ที่มา ประชาไท
15 ส.ค.53 กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงจัดกิจกรรม “ปิกนิกข้าวแดง” ที่สวนรถไฟ เขตจตุจักร มีประชาชนเดินทางมาร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ริเริ่มกิจกรรมวันอาทิตย์สีแดง กล่าวถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า เป็นการจัดปิกนิกเพื่อให้ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์สลายการชุมนุมในเดือนเม.ย.และพ.ค.ได้มาพูดคุยปรับทุกข์ และเป็นการรับฟังความคิดเห็นและบทเรียนของคนเสื้อแดง
นายสมบัติกล่าวว่าคนเสื้อแดงต้องตอบให้ได้ว่าการชุมนุมใหญ่ในเดือน มี.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมาผิดพลาดอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมเนื่องจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนราคาแพง การถอดบทเรียนและประสบการณ์ทั้งด้านบวกและลบจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการก้าวต่อไปของคนเสื้อแดง โดยตนต้องการรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นของคนเสื้อแดง เพื่อนำไปวิเคราะห์และใช้ในการออกแบบกิจกรรมต่อๆ ไป
ระหว่างนั้นมีผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่านายสมบัติเป็นนอมินีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือไม่ ซึ่งนายสมบัติตอบว่าตนไม่ได้เป็นนอมินีของใคร สามารถตรวจสอบประวัติย้อนหลังได้ และที่ผ่านมานายจุตพรก็ไม่เคยโทรศัพท์มาหา รูปแบบของกิจกรรมที่ตนทำก็แตกต่างจากแนวทางหลักของกิจกรรมที่คนเสื้อแดงเคยทำกันมา และตนไม่ต้องการเป็นแกนนำ ความสำเร็จของตนไม่ได้อยู่ที่การช่วงชิงอำนาจรัฐ แต่อยู่ที่มวลชนเสื้อแดงสามารถแสดงออกว่าพวกเขาคิดอ่านและรู้สึกอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนให้ความสำคัญมากที่สุด และอยากระดมความเห็นเหล่านี้ขึ้นมา
“ผมเชื่อว่าถ้ามวลชนแนวนอนมีการจัดโครงสร้างที่ดี จะสะท้อนภาพการเคลื่อนไหวจริงๆ เพราะที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวมองเฉพาะกลุ่มที่เป็นคนนำหรือคนที่มีชื่อเสียงมากๆ ซึ่งผมมองว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น” นายสมบัติกล่าว
กิจกรรมเริ่มขึ้นในเวลา 17.00 น.เศษ โดยนายสมบัติและผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งร่วมกันขี่จักรยานรอบสวนรถไฟ 1 รอบ จากนั้นมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพูดคุยในหัวข้อต่างๆ เช่น เสื้อแดงมาชุมนุมทำไม คนเสื้อแดงรักชาติแบบไหน เสื้อแดงถูกโจมตีอย่างไร ทำอย่างไรทุกวันอาทิตย์คนจะใส่เสื้อแดง ซึ่งความคิดเห็นต่างๆ ทางกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงได้เก็บรวบรวมเอาไว้ หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันล้มตัวลงนอนบนสนามหญ้า พร้อมส่งเสียง “ที่นี่มีคนตาย”
ภายหลังกิจกรรมสิ้นสุดลง นายสมบัติกล่าวกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่มีธุรกิจอยู่ในบริเวณนั้น และตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้วางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นเตอร์วัน แต่โดยส่วนตัวตนรักห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ก็รักพี่น้องประชาชนด้วย จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่รักห้างเซ็นทรัลเวิลด์ช่วยดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมด้วย
นายสมบัติกล่าวอีกว่าอยากพบผู้บริหารของเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อแสดงความขอบคุณ และแสดงความเสียใจต่อเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น เนื่องจากระหว่างการชุมนุม เซ็นทรัลเวิลด์ได้ให้การดูแลคนเสื้อแดงเป็นอย่างดี นอกจากนี้ นายสมบัติยังเชิญชวนให้คนเสื้อแดงไปช่วยกันชอปปิ้งที่ห้างเซ็นเตอร์วันซึ่งมีแผนจะเปิดให้ทันภายในปลายปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายสมบัติกล่าวถึงกิจกรรมวันอาทิตย์สีแดงในวันที่ 19 ก.ย.ซึ่งจะตรงกับวันครบ 4 ปีการยึดอำนาจของ คมช.ว่า อยากจะจัดกิจกรรมที่ราชประสงค์และคาดว่าจะมีผู้มาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แต่ถ้ารัฐบาลต่อรองขอให้ไปใช้สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงในการจัดกิจกรรมแทนตนก็ยินดี และหากรัฐบาลมีความกังวลต่อกิจกรรมของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงก็ขอให้ส่งสัญญาณมา ซึ่งตนก็พร้อมจะรับฟัง และพยายามจะทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเป็นกิจกรรมที่ทุกคนพอจะยอมรับกันได้
ส่วนกิจกรรมครั้งต่อไป นายสมบัติกล่าวว่าจะจัดในวันที่ 22 ส.ค.ที่บริเวณถนนคนเดิน ลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ในเวลา 17.00 น. และสัปดาห์ต่อไปจะเป็นกิจกรรมชอปปิ้งใช้ชื่อว่า “แดงเที่ยวห้าง” โดยเชิญชวนคนเสื้อแดงมาร่วมกันจับจ่ายสินค้าที่ห้างบิ๊กซี ลาดพร้าวในวันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.เวลา 17.00 น.