WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, August 19, 2010

จับพิรุธ !? ภาพลวงตาแผนปรองดองฉบับ “อดัม คาเฮน" by JJ_Sathon

ที่มา thaifreenews


โดย Palrak

ที่มา
http://www.go6tv.com/2010/08/blog-post_9785.html



www.go6tv.com, Bangkok, โกหกทีวีดอทคอม จับพิรุธการเดินทางมาแนะนำการสร้างฉากทรรศน์ปรองดอง ฉบับ อดัม คาเฮน สังเกตจากผู้จัดงานยังวนเวียนอยู่ในกลุ่มอำมาตย์ ซึ่งค้านกับทฤษฏีการสร้างฉากทรรศน์ซึ่งเน้นคู่ขัดแย้งทุกฝ่าย

โกหกทีวีดอทคอม ได้อ่านหนังสือการสร้างฉากทรรศน์ฉบับอดัม อย่างสนใจยิ่งถึง 2 เล่ม ได้ตรวจสอบทฤษฎีการจัดทำแผนแล้วผู้เขียนเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการจัดทำแผนปรองดองฉบับอดัมนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่ผลที่ได้จากการจัดสัมมนาในประเทศไทยขณะนี้ ค้านกับทฤษฏีอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจขอยกตัวอย่างจากหนังสือ กรณีศึกษาการสร้างฉากทรรศน์อนาคตจากประเทศแอฟริกาใต้มาเทียบเคียง

1. ในประเทศแอฟริกาใต้ “... ได้เชิญชาวแอฟริกาใต้ผู้ทรงอิทธิพล 22 คนเข้าร่วมประชุม รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมืองหลักจากซีกฝ่ายค้านซึ่งนิยมความรุนแรง สหภาพแรงงานเหมืองแร่แห่งชาติ พรรคคอมมิวนิสส์แอฟริกาใต้ และยังเชิญศัตรูตัวยงอีกหลายคนจากประชาคมนักธุรกิจและนักวิชาการผิวขาว....” (หน้า41) และยังรวมทั้ง ประธานาธิบดี ว่าที่ประธานาธิบดีคนถัดมา นักโทษการเมืองเนลสัน แมนเดลลา ประธานรัฐสภา รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เป็นต้น

แต่ในประเทศไทย การสร้างแผนฉากทรรศน์ฉบับอดัม กลับวนเวียนอยู่ในกลุ่มคนของรัฐบาลดังปรากฏเป็นข่าว (เดอะเนชั่น) “...มีผู้นำภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคการเมืองและเอกชนเข้าร่วม อาทิเช่น นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม นักพัฒนาอาวุโส วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย นักการตลาด นายสมชาย หอมละออ กรรมการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.)...”

ถามว่านายปณิธานเป็นใคร นายไพบูลย์เป็นฝ่ายใหน แต่ให้คนเหล่านี้รับผิดชอบการทำแผนโดยไม่มีการกล่าวถึงฝั่งคู่ขัดแย้งเลยเช่น อดีตนายกฯ ทักษิณ หรือแกนนำคนเสื้อแดงที่ถูกจับคุกตาม พรก.ขณะนี้
2. การสร้างแผนดังกล่าว เขาดึงทุกภาคส่วนมานั่งรวมกัน แล้วพูดคุยกันทุกเรื่อง คุยทั้งเรื่องในอดีต เรื่องปัจจุบัน และพูดถึงอนาคต ดังเช่น “..ให้พูดถึงเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการเกิด ... เกมการตั้งสถานการณ์จำลองนี้ได้มอบอิสระในการคิดและพูดให้กับพวกเขาอย่างเหลือเชื่อ...” (หน้า 42-43)

จุดประสงค์เพื่อฝึกให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ “ฟัง” มากกว่าจะพูด แต่ปรากฏว่า ในการปรองดองบ้านเรา มีการพูดมาแล้วว่า การทำแผนปรองดองนั้น จะไม่พูดถึงอดีต แต่เราจะพูดถึงอนาคตกันว่าเราจะทำอย่างไรให้เกิดการปรองดอง ซึ่งเป็นหลักคิดที่สวนทางกันกับทฤษฎีโดยสิ้นเชิง เราไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่เราโดนสั่งให้ “ฟังเขาพูด”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ควรพูดได้มากที่สุดขณะนี้คือ “กลุ่มคนเสื้อแดง ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ” แต่เหมือนการแผนปรองดองฉบับอดัม และฉบับอานันท์ จงใจจะลืมคนเสื้อแดงออกไปจากระบบ หรือลืมไปเลยว่ายังมีคนไทยกลุ่มนี้หายใจรวยรินอยู่

3.การผ่อนคลายข้อกฎหมาย ข้อจำกัดบางประการ เพื่อให้มีการพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง “...รัฐบาลคนผิวขาวผ่อนคลายข้อจำกัดด้าน “การแบ่งแยกสีผิวในที่สาธารณะ” สมาชิกทุกคนทุกสีผิวสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกขวางกั้นด้วยเส้นแผบ่งแยกระหว่างการเป็ฯคนผิวดำหรือผิวขาว พรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้าน....” (หน้า 43-44)

จุดนี้ต้องการ “ละลายพฤติกรรม” และทำลาย “น้ำแข็ง” ในใจของคนทุกคนที่เข้าสัมมนา เขาต้องวาง “ยศฐาบรรดาศํกดิ์ ตำแหน่ง ปืนดาบรถถัง กฎหมาย และหัวโขนทั้งปวง” ไว้นอกห้อง แล้วเดินเข้ามาห้องสัมมนาด้วย “ความเท่าเทียมกัน” เพราะหากมีใครสักคนหรือกลุ่มหนึ่ง “ใหญ่” กว่าคนอีกกลุ่มหรือทั้งหมด โอกาสที่จะได้คุยกันอย่างเปิดอกทุกเรื่อง เพื่อผ่าทางตันของประเทศ ก็ไม่สามารถเกิดได้

4. เมื่อมองไปรายชื่อของ ผู้จัดสัมมนา ก็ล้วนเกี่ยวพันกับรัฐบาลกันเองทั้งสิ้นโดย โดยเฉพาะ ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ เลขาธิการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง ผู้จัดงานก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นอดีต ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) เจ้าของโครงการชุมชนพอเพียง ที่มีข่าวทุจริตเป็นโครงการชุมชนแพงเพียบ จนต้องลาออก ดร.สุมิทได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า “..ผมได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และสุดกำลังความสามารถ เนื่องจากโครงการชุมชนพอเพียงมีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจชุมชนและประเทศชาติ...”

แต่ที่สุดจนบัดนี้ โครงการชุมชนพอเพียงก็เงียบหายไปกับสายลม เหลือไว้แต่ตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ รถไถนาที่วิ่งไม่ได้ เสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ผุๆ เท่านั้น

อย่างนี้จะให้ผมฝากความไว้วางใจ “แผนปรองดองฉบับ อดัม คาเฮน” ได้อย่างไร ผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่า การเชิญนายอดัม มาบรรยายแผนปรองดองนั้น “ไม่มีอะไรแอบแฝง”