ที่มา ข่าวสด
สัมภาษณ์พิเศษ
ประกาศเป็นเสื้อแดงเต็มตัวแล้ว สำหรับ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือ น้องเดียร์
และยังสานต่อเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้พ่อ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล โดยเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคขัตติยะธรรม ที่เสธ.แดง ก่อตั้งมากับมือ
เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ประสานงานของพรรคไปแล้ว 4 จังหวัด ใน 4 ภาค ประกอบด้วย เชียงใหม่ อำนาจเจริญ ชลบุรี และพังงา
หากพรรคมีส.ส. จากการเลือกตั้ง ก็ขอเป็นแนวร่วมพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
แต่ภารกิจในฐานะทายาทเสธ.แดง ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
ยังต้องเดินหน้าหาสมาชิกให้พรรค เตรียมความพร้อมสำหรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง
รวมถึงเตรียมตัวลงสมัครส.ส.
หลายคนมองว่าที่ผ่านมาพรรคขัตติยะธรรมไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่
การจัดตั้งพรรคของพ่อ มีความลำบากตั้งแต่ต้น ช่วงแรกจะใช้ชื่อว่า "พรรคเสธ.แดง" แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไม่อนุญาต ถึงเปลี่ยนมาใช้ "พรรคขัตติยะธรรม"
จริงๆ ตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่ พรรคขัตติยะธรรม ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว คือได้รับการจดทะเบียนจากกกต. มีสมาชิกพรรคครบ 5,000 คน มีกรรมการบริหารพรรค ตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด
แต่ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพ่อที่เข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เน้นการดูแลผู้ชุมนุม พ่อไม่ค่อยได้พูดถึงพรรคขัตติยะธรรม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรค ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระบบยุติธรรมที่ยังไม่ยุติธรรมในสายตาของหลายๆ คน หรือปัญหาเศรษฐกิจการเมือง สังคม การศึกษา
การที่พ่อไม่ค่อยได้พูดถึงมากนัก ทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควร และมองว่าพรรคขัตติยะธรรม ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่าง คนที่รู้จึงเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ และเมื่อไม่มีพ่ออยู่แล้ว ตอนนี้จึงเป็นโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ยังอยู่กับพรรคต่อไป และยังมีสมาชิกใหม่ ที่เห็นด้วยกับแนวพรรคมาสมัครเป็นสมาชิกของพรรค และเลือกพรรคขัตติยะธรรมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นี่คือหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป
แนวทางการทำงานของพรรค
พรรคขัตติยะธรรมไม่ใช่พรรคที่ร่ำรวย ตั้งแต่พ่อก่อตั้งพรรคมาก็ไม่เคยรับเงินบริจาค เพราะแนวทางของพ่อตั้งแต่ตั้งพรรค ใครต้องการลงสมัครส.ส.ในนามพรรค จะต้องหาทุนด้วยตัวเอง ต้องไม่เดือดร้อนหัวหน้าพรรค
กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกคนอื่นๆ ทุกคนต้องมีทุนของตัวเองถ้าจะมาร่วมพรรค ถ้ายอมรับในจุดนี้ได้ พรรคขัตติยะธรรมยินดีรับเป็นสมาชิก และส่งลงสมัครส.ส.ในนามพรรค
