ที่มา ข่าวสด
เป็นความแตกต่างที่ไทยถือเอาประเด็นเรื่อง "เขตแดน" เป็นปัญหาใหญ่
เป็นความแตกต่างที่กัมพูชาประเมินว่าปัญหาเรื่อง "เขตแดน" อยู่ในระดับที่ไม่สามารถเจรจากันได้ระหว่าง 2 ประเทศ
นั่นคือ ไม่ใช่เรื่องของ "ทวิภาคี" หากแต่ต้องการให้เป็นเรื่องของ "พหุภาคี"
เห็นได้จากไม่เพียงแต่กัมพูชาจะทำหนังสือถึงประธานที่ประ ชุมใหญ่สหประชาชาติ เลขาธิการสหประชาชาติ และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หากแต่ยังทำหนังสือถึงเวียดนามในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน
ขณะที่ไทยยังยืนกรานให้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาจำกัดกรอบเป็นการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ เป็นเรื่องของทวิภาคี ไม่ใช่เรื่องของพหุภาคีหรือมีชาติอื่นเข้ามา
ความแตกต่างนี้ระยะยาวไม่น่าจะเป็นผลดีต่อไทย
ที่ว่าไม่น่าจะเป็นผลดีต่อไทยนั้นมองจากสภาพความเป็นจริงของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ดำรงอยู่ในขณะนี้
ต้องยอมรับว่า ไม่ดีเลย
ไม่เพียงแต่ไทยจะเพิ่งประกาศยกเลิกบันทึกความเข้าใจในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หากแต่ไทยยังประกาศถอนตัวเอกอัครราช ทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับ และไทยยังเดินหน้าไม่ยอมให้การจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกดำเนินไปอย่างราบรื่น
ที่สำคัญก็คือ ไทยยกเอาประเด็นเรื่อง "เขตแดน" มาเป็นปัจจัยสำคัญที่มิอาจยอมรับในเรื่องการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ เป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลายาวนาน
ตรงนี้เป็นปัญหาที่ทางกัมพูชาออกมายอมรับว่าเป็นทางตันและไม่สามารถตกลงกันได้ในระดับทวิภาคี หากแต่จำเป็นต้องอาศัยที่ประชุมนานาชาติเป็นเวทีในการจัดการ
ความต้องการนี้กัมพูชาเสนอตั้งแต่ปี 2552 มาแล้ว
ถามว่าในบรรยากาศแห่งความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ไทยกับกัมพูชาสามารถนั่งลงเจรจากันอย่างสันถวมิตรสนิทสนมหรือ
ตอบได้เลยว่า ยาก และยากอย่างยิ่ง
เห็นได้จากการที่คณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไปอันเป็นเรื่องระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยกับกระทรวงกลาโหมกัมพูชาต้องเลื่อน
เห็นได้จากการที่คณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนหรือที่เรียกว่าเจบีซี ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยกับกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ก็ไม่สามารถประชุมร่วมกันได้กว่า 1 ปีมาแล้ว
เห็นได้จากความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาลดระดับจากระดับเอกอัครราชทูตมาอยู่ในระดับอุปทูต
และต่างก็กล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำดินแดนของอีกฝ่าย
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจึงเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในขั้นไม่มีใครฟังกัน ต่างคนต่างพูด
ความสัมพันธ์เช่นนี้เปราะบางอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์เช่นนี้ล่อแหลมอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์เช่นนี้มีโอกาสสูงมากที่จะขยายจากการใช้คำพูดเป็นการกระทำที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
นั่นเท่ากับเรื่องระดับทวิภาคีจบ และเป็นจุดเริ่มต้นแห่งพหุภาคี