ที่มา บางกอกทูเดย์ พม่ายังตั้งธงเพื่อ “เลือกตั้ง” ในอีกสามเดือนข้างหน้า.. ใครที่อ่านเกมว่า “เมืองไทย” จะหนีการเลือกตั้งด้วยการให้มี “รัฐบาลแห่งชาติ” มาขัดตาทัพบริหารประเทศไปพลางๆ.. เลิกคิดได้เลย เพราะผู้คนทั้งประเทศไม่รู้จะเอาหน้าซุกหนีชาวโลกไปหลบที่หีบใบไหน!! ทุกคนอ่านเกมทลุพอๆ กัน! “การเมืองใหม่” ภายใต้การขับเคลื่อนของ สนธิ ลิ้มทองกุล จึงเริ่ม “ตัดริบบิ้น” ด้วยการส่งผู้สมัคร สก.และ สข. เป็นการปูพื้นนำร่อง ใช้แผน “เปิดกรงนก” เพื่อปล่อยให้นกบินสะดวก...ด้วยการ “แอ็คชั่น” โขก นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จังๆ เรื่องที่ทำ เอ็ม.โอ.ยู.ไว้กับเขมรสมัย ชวน หลีกภัย โน่น! เป็นการสร้างรันเวย์ให้นกกระพือปีก..เพราะเช็คกระแสแล้วไม่ฮือเท่าที่ควร เอาเป็นว่าทั้ง “พ่อยก-แม่ยก” ระหว่าง “การเมืองใหม่” กับ “ประชาธิปัตย์” ใช้หม้อหุงข้าวหม้อดียวกัน ยุทธการ “แย่งหม้อข้าว” จึงจำเป็นต้องเกิดขึ้น!! ในขณะที่ “ประชาธิปัตย์” รู้ทันเหลี่ยม..ทาง “วอร์รูม” จึงนำแผน “แหอำมหิต” ยัดใส่มือ “อภิสิทธิ์” เพื่อใช้เหวี่ยงออกมาครอบนกทั้งกรง และก็ได้ผล..เมื่อ “อภิสิทธิ์” โดดขึ้นเวทีพันธมิตร เข้าคลุกวงในกอดปล้ำรัดเอวตีเข่าโดยที่คู่ต่อสู้ไม่สามารถ “ออกอาวุธ”ได้ถนัด.. วันรุ่งขึ้นยังลากศพ เอ๊ยลากคู่ต่อสู้มาที่เวทีของตนอัดไปอีกดอกทีนี้ “อยู่หมัด” “การเมืองใหม่” รู้ทั้งรู้.. แต่ดันไปหลงเหลี่ยมโดดขึ้นเวทีศัตรู เลยโดนรังสีจาก “แหอำมหิต” เข้าเต็มเปา ได้แต่ดิ้นขลุกๆ อยู่ภายใต้บ่วงแห ภาษิตจอมยุทธว่า ซือ อี้ เชี่ยน, จั่ง อี้ จื้อ อันนี้นับเป็นบทเรียนมีค่ายิ่งของ “การเมืองใหม่” ที่ได้รู้ได้เห็นฤทธิ์เดชของ “นายกฯอภิสิทธิ์” ว่าจะประมาทไม่ได้ทั้งปัจจุบันและอนาคต คิดเอา ประชาธิปัตย์ ให้ราคา พันธมิตร และ การเมืองใหม่ แค่ไหน!! ดูได้จาก “ศิริโชค โสภา” ในวันนั้นได้ออกมายืนแถวหน้าทันที..มีหน้าที่คอยชูป้ายให้คนอ่าน..สู้กับ “พันธมิตร” เอาแค่ “วอลเปเปอร์” ออกศึกก็เหลือเฟือแล้ว!!
แปลเป็นไทยว่า “ตกหลุมครั้งหนึ่ง ฉลาดขึ้นครั้งหนึ่ง”
แม้จะฉลาดขึ้นมาบ้าง..แต่ในทาง “การเมือง” จะตกหลุมพรางใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น