ฉะนั้น การใช้เงินเรียกคนมาเป็นสมาชิกพรรคจึงไม่มี วิธีการได้มาซึ่งคะแนนเสียง เดียร์จะต้องลงไปด้วยตัวเอง เช่น ลงไปที่สงขลา หาดใหญ่ และพังงา เพื่อพบประชาชน ไปหาคะแนนเสียงด้วยตัวเอง อย่างที่พ่อทำมาตลอด
ที่ผ่านมาพ่อเดินสายพบประชาชนทั่วประเทศทั้งที่ไม่มีเงิน แต่ให้ความใกล้ชิด ให้ความเป็นกันเอง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนรักพ่อ รักเสธ.แดงมากขนาดนี้ จากการลงพื้นที่ของเดียร์ที่จ.สงขลา จึงได้รับเสียงตอบรับที่ดี แม้จะมีการบอกล่วงหน้าไม่นานก็ตาม
จุดเด่นและความพร้อมของพรรคขัตติยะธรรม
เราอยากสร้างฐานเสียงของตัวเอง จะไม่มีการดึงส.ส.จากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ มาลงสมัครในนามพรรค ถามว่าหากพื้นที่นั้นมีการทับซ้อนกันของคะแนนเสียงจะทำอย่างไร ก็ต้องบอกว่าให้ประชาชนตัดสินตามแนวทางของประชาธิปไตย
ตอนนี้หากมีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ พรรคขัตติยะธรรมก็พร้อมในสนามการเลือกตั้ง ถึงแม้เวลานั้นจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็พร้อมจะแก้และเข้าสู่การเลือกตั้งได้
มีแนวคิดจะลงสู้ศึกในสนามท้องถิ่นหรือไม่
ยังไม่มี และแนวทางของพ่อก็ไม่เคยมี เพราะพรรคขัตติยะธรรม อยากทำงานในมุมกว้างทั่วประเทศ ไม่ได้เจาะจงเป็นพื้นที่เหมือนการเมืองท้องถิ่น
เน้นพื้นที่ไหนในประเทศเป็นพิเศษ
เน้นทั่วประเทศ เนื่องจากแนวทางการทำงานของพ่อที่เดินสายทั่วประเทศ รวมถึงคนที่เข้ามาคุยกับเดียร์ ก็มาจากหลายจังหวัดมาก ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวใน 2-3 จังหวัด แต่มีเกือบทั่วประเทศ จึงไม่ลงว่าตรงไหนเป็นฐานเสียง
นโยบายของพรรคขัตติยะธรรม
ประการแรก คือต้องการเข้ามาดูระบบกฎหมายของประเทศไทย ที่เป็นปัญหา อยากให้ประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในระบบศาล หรือกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เช่น ให้มีคณะลูกขุน ช่วยผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี ให้รู้ถึงความคิดเห็นของประชาชนในการตัดสินคดีต่างๆ บ้าง
หรืออัยการที่อาจมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เหมือนการเลือกส.ส. หากมีที่มาอย่างนี้ อัยการหรือคณะลูกขุนจะทำเพื่อประชาชน คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่าที่เป็นอยู่
ในด้านเศรษฐกิจ จะช่วยแก้ปัญหาพ่อค้าคนกลางที่กดราคาผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ด้วยการจัดตั้งสหกรณ์ จะได้มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เงินจะตกอยู่กับเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ส่วนการศึกษา คำถามที่มีมานานแล้วคือ ทำไมตอนนี้มีเพียงโรงเรียนประจำจังหวัด และจบแล้วต้องไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ต้องเลือกจุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์
นโยบายทางการศึกษาของพรรคคือทำอย่างไรให้นักเรียนที่เรียนจบ ม.6 เลือกมหาวิทยาลัยในจังหวัดของตัวเอง โดยมหาวิทยาลัยนั้นต้องได้รับมาตรฐาน เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยชั้นนำในกรุงเทพฯ เช่นกัน เรื่องนี้มองดูอาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ามีโอกาสได้ทำและไปศึกษาปัญหาอย่างจริงจัง คิดว่าสามารถทำได้
จะเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่
