ที่มา ไทยรัฐ นโยบายโคตรประชานิยมที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประเคนลงไปจนถึงชาวไร่ชาวนา จะเป็นสวัสดิการโบนัสทำให้ คุณภาพชีวิตของคนยากคนจนดีขึ้น ชาวนา 17 ล้านคนต่อไปนี้จะอยู่ดีกินดี หรือสุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับนโยบายไทยเข้มแข็ง ชาวบ้านตาดำๆถูกจับเป็นตัวประกันดูดแต่ไม้ไอติมตามเดิม หมัดเหล็ก
ชาวบ้าน เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง ต้องเอากระดูกมาแขวนคอเพิ่มหนี้กันอีกบานตะไท จึงต้องพิจารณากันให้รอบคอบ เพราะงบประมาณรายจ่ายที่รัฐบาลทำออกมาทุกปี เป็นงบประมาณแบบขาดดุล งบประมาณปี 2554 ต้องใช้เงินกู้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้าน อัฐยายซื้อขนมยาย เอางบประมาณที่ชาวบ้านต้องแบกรับภาระมาใช้สร้างคะแนนนิยม งบประมาณที่รัฐบาลโฆษณาชวนเชื่อว่าจะถึงมือชาวบ้าน ก็กลายเป็นชาวบ้านที่มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและนักการเมืองทุกระดับแบ่งปันกันอย่างทั่วถึง
งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 อัปยศตั้งแต่ยังไม่คลอด จัดสันปันส่วนกันเรียบร้อย ตัดลดงบประมาณไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้าน เพื่อมาจัดสรรให้นักการเมืองเอาไปแสวงหาผลประโยชน์ ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ฮั้วกันสนุก ลดหลั่นตามลำดับความสำคัญ ระดับร้อยล้าน จนถึง 30-40 ล้าน
ถึงได้บอกว่างบประมาณปี 2554 อย่างไรเสียก็ต้องผ่าน เหตุผลคงไม่ต้องอธิบายกันให้เมื่อยตุ้ม ที่รัฐบาลชุดนี้พยายามประคับประคองสถานการณ์การเมืองมาจนถึงวันนี้ก็เพราะสองเหตุผล งบประมาณกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เรื่องยุบสภาลาออกที่เคยพูดเพื่อเอาตัวรอดบ่อยๆ ลืมไปได้เลย
เวรกรรมของคนไทย โง่ จน เจ็บ แถมเจ็บแล้วก็ไม่รู้จักจำ งบประมาณยังไม่คลอดก็มีการชักหัวคิวกันไปเรียบร้อย หมายความว่า มีการตั้งเป้าที่จะทุจริตตั้งแต่ยังเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ผ่านสภา คิดโครงการตั้งงบกันไปเบ็ดเสร็จ
ตั้งใจจะทุจริตกันตั้งแต่เป็นวุ้น
ประเทศไทยก็ยังเป็น สองมาตรฐาน ไม่มีที่สิ้นสุด คน ส่วนน้อยเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ คนส่วนใหญ่ ยังด้อยโอกาส เป็นพลเมืองชั้นสอง และยังไม่ได้รับความยุติธรรม อย่างเท่าเทียม
ความเป็นธรรมที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ก็ยังมีความ แตกต่าง ช่องว่างความเป็นธรรม ระหว่างชาวบ้านตาดำๆกับอภิสิทธิ์ชนกลุ่มหนึ่ง ห่างกันเหมือนฟ้ากับเหว
รัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไปอย่างไร หรือไม่คงไม่มีตัววัด เช่นเดียวกับประเทศที่ประชาธิปไตย เจริญแล้ว ซึ่งวัดได้จากจิตสำนึกของนักการเมืองและประชาชนสำหรับประเทศด้อยพัฒนาอย่างเราๆแล้วคงไม่ต้องไปตั้งความหวังอะไรมากเกินไป ยุคนี้บ้านเราไม่ต่างอะไรจากแดนสนธยาบ้านป่าเมืองเถื่อน
อยู่ใต้เงาเผด็จการ.