ที่มา บางกอกทูเดย์ ออกอาการร้อนรนไปตามๆกัน เมื่อเจอวาทะทิ่มตรงกลางใจของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่วิจารณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมให้โครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะเขตเลือกตั้งจากเขตใหญ่เป็นเขตเดียวเบอร์เดียวด้วย แต่เมื่อมาเป็นคำพูดที่ออกมาในช่วงน้ำผึ้งขม ความสัมพันธ์ระหว่างแกนนำพรรครัฐบาล กับบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ค่อยจะหวานชื่นเท่าไรแล้ว โดยเฉพาะระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคภูมิใจไทย กรณีรถเมล์เช่า 4,000 คัน ในราคาแพงระยับ ก็รู้กันอยู่ว่าประชาธิปัตย์ค้านหัวชนฝามาตั้งแต่สมัยที่เป็นฝ่ายค้าน จะให้ก้มลงกลืนน้ำลายที่คายอยู่บนพื้นโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยนั้น มันก็คงจะเกินไป... ทำให้โครงการนี้ชักตื้นติดกึก ชักลึกติดกัก มาตลอด กลายเป็นบาดแผลทางใจที่แม้แต่อ้อมกอด และรอยยิ้มระหว่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ ซีอีโอ ตัวจริงเสียงจริงของภูมิใจไทย ยังช่วยสมานไม่ได้สนิท ทำให้ทั้งนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จึงต้องออกมาแก้ต่างชนิดที่ตรงกันราวกับเตี้ยมกันมาล่วงหน้า ว่า สารวัตรเฉลิม ไม่เคยทำนายอะไรถูกเลย นายสุชาติ ถึงขนาดกล้าฟันธงในเรื่องรถเมล์เช่าราคาแพงระยับว่า ร.ต.อ.เฉลิมทำนายผิดแน่นอน “เรามีข้อมูลที่ชัดเจนสามารถชี้แจงได้ สิ่งที่ ครม.สงสัยมาก็สามารถชี้แจงได้หมด สามารถชี้แจงข้อสงสัยได้เคลียร์ เพราะเรื่องของโครงการไม่เกี่ยวกับเรื่องราคา แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเออร์รี่รีไทร์ ที่เราสามารถชี้แจงได้หรือไม่ หากได้ก็ถือว่าเคลียร์ ไม่น่ามีปัญหา” แถมนายสุชาติยังเชื่อมั่นว่า ที่มีการมองกันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยื้อโครงการดังกล่าวไว้เพื่อต่อรองทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยนั้น คงไม่มีอะไรที่ต่อรองกัน ไม่จำเป็นต้องต่อรอง สอดรับกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเป็นปกติ ไม่มีปัญหาและพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้รักษากฎเกณฑ์ กติกาทุกอย่างที่ทำต้องทำด้วยเหตุผล ก็คงต้องมาลุ้นกันว่า หลังจากวัดใจกัน ช่วยกันลากให้งบประมาณปี 54 สามารถผ่านการอนุมัติไปได้แล้ว จะมีการอนุมัติโครงการรถเมล์เช่า 4,000 คันให้กับพรรคภูมิใจไทยเป็นรางวัลตอบแทนหรือไม่นั้น หรือว่าจะดึงเกมลากยาวไปจนเลือกตั้งปีหน้าโน่นเลย???
ถ้าเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในช่วงฮันนีมูนทางการเมือง ประโยคคำพูดของสารวัตรเหลิม ก็คงไม่ทำให้ออกอาการกันอย่างนี้
เลยทำให้สะดุ้งโหยงกันเป็นธรรมดา
ฉะนั้นเมื่อสารวัตรเหลิมมาพูดตรงๆ ฝ่ายที่ระแวงกันอยู่แล้ว ก็ยากจะนิ่งเฉย
พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคภูมิใจไทยนั่นแหละลุ้นระทึกมากที่สุด
ส่วนสารวัตรเหลิม ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ช่าง แต่ตอนนี้อมยิ้มไปเรียบร้อยแล้ว