ที่มา ไทยรัฐ
การต่อสู้ทางการเมืองที่เปลี่ยนยุทธวิธีทำให้หน้ากระดานทางการเมืองเปลี่ยนไป รัฐบาลไม่จำเป็นต้องอาศัยกฎหมายความมั่นคงเพียงอย่างเดียว เพราะเวลานี้น่าจะเหมาะกับการทำสงครามมวลชนมากกว่า
ที่ผ่านมา รัฐบาลโดย ศอฉ.เหวี่ยงแหกวาดต้อนเอา นักโทษการเมือง ไปกักขังไว้เป็นจำนวนมากและยังทำการไล่ล่าตามล้างตามเช็ดทุกวิถีทาง ใช้ทั้งอำนาจรัฐและอำนาจมืด จนคนเสื้อแดงโงหัวไม่ขึ้น
ปรากฏว่าการใช้อำนาจของรัฐหมิ่นเหม่ต่อการ ละเมิดสิทธิ-มนุษยชน จนกระทั่งมีการเคลื่อนไหวตรวจสอบจากต่างชาติ ทั้งยังปรากฏว่ามีหนังสือจากกระทรวงยุติธรรมให้เร่งรัดดำเนินการกับคนเสื้อแดงด้วย หลักฐานต่างๆโยงไปถึงการตั้งใจที่จะขุดรากถอนโคนประชาชนที่เป็นศัตรูรัฐบาลให้สิ้นซาก
การใช้อำนาจในการฝากขังมีปัญหาหรือที่เรียกว่า ขังลืม เมื่อถูกตรวจสอบมากเข้า ก็มีการปล่อยนักโทษการเมืองออกมา แต่วันรุ่งขึ้นมีหมายเรียกไปแปะไว้หน้าบ้าน สาเหตุก็คือทำคดีแบบเหวี่ยงแหเลยปิดบัญชีไปลง โยงไปถึงเรื่องที่ดีเอสไอ ขออัตรากำลังเพิ่มอีก 300 คน ก็พอจะเดาอะไรได้
ในขณะที่มีนักโทษการเมืองบางส่วนได้รับการปล่อยตัวออกมาอย่างไม่มีเหตุผลหากให้ความร่วมมือกับรัฐ ถึงขนาดว่ามีผู้ใหญ่ในดีเอสไอไปคุยกับนักโทษ ขอให้มาช่วยทำงานบางอย่างแลกกับการปล่อยตัว
ดังนั้น การยังจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ ก็ไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับ ประเทศไทยยังตกอยู่ภายใต้อำนาจมืด อย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกจับตาเรื่องของสิทธิมนุษยชนมากที่สุด กระทบถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ร่วมทั้งสื่อมวลชนต่างชาติก็ติดตามตรวจสอบอย่างไม่ลดละ จนเป็นที่ขวางหูขวางตารัฐบาล
มีนักข่าวต่างชาติสัญชาติอเมริกันที่ติดตาม การเสียชีวิตของช่างภาพชาวอิตาลี ในขณะกำลังสลายการชุมนุมที่บริเวณสวนลุมพินี ถูกคุกคามโดยการไม่ต่อวีซ่าให้
เริ่มมีนักโทษที่เลือกข้างโทรศัพท์ไปข่มขู่นักโทษด้วยกัน เริ่มมีการปิดปาก ตัดตอน เป็นสัญญาณว่าวิกฤติการเมืองจะตกผลึกเป็นวิกฤติบ้านเมืองอย่างถาวร
ที่รัฐบาลยังลังเลที่จะพูดถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ใช่เพราะกลัวจะแพ้การเลือกตั้ง แต่ ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของชีวิต แนวทางการตัดสินใจแก้ปัญหาบ้านเมืองของรัฐบาลกำลังนำไปสู่หายนะครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศในเร็วๆนี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.
หมัดเหล็ก
เพื่อไทย
Monday, August 16, 2010
ร้ายกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
วันนี้รัฐบาลจะเตรียมข้อมูลชง ครม.เพื่อ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกกระทอก อาจจะเหลือแค่ กทม.หรือไม่กี่จังหวัด แต่คงไม่ถึงกับยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมด ซึ่งก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านมากนัก ยกเว้นเจ้าหน้าที่ทหารอาจขาดรายได้เบี้ยเลี้ยงงบลับงบความมั่นคงไปบ้างเล็กน้อย