09.19 น. วันที่ 19 สิงหาคม เปิดป้ายอย่างเป็นทางการ
ตามฤกษ์ "ถือเลขเก้า" ที่พรรคเพื่อไทยถือเอาเป็นเวลาดี ในการย้ายตึกที่ทำการพรรค กลับ ไปใช้ที่เก่า อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ในจังหวะที่ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ใช้ โอกาสในการร่วมประชุมรับทราบมติย้ายที่ทำการพรรค วิเคราะห์ในเหลี่ยมของ "เซียนการข่าว"
ฟันธง การเมืองจะเปลี่ยนแปลงเร็วๆนี้
แต่ขอเวลาดูให้ละเอียดสักระยะว่า จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะใด แต่โอกาสจะเกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน
อ่านกันตามลีลา ก็น่าจะแค่กระตุกต่อมฮึดลูกทีม เอาฤกษ์เอาชัย
"บิ๊กจิ๋ว" ปล่อยของมาแล้วหลายรอบ
แต่บังเอิญรอบนี้ จังหวะมันพอดีกับสถานการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลกำลังระส่ำกับ เกมคุมเสียงโหวต ถึงขั้นต้องเปิดมาตรการเข้มถึงขีดสุดในคิวพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554
"ขัง ส.ส." ไว้ในสภา 2 วัน 2 คืนเต็มๆ
โดยอาการ "วิตกจริต" เข้าขั้นรุนแรง แกนนำอย่างพรรคประชาธิปัตย์หวาดระแวงเพื่อนเล่นไม่ซื่อ กลัวเจอเกมโหวตคว่ำในสภา
ตามปมเหตุแห่งปัญหา ร่องรอยร้าวๆกับพรรคภูมิใจไทย ซ่อนมีดแทงหลังฝังรอยแค้นสะสมกับ "เพื่อนเนวิน" จนมาถึงจุดหักดิบกันในคิวติดเบรกโปรเจกต์รถเมล์เช่าเอ็นจีวี
เขี้ยวโผล่ฟ้องยี่ห้อประชาธิปัตย์ "หลอกยื้อ" มาตั้งแต่ต้น
คำว่า "ผลประโยชน์ร่วมกัน" ที่เป็นกาวเชื่อมพรรคร่วมรัฐบาลไว้ด้วยกันหลวมๆ ก็เสื่อมสภาพลงตามเงื่อนไข
และก็ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์หลังคิวโหวตงบประมาณฯ "ชามข้าว" มื้อสุดท้าย เมื่ออ้อยเข้าปากช้าง พรรคร่วมรัฐบาลได้เงินไปหมุนในกระทรวงโควตาตามที่จัดสรรปันส่วนไว้
ก็ไม่ต้องพะเน้าพะนอกันอีกต่อไป
นี่แหละ จังหวะพลิกคว่ำพลิกหงาย
ตามคิวคดียุบพรรค "เด้งแรก" จากกรณีใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ก็จ่อรออยู่ข้างหน้า ไหนจะต้องเจอโจทย์หิน "ปราสาทพระวิหาร"
ในสถานการณ์ที่ "ตั๋วพิเศษ" ของพรรคประชาธิปัตย์หมดโปรโมชั่น พี่เลี้ยงเลิกอุ้ม ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงถูลู่ถูกังให้เปลืองแรง เปลืองตัว ในเมื่อฝ่ายคุมเกมประเทศไทยกระชับอำนาจกองทัพ อยู่ใต้ปีก "บูรพาพยัคฆ์" ไว้ได้
"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นแท่นจ่าฝูงกองทัพบกคนใหม่ บัญชาการเกมสยบกองทัพเสื้อแดง กดเครือข่ายนายใหญ่ไม่ให้โงหัว
เอาเป็นว่า ปลายเดือนกันยายน ขึ้นต้นเดือนตุลาคม บรรยากาศหลังการเปลี่ยนถ่ายอำนาจกองทัพจะเป็นคำตอบ ข่าวทางลึกของ "บิ๊กจิ๋ว" จะวิเคราะห์ถูกหรือเปล่า
โค้ชคุมเกมประเทศไทย จะสั่งเปลี่ยนตัว "ผู้เล่น" หรือไม่
แต่ที่แน่ๆในจังหวะที่เกมยังดำเนินอยู่ วิสัยของเซียนการเมืองก็ต้องวิ่งหา "พื้นที่เล่น"
ชิงจังหวะเป็น "ตัวจักรสำคัญ" ไว้ก่อน
ล่าสุดเบื้องหลังโต๊ะอาหารมื้อค่ำ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา หลงจู๊ใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา กับกลุ่ม 3 พี "ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-พินิจ จารุสมบัติ-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ" แกนนำหลักพรรคเพื่อแผ่นดิน
ข้อตกลงเบื้องต้น 17-18 เสียงในปีกของกลุ่ม 3 พี จะเดินเกมตามธงของ "บิ๊กเติ้ง" ไม่ว่าจะเป็นการโหวตในสภา หรือการ ตีธงทางการเมือง
ในฐานะผู้อาวุโสที่ยังมั่นอยู่ในหลักถือ "สัจจะ" ไม่หักหลังใคร
และนั่นก็หมายถึงว่า 25 เสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา
บวกกับอีก 17-18 เสียงของพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมกันก็เกินหลัก 40 กว่าเสียง
ยังไม่นับพวก "รอเลี้ยง" ส.ส.พรรคเพื่อไทยอีกส่วนหนึ่งที่ต่อสายแสดงความจำนงขออยู่ในความดูแลของ "3 พีกรุ๊ป"
นับหัวไปนับหัวมา ก็ไม่น้อยกว่ายี่ห้อภูมิใจไทยที่การันตีส.ส.ไว้ที่ 50 กว่าเสียง
ราคาหุ้น "บรรหาร" ดีดขึ้นทันตา.
ทีมข่าวการเมือง