ที่มา ประชาไท
พันธมิตรได้ขึ้นผามออีแดงไปอ่านแถลงการณ์ทวงพื้นที่เขาพระวิหารแล้ว ทหารเอารถไปรับพามาอ่านแถลงการณ์พร้อมอารักขาเสร็จสรรพ ก่อนที่ ‘วีระ สมความคิด’ จะพาพันธมิตรฯ ไปแจ้งความถูกชาวบ้านทำร้าย-ทรัพย์สินเสียหาย ด้านกำนันเจ้าถิ่นพาลูกบ้านไปแจ้งความกลับเช่นกัน ส่วนทหารเดินสายเยี่ยมผู้บาดเจ็บเหตุปะทะ
จากเหตุพันธมิตรฯ ปะทะกับชาวบ้าน อ.กันทรลักษ์เมื่อวันที่ 19 ก.ย. จนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินเสียหายนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 07.10 น. วานนี้ (20 ก.ย.) นายระพี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์รายการ “ก๊วนข่าวเช้าวันหยุด” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทางโทรศัพท์ โดยชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. และช่วงหนึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวขอโทษคนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่สามารถระงับเหตุปะทะระหว่างคนสองกลุ่มได้ และว่านอกจากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมทางกายแล้ว ตนยังเป็นห่วงบาดแผลทางใจระหว่างคนสองกลุ่มที่รักษาให้หายได้ยาก
ต่อมา เมื่อเวลา 09.50 น. พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร เสนาธิการกองกำลังสุรนารี และ พ.ท.วิชิต มัคการุณ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารี นำกำลังทหารมารับนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มพันธมิตร และคณะจำนวน 33 คนเดินทางโดยรถบัสทหาร 2 คันขึ้นไปยังบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงติดตามขึ้นไปด้วย ท่ามกลางกำลังทหารอารักขาอย่างเข้มงวด
เมื่อขึ้นไปถึงผามออีแดง นายวีระชี้ให้สื่อมวลชนดูพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร และกล่าวหาว่าชาวกัมพูชาเข้ามาบุกรุกยึดครองพื้นที่ซึ่งนายวีระอ้างว่าเป็นดินแดนไทยพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งบ้านเรือน วัด ถนน
จากนั้น นายวีระได้อ่านแถลงการณ์ในนาม "ภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหาร" ฉบับที่ 1/2552 และ 2/2552 เรื่อง "ประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนไทย" เนื้อหาโดยสรุประบุว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของประเทศไทย ภาคีเครือข่ายจะดำเนินการในทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมายเพื่อทวงคืนแผ่นดิน ไทยรอบปราสาทพระวิหารกลับคืนมาให้กลับมาเป็นของราชอาณาจักรไทยดังเดิม ทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย และดำเนินการเอาผู้กระทำความผิดในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือสมรู้ร่วมคิดในการทำให้ดินแดนไทยต้องถูกรุกล้ำหรือเสียดินแดน มาลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายวีระพร้อมคณะเดินทางไปที่ สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ เพื่อนำกลุ่มพันธมิตรที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับชาวบ้านภูมิซรอล รวมทั้งนำรถทัวร์และรถยนต์ส่วนตัวที่ได้รับความเสียหายไปแจ้งความกับ พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้ทรัพย์สิน ได้รับความเสียหาย
พ.ต.อ.วัฒนากล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ได้รับแจ้งความไว้แล้ว และจะสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่
เวลา 12.30 น. ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาตรวจและติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาแต่ อย่างใด เนื่องจากทางกองทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับผู้นำทหารของกัมพูชา และมีความเข้าใจกันแล้ว
และเมื่อเวลา 13.30 น. นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย แกนนำชาวบ้านที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตร กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ว่า เป็นสิทธิของกลุ่มพันธมิตรที่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของชาวบ้านที่ต่อต้านและได้รับบาดเจ็บนั้นมีอยู่ทั้งสิ้น 4 ราย รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายหลายรายการ จะนำกลุ่มชาวบ้านไปแจ้งความที่ สภ.บึงมะลูเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรด้วยเช่นกัน