ที่ผ่านมา เดียร์บอกเสมอว่าจะไม่เป็นหัวหน้าพรรคเอง เพราะเกรงว่าหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย และหากมีการกลั่นแกล้งทางการเมือง พรรคถูกยุบ เดียร์ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย พรรคขัตติยะธรรมก็จะหายไป เดียร์ไม่อยู่พรรคก็จะหายไปเลย
แต่มาคิดดูแล้ว พรรคของพ่อก็อยากให้เป็นพรรคของพ่อเสมอ ก่อตั้งโดยพ่อ คนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็คือทายาท ก็คือเดียร์เอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ต้องยอมรับ เดียร์จะเป็นหัวหน้าพรรคเอง
ลงสมัครเขตไหน
พ่อตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่า อยากให้เดียร์ลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อในเขตกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ส่วนอีก 7 เขตทั่วประเทศก็ให้เป็นหน้าที่ของสาขาพรรคแต่ละภาคว่าจะพิจารณาส่งใครลงสมัครเอง
คาดหวังมากแค่ไหน
ไม่กล้าตอบว่าคาดหวังมากขนาดไหน เพราะไม่อยากให้คำพูดมาผูกมัดตัวเอง อยากให้เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า แต่ถ้าถามว่าหวังหรือไม่ ต้องตอบว่าหวังแน่นอน
กลัวหรือกังวลในเกมการเมืองหรือไม่ หลังจากประกาศว่าเป็นเสื้อแดงเต็มตัว
ไม่กลัวหรือกังวล เพราะการดำเนินการของพรรคตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องกลัวถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ไม่ใช่คนเสื้อแดงทุกคนทำผิดกฎหมาย
ในเมื่อประกาศว่าเดียร์ยืนข้างพ่อ พ่อคิดอย่างไรเดียร์คิดอย่างนั้น เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่พบเจอคนเสื้อแดงรวมถึงกำลังใจที่ได้รับจากพี่น้องคนเสื้อแดง ทำให้รู้ว่า เดียร์ควรเลือกยืนอยู่ข้างเดียวกับพ่อ
ฉะนั้นการที่เลือกยืนอยู่ข้างนี้แล้วไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย
จะมีการฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาว่า เสธ.แดง อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายต่างๆ หรือไม่
ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานในการแถลงข่าวทุกวัน จะสามารถเอาผิดในฐานะหมิ่นประมาทได้หรือไม่ ต้องดูหลักฐานว่ามีมากแค่ไหน เพราะถ้าไม่มีหลักฐานพอ ฟ้องไปก็เปล่าประโยชน์
สิ่งแรกที่ทำหากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.
อยากให้ความยุติธรรมกับคนเสื้อแดง นี่คือสิ่งที่ต้องการ อยากให้ความยุติธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์ 10 เม.ย. และเดือนพ.ค. ทุกคน
และยังสานต่อเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้พ่อ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล โดยเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคขัตติยะธรรม ที่เสธ.แดง ก่อตั้งมากับมือ
เดินหน้าจัดตั้งศูนย์ประสานงานของพรรคไปแล้ว 4 จังหวัด ใน 4 ภาค ประกอบด้วย เชียงใหม่ อำนาจเจริญ ชลบุรี และพังงา
หากพรรคมีส.ส. จากการเลือกตั้ง ก็ขอเป็นแนวร่วมพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
แต่ภารกิจในฐานะทายาทเสธ.แดง ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
ยังต้องเดินหน้าหาสมาชิกให้พรรค เตรียมความพร้อมสำหรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง
รวมถึงเตรียมตัวลงสมัครส.ส.
