WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, August 19, 2010

มันเพราะใคร?

ที่มา ไทยรัฐ


การพิจารณางบประมาณปี 2554 วาระ 2–3 ดูเหมือนจะมีปัญหาการเมืองเรื่องยกมือสนับสนุน มากกว่าที่จะว่ากันด้วยเนื้อหาสาระอันเกี่ยวกับเม็ดเงิน ที่จะใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างคุ้มค่า

พรรคฝ่ายค้านคงไม่ต้องพูดถึงเพราะมีหน้าที่คัดค้านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะมุ่งไปสู่ความคุ้มค่าของงบประมาณ หรือว่าเพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น มีประเด็นหนึ่งที่พูดถึงกันมากคือ งบประมาณ "กระจุกตัว" ที่มหาดไทยและกลาโหม

ดังนั้น หากพรรคฝ่ายค้านทำการบ้านมาดี และมีความจริงใจน่าที่จะสะท้อนความจริงที่เกิดขึ้น ด้วยข้อมูลและตัวเลขเพื่อให้สมาชิก และประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงก็จะก่อประโยชน์อย่างยิ่ง

เพราะแม้ว่าจะมีเสียงน้อยกว่ารัฐบาล แต่ก็จะชี้ให้เห็นความไม่โปร่งใสเบียดบังงบประมาณไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง

นี่น่าจะเป็นหน้าที่หลักของพรรคฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ดี ปัญหาที่เกิดขึ้นกลับเป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาลเอง เนื่องมาจากเสียงปริ่มนํ้าและความไม่เป็นเอกภาพ ระหว่างพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาล

ที่น่าสังเกตก็คือก่อนที่จะมีการพิจารณา ปรากฏว่ามีการเสนอโครงการรถเมล์เช่าเอ็นจีวี 4,000 คัน โดยกระทรวงคมนาคมให้ ครม.พิจารณา ปรากฏว่านายกฯได้ให้มีการศึกษาใหม่ เพราะมีปัญหา 3 ประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน

ก็เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาทันที เมื่อพรรคภูมิใจไทยที่เสนอโครงการนี้ไม่พอใจนายกฯเกิดเสียงขู่ว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมและนั่นมีการจับตาไปที่การพิจารณางบประมาณว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งว่าที่จริงแล้วงบประมาณนั้นพรรครัฐบาลได้เปรียบในการจัดสรรอยู่แล้ว

พรรคภูมิใจไทยดูเหมือนจะได้งบกระจุกตัวมากที่สุด

ดังนั้น การนำ 2 เรื่องมาเป็นเรื่องเดียวกัน ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจการต่อรองกับนายกฯมากกว่า ทั้งๆที่พรรคภูมิใจไทยนั้นสนับสนุนงบประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ยังหวังที่จะให้โครงการรถเมล์เช่าผ่าน ครม.อีกด้วย โดยเอาเงื่อนไขยกมือสนับสนุนงบประมาณมาเป็นตัวต่อรอง

ลีลาแบบนี้ถือว่าเขี้ยวลากดินจริงๆ

อย่างไรก็ดี หลังจากที่การประชุมสภาผู้แทนฯนัดแรก ปรากฏว่า เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ จนทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม ส.ส. และรัฐมนตรีต้องมาประชุมงบประมาณอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ ถึงขั้นขู่ว่า ส.ส.คนไหนไม่มาประชุม จะถูกตัดสิทธิลงเลือกตั้งในครั้งต่อไป

นอกจากนั้น ยังสั่งให้รัฐมนตรีทุกคน จะต้องอยู่ในสภาทุกคน ห้ามกลับบ้านก่อน หรือต้องยกเลิกภารกิจอื่นๆทั้งหมด

ทั้งนี้ก็เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาในการชี้แจง ตอบโต้ฝ่ายค้านและยังกลัวว่าการลงคะแนนจะมีเสียงสนับสนุนไม่พอ

หากเป็นเช่นนั้น รัฐบาลก็ต้องลาออกหรือยุบสภา

จริงๆแล้ว เรื่องทำนองนี้มันเป็นสำนึก หน้าที่ และความรับผิดชอบของรัฐมนตรี ส.ส.ทุกคน ที่จะต้องมาร่วมประชุม ยิ่งงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าปกติ

แต่นักการเมืองไทยมันประหลาดที่สุด ทั้งๆที่เป็นความรับผิดชอบของแต่ละคน ในการทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชน กลับต้องให้หัวหน้ารัฐบาล แกนนำพรรคออกคำสั่งบังคับให้มาทำหน้าที่เหมือนต้อนควายเข้าคอกไม่มีผิด

ยังไม่เคยเห็นประเทศไหนเขาต้องทำกันอย่างนี้ มีก็แต่บ้านนี้ เมืองนี้เท่านั้นที่ต้องมีมาตรการอย่างนี้ออกมา ซึ่งมันน่าหดหู่สิ้นดี

ที่มีนักการเมืองทุเรศๆอย่างนี้

ประเทศไทยที่ต้องติดหล่มอยู่ทุกวันนี้ ก็คงรู้กันแล้วว่าเป็นเพราะใคร.

"สายล่อฟ้า"