เวลา 14.30 น. ที่ตึกศัลยกรรม-อุบัติเหตุ โรงพยาบาลกันทรลักษ์ พล.ต.ชวลิต ชุณประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เป็นผู้แทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นำกระเช้าผลไม้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันครั้งนี้ ประกอบด้วย นายประเสริฐ ผิวขาว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ ฟันบนหัก 3 ซี่, นายชำนาญ ชาแพง อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 322 หมู่ 10 ต.บึงมะลู ถูกตีด้วยไม้สลบ 10 นาที มีอาการปวดท้ายทอย และปวดที่ข้อศอกขวา, น.ส.สุวนันท์ คำวันดี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 บ้านหนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ปวดท้องน้อยด้านขวา แพทย์ได้ผ่าตัดไส้ติ่งให้เรียบร้อยแล้ว และนายสุทธิศักดิ์ แก้วแกมจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/62 หมู่ 15 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ ถูกยิงด้วยปืนที่ขาซ้าย 5 รู อาการสาหัสมาก แพทย์ส่งตัวไปโรงพยาบาลศรีสะเกษ
พล.ต.ชวลิตกล่าวว่า ผบ.ทบ.มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงมอบหมายให้นำเอากระเช้าผลไม้มาเยี่ยมให้กำลังใจ ขณะนี้เหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จะสั่งการให้ลดกำลังทหารที่ด่านทางขึ้นอุทยานเขาพระวิหารลงบางส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดกลุ่มพันธมิตร ซึ่งพักอยู่ที่หมู่บ้านศีรษะอโศก ประมาณ 1,000 คน เริ่มทยอยเดินทางด้วยรถทัวร์ รถตู้ และรถปิกอัพ ออกจากหมู่บ้านศีรษะอโศก เพื่อกลับภูมิลำเนาของตนเองแล้ว
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปแล้ว หลังจาก พล.ต.เชาวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีพาตัวแทนกลุ่มพันธมิตรขึ้นไปประกาศเจตนารมณ์บนผา มออีแดง ทุกอย่างน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนเรื่องการปะทะกันระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรกับชาวบ้าน ต.ภูมิซรอล จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากว่า ได้หารือกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะรักษาการแทน ผบ.ตร. (รรท.ผบ.ตร.) ให้ดำเนินการกับผู้ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากมีคนบันทึกภาพเหตุการณ์ (การทำร้ายร่างกาย) ได้ตามสมควร ดังนั้นน่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนได้ไม่ยาก อันนี้ต้องว่ากันตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดหรือไม่ว่าปัญหาจะจบเมื่อตัวแทนพันธมิตรขึ้นไปอ่านแถลงการณ์บนผามออีแดง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าพยายามพูดคุยกันให้เข้าใจเรื่องการรักษาสิทธิ รักษาดินแดนว่าวิธีการใดจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด คิดว่าอาจจะเกิดความเข้าใจ บางครั้งมุมมองอาจจะแตกต่างกัน แต่ขอให้มั่นใจได้เลยว่ารัฐบาลไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนแอบแฝง ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นอะไรเลย มีเจตนาเหมือนกลุ่มที่เดินทางไปเขาพระวิหารว่าต้องการรักษาดินแดน เรื่องการแสดงออกของแต่ละฝ่ายสามารถทำได้ แต่ขอความกรุณาว่าคนไทยด้วยกันอย่าทำร้ายกันเอง เมื่อถามว่า มั่นใจว่านโยบายที่ใช้อยู่ขณะนี้ไม่อ่อนแอเกินไป นายกฯกล่าวว่ามั่นใจ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และไม่ขอวิจารณ์การเคลื่อนไหวของพันธมิตร เพราะเกรงว่าจะทำให้เป็นความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก แต่เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างการเปิดเผยของนายคอย ควง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ว่า ทางฝ่ายกัมพูชาได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำการอยู่ที่ปราสาทพระ วิหารเช่นเดียวกัน นายคอยกล่าวว่า "เราไม่มีความกังวลในเรื่องกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงของไทยบริเวณชายแดนด่าน ปราสาทพระวิหารเลย เนื่องจากทางฝ่ายรัฐบาลไทยบอกว่าพวกเขาจะจัดการรับมือในการป้องกันไม่ให้ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของปราสาทพระวิหาร"
สำหรับปราสาทพระวิหาร (the Preah Vihear temple) นั้น อยู่ในเขตของกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ.2505 หลังการพิพาทในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างไทยกับกัมพูชา ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารไปแล้ว และเมื่อปีที่แล้วคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติก็ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชา เป็นมรดกโลกด้วย อย่างไรก็ตามหลังจากการประกาศขึ้นทะเบียนจนถึงปีนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนรอบปราสาทเขาพระหารในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และเกิดการปะทะย่อยระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหารอยู่เนืองๆ