หลายคนมองว่าที่ผ่านมาพรรคขัตติยะธรรมไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่
การจัดตั้งพรรคของพ่อ มีความลำบากตั้งแต่ต้น ช่วงแรกจะใช้ชื่อว่า "พรรคเสธ.แดง" แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไม่อนุญาต ถึงเปลี่ยนมาใช้ "พรรคขัตติยะธรรม"
จริงๆ ตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่ พรรคขัตติยะธรรม ก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว คือได้รับการจดทะเบียนจากกกต. มีสมาชิกพรรคครบ 5,000 คน มีกรรมการบริหารพรรค ตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนด
แต่ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพ่อที่เข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เน้นการดูแลผู้ชุมนุม พ่อไม่ค่อยได้พูดถึงพรรคขัตติยะธรรม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรค ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระบบยุติธรรมที่ยังไม่ยุติธรรมในสายตาของหลายๆ คน หรือปัญหาเศรษฐกิจการเมือง สังคม การศึกษา
การที่พ่อไม่ค่อยได้พูดถึงมากนัก ทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควร และมองว่าพรรคขัตติยะธรรม ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่าง คนที่รู้จึงเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ และเมื่อไม่มีพ่ออยู่แล้ว ตอนนี้จึงเป็นโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ยังอยู่กับพรรคต่อไป และยังมีสมาชิกใหม่ ที่เห็นด้วยกับแนวพรรคมาสมัครเป็นสมาชิกของพรรค และเลือกพรรคขัตติยะธรรมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นี่คือหน้าที่ที่ต้องทำต่อไป
แนวทางการทำงานของพรรค
พรรคขัตติยะธรรมไม่ใช่พรรคที่ร่ำรวย ตั้งแต่พ่อก่อตั้งพรรคมาก็ไม่เคยรับเงินบริจาค เพราะแนวทางของพ่อตั้งแต่ตั้งพรรค ใครต้องการลงสมัครส.ส.ในนามพรรค จะต้องหาทุนด้วยตัวเอง ต้องไม่เดือดร้อนหัวหน้าพรรค
กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกคนอื่นๆ ทุกคนต้องมีทุนของตัวเองถ้าจะมาร่วมพรรค ถ้ายอมรับในจุดนี้ได้ พรรคขัตติยะธรรมยินดีรับเป็นสมาชิก และส่งลงสมัครส.ส.ในนามพรรค
ฉะนั้น การใช้เงินเรียกคนมาเป็นสมาชิกพรรคจึงไม่มี วิธีการได้มาซึ่งคะแนนเสียง เดียร์จะต้องลงไปด้วยตัวเอง เช่น ลงไปที่สงขลา หาดใหญ่ และพังงา เพื่อพบประชาชน ไปหาคะแนนเสียงด้วยตัวเอง อย่างที่พ่อทำมาตลอด
ที่ผ่านมาพ่อเดินสายพบประชาชนทั่วประเทศทั้งที่ไม่มีเงิน แต่ให้ความใกล้ชิด ให้ความเป็นกันเอง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนรักพ่อ รักเสธ.แดงมากขนาดนี้ จากการลงพื้นที่ของเดียร์ที่จ.สงขลา จึงได้รับเสียงตอบรับที่ดี แม้จะมีการบอกล่วงหน้าไม่นานก็ตาม
จุดเด่นและความพร้อมของพรรคขัตติยะธรรม
เราอยากสร้างฐานเสียงของตัวเอง จะไม่มีการดึงส.ส.จากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ มาลงสมัครในนามพรรค ถามว่าหากพื้นที่นั้นมีการทับซ้อนกันของคะแนนเสียงจะทำอย่างไร ก็ต้องบอกว่าให้ประชาชนตัดสินตามแนวทางของประชาธิปไตย
ตอนนี้หากมีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ พรรคขัตติยะธรรมก็พร้อมในสนามการเลือกตั้ง ถึงแม้เวลานั้นจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็พร้อมจะแก้และเข้าสู่การเลือกตั้งได้
มีแนวคิดจะลงสู้ศึกในสนามท้องถิ่นหรือไม่
ยังไม่มี และแนวทางของพ่อก็ไม่เคยมี เพราะพรรคขัตติยะธรรม อยากทำงานในมุมกว้างทั่วประเทศ ไม่ได้เจาะจงเป็นพื้นที่เหมือนการเมืองท้องถิ่น
เน้นพื้นที่ไหนในประเทศเป็นพิเศษ
เน้นทั่วประเทศ เนื่องจากแนวทางการทำงานของพ่อที่เดินสายทั่วประเทศ รวมถึงคนที่เข้ามาคุยกับเดียร์ ก็มาจากหลายจังหวัดมาก ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวใน 2-3 จังหวัด แต่มีเกือบทั่วประเทศ จึงไม่ลงว่าตรงไหนเป็นฐานเสียง
นโยบายของพรรคขัตติยะธรรม
