพลังในการปลุกระดมมวลชน เพื่อร่วมกันประท้วงทั้งที่ก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรฯ เคยประท้วงที่เขาพระวิหารมาแล้วหลายรอบ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสู่สังคม มีเพียงสื่อในเครือผู้จัดการเท่านั้นที่สุดแล้วภาพความสามัคคีในชาติของคนไทยก็ไม่มีเหลือให้ต่างได้เห็น แต่สิ่งที่ได้เห็นกลับกลายเป็นคนไทยที่ตีกันเองอย่างไรก็ตาม ประเด็นการหยิบยกประสาทพระวิหารเป็นประเด็นทางการเมืองนั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมาหากย้อนไปในช่วงเริ่มต้นของการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ในช่วงกลางของพันธมิตรฯ ที่มีท่าทีเริ่มแผ่วหลังปิดถนนราชดำเนินและยึดบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ เป็นที่ตั้งเวทียาวนานเป็นเดือนๆ ที่ก็ยังไม่สามารถสร้างพลังในการเรียกร้องได้ประเด็นข้อพิพาทประสาทพระวิหาร จึงถูกแกนนำพันธมิตร หยิบยกขึ้นมาปราศรัยโจมตีรัฐบาล โจมตีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในเวลานั้น “นพดล ปัทมะ” ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นคนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ ที่พันธมิตรฯ ไม่แฮปปี้และต้องการโค่นจากเก้าอี้ รมต.จากสองแรงบวกทั้งประสาทพระวิหาร และ ความไม่ชอบมาพากลของการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหาร โดยมีกระทรวงการต่างประเทศที่รับผิดชอบโดยบุคคล ที่เป็นเครือข่าย “ทักษิณ” ทำให้ม็อบพันธมิตรฯ มีชีวิตชีวา มวลชนเริ่มมากขึ้นจนนำไปสู่ประเด็นทวงคืนประสาทพระวิหารขณะเดียวกันในฝั่งกัมพูชา ก็ใช้ประสาทพระวิหาร เป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี สุดท้ายนายฮุนเซน ก็สามารถรักษาเก้าอี้นายกฯ ไว้ได้อีกสมัย โดยมีประเด็นขึ้นทะเบียนมรดกประสาทพระวิหาร เป็นตัวช่วย

นอกจากประเด็นการเมืองภายในของไทยและกัมพูชาแล้ว ประสาทพระวิหาร ยังถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเป็นเกราะกำบังของฝ่ายการเมืองเพื่อหาประโยชน์ จากความรักชาติแล้ว ในทางการเมืองขึ้นถูกผูกโยงถึงการใช้การช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ จากรัฐบาลกัมพูชา ในการที่จะลักลอบเข้าประเทศไทยในแนวชายแดนกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจนนำไปสู่การปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชามีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย สถานการณ์กลับมาตึงเครียดทั้งศึกภายในและศึกภายนอกขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงก็ย้อนเกล็ดกลุ่มพันธมิตรฯหลังจากที่นายกษิต ภิรมย์ ได้นั่งเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ ก็ใช้ประเด็นประสาทพระวิหารโจมตี นายกษิต เมื่อครั้งขึ้นเวทีพันธมิตรฯ โจมตีกัมพูชา ไม่ให้เกียรติผู้นำ ก่อนจะมาลงเอยที่อภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วง 3 เดือนแรกของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อีกด้านหนึ่งในสถานการณ์ที่ไทยยังมะงุมมะงาหรา เรื่องประสาทพระวิหาร “กัมพูชา” กลับค่อยๆ สร้างชุมชน สร้างทางขึ้นตัวปราสาท ลำเลียงสะเบียงกำลังพลขึ้นมายังประสาทพระวิหาร แม้ในบางอย่างจะเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทย แต่ก็ได้แต่ประท้วงในระดับทางการทูตขณะเดียวกัน บรรยากาศที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ทหารยังคงรักษาการณ์ตามปกติ และมีวางกำลังตรวจตราอย่างเข้มงวดเช่นเคยส่วนที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ปรากฏว่าทหารไทยและทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังตามปกติแต่สถานการณ์ไม่ได้ตึงเครียดแต่อย่างใด หลังมีกรณีคนไทยขึ้นมาประท้วงเพื่อทวงคืนประสาทพระวิหารเป็นสถานการณ์ปกติที่เคยเป็น ในยามที่ประเด็นการเมืองภายในประเทศได้ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เรื่องอื่น“เขาพระวิหาร” จึงถูกลืมไปชั่วขณะแต่จะกลับมาในความทรงจำในอีกไม่นาน!!! ■