ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มีความสงสัยมานานแล้วถึงมาตรฐานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยุค นายธาริต เพ็งดิษฐ์
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจพิเศษในมือ แต่กลับนำไปใช้เพื่อสนองรัฐบาล
จนไม่เหลือความเป็นกลางอยู่แล้ว!?
ก่อนหน้านี้นายธาริตออกมาระบุเองว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อให้เห็นชอบสั่งฟ้องคดีที่เกี่ยวกับแกนนำนปช. และยังให้เร่งสั่งฟ้องให้ทันกำหนดผลัดฟ้องฝากขังนัดสุดท้ายอีกด้วย
ตรงนี้ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน การชี้นำและแทรกแซงให้อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องคดีไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการนั้นทำไม่ได้เด็ดขาด!
การสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหาขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความเห็นของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม หรืออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
และที่ประจวบเหมาะกันจริงๆ
อัยการก็มีความเห็นสั่งฟ้อง 19 แกนนำ นปช.ว่า เป็นตัวการให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน
ตอนนี้ก็เท่ากับว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ รวมทั้ง ศอฉ. สามารถจับตัวการฆ่าประชาชนได้แล้ว!??
แต่เชื่อว่าสังคมก็ยังกังขาอยู่ดี
ยกตัวอย่างง่ายๆ
คดี 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ที่มีพยานนับไม่ถ้วนยืนยันว่าเห็นวิถีกระสุนยิงมาจากรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
เหยื่อสไนเปอร์ที่บ่อนไก่ ดินแดง ซอยรางน้ำ ศาลาแดง ลุมพินี สีลม ตายไปนับไม่ถ้วน ที่บาดเจ็บทุพพลภาพก็ออกมายืนยันแล้วว่าใครเป็นคนยิง
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
คดีนักข่าวญี่ปุ่นและอิตาลีโดนยิงเสียชีวิตจนกลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ญาติพี่น้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบการตาย
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
การดำเนินคดีต้องยึดที่พยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ใช่ตั้งธงไว้ล่วงหน้าว่าจะออกมาแบบไหน หรือออกมาแบบที่ถูกใจใคร
ถึงเวลานี้รัฐบาลต้องเลิกซื้อเวลาอยู่ไปวันๆ เลิกปฏิเสธความรับผิดชอบ
คำถามง่ายๆ ถ้าไม่สั่งเคลื่อนกำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามเข้าไปสลายม็อบแล้วจะบาดเจ็บล้มตายขนาดนี้หรือ??
เมื่อมีการบาดเจ็บล้มตายแล้วก็ต้องสอบสวนให้กระจ่างและโปร่งใส
ไม่ใช่สอบเองเออเองแบบนี้
องค์กรต่างประเทศต้องการเข้ามาร่วมสอบเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง รัฐบาลกลับปิดกั้นไม่ยอมรับ
ถึงแม้ว่าวันนี้จะสรุปกันไปเองแล้วว่า 91 ศพเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
แต่อย่าลืมว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ความจริง 91 ศพเอาใบบัวปิดไม่มิดหรอก
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจพิเศษในมือ แต่กลับนำไปใช้เพื่อสนองรัฐบาล
จนไม่เหลือความเป็นกลางอยู่แล้ว!?
ก่อนหน้านี้นายธาริตออกมาระบุเองว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อให้เห็นชอบสั่งฟ้องคดีที่เกี่ยวกับแกนนำนปช. และยังให้เร่งสั่งฟ้องให้ทันกำหนดผลัดฟ้องฝากขังนัดสุดท้ายอีกด้วย
ตรงนี้ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน การชี้นำและแทรกแซงให้อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องคดีไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการนั้นทำไม่ได้เด็ดขาด!
การสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหาขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่
ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความเห็นของรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม หรืออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
และที่ประจวบเหมาะกันจริงๆ
อัยการก็มีความเห็นสั่งฟ้อง 19 แกนนำ นปช.ว่า เป็นตัวการให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน
ตอนนี้ก็เท่ากับว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ รวมทั้ง ศอฉ. สามารถจับตัวการฆ่าประชาชนได้แล้ว!??
แต่เชื่อว่าสังคมก็ยังกังขาอยู่ดี
ยกตัวอย่างง่ายๆ
คดี 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ที่มีพยานนับไม่ถ้วนยืนยันว่าเห็นวิถีกระสุนยิงมาจากรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
เหยื่อสไนเปอร์ที่บ่อนไก่ ดินแดง ซอยรางน้ำ ศาลาแดง ลุมพินี สีลม ตายไปนับไม่ถ้วน ที่บาดเจ็บทุพพลภาพก็ออกมายืนยันแล้วว่าใครเป็นคนยิง
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
คดีนักข่าวญี่ปุ่นและอิตาลีโดนยิงเสียชีวิตจนกลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ญาติพี่น้องออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบการตาย
แต่ดีเอสไอสรุปว่าเป็นฝีมือของ 19 แกนนำนปช.
การดำเนินคดีต้องยึดที่พยานหลักฐานเป็นหลัก ไม่ใช่ตั้งธงไว้ล่วงหน้าว่าจะออกมาแบบไหน หรือออกมาแบบที่ถูกใจใคร
ถึงเวลานี้รัฐบาลต้องเลิกซื้อเวลาอยู่ไปวันๆ เลิกปฏิเสธความรับผิดชอบ
คำถามง่ายๆ ถ้าไม่สั่งเคลื่อนกำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามเข้าไปสลายม็อบแล้วจะบาดเจ็บล้มตายขนาดนี้หรือ??
เมื่อมีการบาดเจ็บล้มตายแล้วก็ต้องสอบสวนให้กระจ่างและโปร่งใส
ไม่ใช่สอบเองเออเองแบบนี้
องค์กรต่างประเทศต้องการเข้ามาร่วมสอบเพื่อให้เกิดความเป็นกลาง รัฐบาลกลับปิดกั้นไม่ยอมรับ
ถึงแม้ว่าวันนี้จะสรุปกันไปเองแล้วว่า 91 ศพเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
แต่อย่าลืมว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ความจริง 91 ศพเอาใบบัวปิดไม่มิดหรอก