ประการแรก คือต้องการเข้ามาดูระบบกฎหมายของประเทศไทย ที่เป็นปัญหา อยากให้ประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในระบบศาล หรือกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เช่น ให้มีคณะลูกขุน ช่วยผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี ให้รู้ถึงความคิดเห็นของประชาชนในการตัดสินคดีต่างๆ บ้าง
หรืออัยการที่อาจมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เหมือนการเลือกส.ส. หากมีที่มาอย่างนี้ อัยการหรือคณะลูกขุนจะทำเพื่อประชาชน คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่าที่เป็นอยู่
ในด้านเศรษฐกิจ จะช่วยแก้ปัญหาพ่อค้าคนกลางที่กดราคาผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ด้วยการจัดตั้งสหกรณ์ จะได้มีอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เงินจะตกอยู่กับเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ส่วนการศึกษา คำถามที่มีมานานแล้วคือ ทำไมตอนนี้มีเพียงโรงเรียนประจำจังหวัด และจบแล้วต้องไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ต้องเลือกจุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์
นโยบายทางการศึกษาของพรรคคือทำอย่างไรให้นักเรียนที่เรียนจบ ม.6 เลือกมหาวิทยาลัยในจังหวัดของตัวเอง โดยมหาวิทยาลัยนั้นต้องได้รับมาตรฐาน เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยชั้นนำในกรุงเทพฯ เช่นกัน เรื่องนี้มองดูอาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ามีโอกาสได้ทำและไปศึกษาปัญหาอย่างจริงจัง คิดว่าสามารถทำได้
จะเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่
ที่ผ่านมา เดียร์บอกเสมอว่าจะไม่เป็นหัวหน้าพรรคเอง เพราะเกรงว่าหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย และหากมีการกลั่นแกล้งทางการเมือง พรรคถูกยุบ เดียร์ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วย พรรคขัตติยะธรรมก็จะหายไป เดียร์ไม่อยู่พรรคก็จะหายไปเลย
แต่มาคิดดูแล้ว พรรคของพ่อก็อยากให้เป็นพรรคของพ่อเสมอ ก่อตั้งโดยพ่อ คนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็คือทายาท ก็คือเดียร์เอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตก็ต้องยอมรับ เดียร์จะเป็นหัวหน้าพรรคเอง
ลงสมัครเขตไหน
พ่อตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่า อยากให้เดียร์ลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อในเขตกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ส่วนอีก 7 เขตทั่วประเทศก็ให้เป็นหน้าที่ของสาขาพรรคแต่ละภาคว่าจะพิจารณาส่งใครลงสมัครเอง
คาดหวังมากแค่ไหน
ไม่กล้าตอบว่าคาดหวังมากขนาดไหน เพราะไม่อยากให้คำพูดมาผูกมัดตัวเอง อยากให้เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า แต่ถ้าถามว่าหวังหรือไม่ ต้องตอบว่าหวังแน่นอน
กลัวหรือกังวลในเกมการเมืองหรือไม่ หลังจากประกาศว่าเป็นเสื้อแดงเต็มตัว
ไม่กลัวหรือกังวล เพราะการดำเนินการของพรรคตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องกลัวถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ไม่ใช่คนเสื้อแดงทุกคนทำผิดกฎหมาย
ในเมื่อประกาศว่าเดียร์ยืนข้างพ่อ พ่อคิดอย่างไรเดียร์คิดอย่างนั้น เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่พบเจอคนเสื้อแดงรวมถึงกำลังใจที่ได้รับจากพี่น้องคนเสื้อแดง ทำให้รู้ว่า เดียร์ควรเลือกยืนอยู่ข้างเดียวกับพ่อ
ฉะนั้นการที่เลือกยืนอยู่ข้างนี้แล้วไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย
จะมีการฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาว่า เสธ.แดง อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายต่างๆ หรือไม่
ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานในการแถลงข่าวทุกวัน จะสามารถเอาผิดในฐานะหมิ่นประมาทได้หรือไม่ ต้องดูหลักฐานว่ามีมากแค่ไหน เพราะถ้าไม่มีหลักฐานพอ ฟ้องไปก็เปล่าประโยชน์
สิ่งแรกที่ทำหากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.
อยากให้ความยุติธรรมกับคนเสื้อแดง นี่คือสิ่งที่ต้องการ อยากให้ความยุติธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์ 10 เม.ย. และเดือนพ.ค. ทุกคน